"เจมส์ มาร์" ปลื้มใกล้จบปริญญาโท ยังไม่โฟกัสเรื่องความรัก

"เจมส์ มาร์" ปลื้มใกล้จบปริญญาโท ยังไม่โฟกัสเรื่องความรัก

       ไม่รู้ว่าเรื่องการเรียนปริญญาโทตอนนี้หนุ่ม "เจมส์ มาร์" ใกล้จะจบหรือยังเพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะยุ่งสุดๆ ทั้งทำงานและเรียนไปพร้อมๆ กัน เพราะยุ่งขนาดนี้หรือเปล่าจึงทำให้หนุ่ม "เจมส์ มาร์" ไม่เคยมีข่าวเรื่องสาวๆ เลย

        สงกรานต์นี้ผมเองก็ยังไม่มีแพลนว่าจะไปไหน เพราะว่าที่ผ่านมาทำงานมาตลอด แล้วก็ยังไม่ได้คิดใกล้เข้ามาทุกวันก็ยังไม่ได้คิด น่าจะอยู่ที่บ้าน เพราะเราอยากใช้เวลาพักผ่อนมากกว่า ไปต่างจังหวัดรถติดแต่ถ้าเรามีเหตุต้องไปหรือมีงานต้องไปเราก็จะไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีและคิดว่าน่าจะพักผ่อนดีกว่า เพราะช่วงที่ผ่านมาถ่ายละครเยอะมาก ไหนจะมีงานช่อง ต้องเรียนอีก หลายอย่างมาก เลยคิดว่าช่วงนี้พักผ่อนดีกว่า แต่พักผ่อนที่ไหนยังไงเดี๋ยวค่อยคิดดีกว่าว่าจะเอายังไง เพราะตอนนี้ยังคิดไม่ออก ทุกปีจะพอรู้ว่าไปไหน แต่ปีนี้ผมไม่รู้จริงๆ ปกติเป็นคนชอบอยู่บ้านอยู่แล้วไหมหรอก็จริงๆเป็นคนชอบเที่ยว

      แต่แค่ช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อยู่บ้านไม่ค่อยได้ให้เวลากับตัวเองในกิจกรรมที่เราชอบทำ ไม่ค่อยมีเวลาไปเล่นกอล์ฟ ไปเล่นฟิตเนส เลยคิดว่าปีนี้จะชิลๆอยู่บ้านลองเปลี่ยนดูก็เป็นการพักผ่อนที่ดี พักที่บ้านก็คงง่ายๆ กินข้าว

       และทำอย่างที่ทุกคนทำก็คือรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ แล้วก็กินข้าวดูหนัง ทำอะไรที่ง่ายๆ แต่หยุดแน่ๆ พักกองช่วงสงกรานต์ไม่มีใครทำ กองถ่ายไม่ถ่ายก็ถือว่าเป็นโอกาสได้พัก 4-5วัน เป็นการชาร์ตแบตให้กับตัวเอง เพราะหมดวันพักปุ๊ปก็กลับมาถ่ายงานต่อเลย ส่วนเมื่อวานที่ไปผ่อนผันก็ปกติดี ปีนี้ปีที่ 4 เรารู้สึกว่าเรายังมีสิทธิ์ตามกฏหมายที่เรายังผ่อนผันได้อยู่และเราอยากจะใช้สิทธิ์ให้ฉลาด หมายความว่าดูตัวเองว่าตัวเองมีหน้าที่ที่จะต้องทำมากน้อยแค่ไหน แล้วก็อันไหนเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในเมื่อเรายังทำทุกอย่างในสิ่งที่กฏหมายขีดไว้ เราก็คิดว่าเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก่อน ส่วนปีหน้าจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากัน

       ส่วนปริญญาโทก็ใกล้จะจบแล้ว แต่อย่างที่บอกแล้ว คือช่วงที่ผ่านมาเวลาทำงานของเรามากขึ้น เวลาการเรียนของเราก็จะน้อยลงมาหน่อย ปีหน้าจบทันไหมก็ยังให้คำตอบไม่ได้ ผมขอบอกเลยว่าเรียนก็เรียนเรื่อยๆไม่ได้หยุดเรียนเลย ทำทุกวันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งสองฝ่าย ทั้งงานละคร งานเรียนที่ต้องไปให้ถึงที่สุด เรื่องเรียนไม่ได้แพลนไว้ว่าจะเรียนกี่ปี แต่ผมเชื่อว่าน่าจะพอดีๆ ไม่เกินเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด  ไม่เหนื่อยนะการทำงานควบคู่ ตั้งแต่เรียนปริญญาตรีแล้ว

      เพราะปริญญาตรีก็ถ่ายละครเยอะ เรียนก็ต้องเรียน ผมรู้สึกว่าสบายกว่าเพราะเรียนน้อยลง แต่ว่างานก็เยอะขึ้นซึ่งเราก็ภูมิใจที่เราได้ทีโอกาสทำงานเยอะมากๆ ตอนนี้เรื่องเรียนก็เหลือวิชาท้ายๆ มินิทีสิสที่ต้องใช้เวลา คือจะลงเรียนเยอะๆไม่ได้ เพราะว่าต้องให้เวลาแต่ละวิชาจริงๆ ไม่ใช่วิชาทั่วไปที่สามารถเรียนแล้วก็ส่งงานเสร็จ เราต้องไปรีเสิร์จจริงๆ หลายอย่างมาก ก็พยายามทำให้ดีที่สุด เฟดงานแล้วลุยเรื่องเรียนให้จบทีเดียวเลยไหมก็บอกไม่ได้เพราะว่าถ้าผมทำอย่างใดอย่างนึงมากเกินไป ผู้ใหญ่ทางช่องก็คุณต้องมีงานที่คุณต้องรับผิดชอบนะ แต่ผมจะมาถ่ายละครอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะผมมีภาระตรงการเรียนเหมือนกัน ผมเชื่อว่าที่ผมทำมาก็โอเคที่สุดแล้ว เรียกว่ายุ่งตลอดเวลาแต่ก็กำลังใจดี มีคนคอยซัพพอร์ทเยอะแล้วก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำที่ผ่านมาโอเคเลยไม่มีปีไหนต้องดร็อป

       หรืองานที่ต้องชน เราเลยเชื่อว่าที่เราทำอยู่โอเคมาก งานพรีเซ็นเตอร์ก็ต้องถามพี่เอเลย เหตุผลงานยุ่งเลยไม่ค่อยเห็นมีข่าวกับสาวๆเลย ก็คงเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วยแหละ เพราะเราเวลาส่วนตัวก็เวลาไปทำอะไรก็จะมีจุดหมายที่เราชอบทำ แล้วเราเองก็ไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้นด้วย เพราะเรามีสิ่งที่ต้องทำ เราไปโฟกัสเรื่องอื่นก็อาจจะทำให้สิ่งที่เราทำอยู่ไม่ดี แต่ไม่ได้ขีดนะว่าจะไม่มี แต่คือช่วงนี้เต็มที่กับงานกับเรียน คุยๆก็มีกับคุยกับเพื่อนๆ แต่ไม่ได้มีใครพิเศษ ไม่มีใครเลย ถ้ามีก็คงบอก แฟนคลับก็แซวว่าอยู่เป็นโสดมานานแล้ว แฟนคลับก็สบายๆเหมือนเพื่อนเหมือนครอบครัว เหงาไหมก็ไม่เหงานะเพราะถ่ายละครตลอด เวลากลับบ้านก็มีครอบครัวอยู่