“โจ้ ธนากร-โบกี้ จิตรคุปต์” ชวนดูภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด”

“โจ้ ธนากร-โบกี้ จิตรคุปต์” ชวนดูภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด”

       ทำเอาแฟนๆ ต่างรอคอยสำหรับภาพยนตร์ลี้ลับเรื่องใหม่อย่าง “ลับแลคำชะโนด” ภาพยนตร์ที่แสดงถึงอานุภาพความรักความต่างของสายพันธ์มนุษย์และพญานาค, อิทธิฤทธิ์เมืองบังบด, ความลึกลับของคำชะโนด ที่ถูกเขียนขึ้นเป็นบทประพันธ์และบทภาพยนตร์จาก นิมิต จินตนาการ โดย “ปิฏษฎา ทรงกลด” อำนวยการสร้างโดย รายาเมย์ ท้าวใค บริษัทอาร์ทิสสตาร์เอเชีย จำกัด นำแสดงโดย “โจ้ ธนากร เสียงเพลิน” , “โบกี้-จิตรคุปต์ ศิลป์ชัยกิจ”, “พิมพ์ศราวดี จันทร์อิน, โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง” , “นภัทร ปั้นเหน่งเพชร” และดารานักแสดงชมรมคนศิลปะบันเทิง ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 3 ปี ในช่วงที่มีปัญหาเศรษฐกิจ และโควิด

อ่านต่อ:“ไอยูปริ้นซ์ ” ได้ยินเสียงดนตรีไทยระหว่าง ถ่ายหนัง “ลับแลคำชะโนด”

       โดยใช้ทุนการดำเนินงานสร้างกว่า 10 ล้านบาท ภาพยนตร์ สายมู “ลับแลคำชะโนด” ได้เปิดฉายให้พี่น้องประชาชน อำเภอบ้านดุงและใกล้เคียงได้ชมฟรีในรูปแบบหนังกลางแปลงเป็นรอบปฐมฤกษ์ เพื่อถวายบูชาแก่ พ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมานาคิณี ที่วัดป่าคำชะโนด จังหวัดอุดรธานี

        เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 เวลา 19.00-21.00 น. โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ นายอำเภอบ้านดุง เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เรื่องอัศจรรย์ เหลือเชื่อ ในวันฉายหนังกลางแปลงรอบปฐมฤกษ์ ซึ่งเป็นวันที่กรมอุตุได้แจ้งถึงสภาพฝนฟ้าว่าจะตกในเวลาที่ภาพยนตร์ฉาย 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ อำเภอบ้านดุง แต่ วันเวลานั้น ไม่มีฝนตก มีแต่พระจันทร์เต็มดวงขึ้นสวยงามบนท้องฟ้าและมีลายเมฆเหมือนเกล็ดพญานาคปกคลุมท้องฟ้าทั่วคำชะโนด..

       ซึ่งผู้ชมก็มีมากเป็นประวัติการณ์แตกต่างจากภาพยนตร์ที่เคยมาฉายทั่วไป ..และความอัศจรรย์ก่อนฉายก็ยังเป็นที่ถูกกล่าวถึงมากเมื่อทราบจากทีมงานว่า ก่อน 15 นาทีที่จะฉายภาพยนตร์ ไม่สามารถเปิดฉายได้เพราะเครื่องฉายหนังกลางแปลงไม่รองรับระบบ 4k ที่ทางผู้จัดนำภาพยนตร์มา หรือแม้แต่แก้ไขด้วยการฉายผ่านโน๊ตบุ๊คก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบเครื่องไม่อัพเดท แต่เมื่อเจ้าของหนังกลางแปลงและ พราห์มผู้ทำพิธีได้อธิษฐานขอ พ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมานาคิณี ภาพยนตร์ก็สามารถฉายได้อย่างอัศจรรย์ทันทีจนฉายจบ ระบบการฉายก็ตัดไม่สามารถเข้าระบบได้อีก..

         คำบอกเล่าของผู้ชม ภาพยนตร์“ลับแลคำชะโนด” ในคืนนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า หนัง “ลับแลคำชะโนด” ถ่ายทอดความเป็นคำชะโนดหรือ “วังนาคินทร์” ได้อย่างสมบูรณ์ มีเนื้อเรื่องเรียบง่าย, มีมุมมองให้คิด, ฉากโลเคชั่นสวยอลังการ, การเดินเรื่องลุ้นให้ติดตามเหมือนมีมนต์สะกดในขณะที่นั่งชมตลอดเวลา 82 นาที และเพลงประกอบก็ตื่นเต้นเร้าใจจนทำให้ไม่สามารถละสายตาจากการดูหนังได้.. ดูหนัง ลับแลคำชะโนด แล้วมีความสุข เหมือนได้รับพรจากคำชะโนด ..อยากให้หนังยาวกว่านั้น หรือมีภาค 2 ภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด” มีกำหนดฉายทั่วประเทศ เร็วๆ นี้