ที่ต้องถูกหญิงราชนิกูล กลั่นแกล้ง ย่ำยีสารพัน ต่อมาก็รันทดหนักหนา ดราม่าเข้าไปใหญ่ ให้ ลูกรักเป็นลูกไอ้ใบ้กับนังชะนีขี้เรือน
แม้กระทั่งละครของค่ายเพื่อนบ้านเยี่ยงทีวีซีน ลูกชายก็เป็นแค่ผู้ชายซื่อบื้อไม่ทันเล่ห์ ไม่รู้เหลี่ยมชะนีแรดที่จะรวบหัวรวบหาง จับทําผัว
ตั้งแต่ "โฬม-พัชฏะ นามปาน" เลิกฝันจะเป็นโปรกอล์ฟ หันเหชีวิตมาเป็นพระเอก กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ก็ดราม้า ดราม่า ว่ามั้ยคะคุณขา
ว่าแล้ว "เจ๊ไก่-วรายู้ด" ผู้จัดคนเก๋ จึงปรารภกับปิยมิตรในวงชีวิต ว่าอยากจะเฟ้นหาบทบาทแปลกและใหม่ ให้ "ลูกโฬม" เล่นสักเรื่อง
"ตัวจริงเค้าน่ะนะ เธ๊อ น่ารัก ขี้เล่น ทะเล้นทะลึ่ง จะตาย" เจ๊ไก่ว่า
"งั้น..ให้พลิกมาเล่นบทกุ๊กกิ๊กจิ๊ เจ้าชู้กะล่อนบ้าง ดีมั้ยคะพี่เจ๊ไก่" ปิยมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกละครนําเสนอ ซึ่งเจ๊ไก่ก็เห็นงามตามนั้น
![](/content/news/kai111(7).jpg)
ว่าแต่... บทตลกโปกฮาแบบไหน หรือจากนวนิยายเรื่องใดหนอ จึงจะเหมาะและสมศักดิ์ศรี "พระเอกลูกรัก"เนื่องเพราะนิยาย เรื่องนั้นเจ้านี้ก็จอง เรื่องโน้นเจ้านั้นก็ซื้อตัดหน้า เอ...หรือจะเขียนพล็อตใหม่?
"ก็... "พ่อไก่แจ้ ไงคะพี่เจ๊ไก่ขา คุณน้องว่าเหมาะมั่กๆ ที่สําคัญยังไม่เคยมีใครเปิดซิงทําเป็นละครเลย จะมีก็แต่คุณเชิด ทรงศรี ทําเป็นหนัง จน "กรุง ศรีวิไล" มาแล้วเกิดไงคะ"
เริด!! อันนี้เดี๊ยนว่าเอง ค่ะ แต่คิดว่าเจ๊ไก่คงอุทานไม่ต่างไปจากนี้
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ บทประพันธ์ของ "กนกเรขา" ที่มีวลีฮิตไปทั่วพาราว่า "ปลงเสียเถอะ แม่จําเนียร" ก็ไปนอนอยู่ในอ้อมกอดแห่งรักของเจ๊ไก่เป็นที่เรียบร้อย มีการตกลงซื้อขายกับเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างถูกต้อง ใครอย่าได้หมายจะมาปาดเค้กให้เหนื่อยเปล่า
ไม่รัก แม่นอกไส้ชื่อ "ไก่-วรายุธ" ไม่จัดให้นะเคอะ "ลูกโฬม" ขา ♦