เปิดใจ “เก้า เกริกพล” ปมแตกหัก “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น”
เป็นดราม่าร้อนในโซเชี่ยล ณเวลานี้สำหรับกรณี “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ออกมาโพสต์กล่าวหาและตอบโต้ “เก้า เกริกพล” นักร้องลูกทุ่งที่ได้ร่วมฟีเจอริ่งจากเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ถึงส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมรวมถึงสัญญาใจ ทำให้ “เก้า เกริกพล” ต้องออกโรงไลฟ์สดอธิบายทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องทัวร์ลงพ่อของนักร้องที่ได้โทรไปสอบถามความถูกต้องจากส่วนแบ่งยูทูปจากเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ล่าสุด “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” โพสต์เตรียมแถลงข่าวในวันที่ 4 ส.ค. นี้ โดยวันนี้ “เก้า เกริกพล” ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นกับ "ดาราเดลี่" ว่า
อ่านข่าวต่อ : “เก้า เกริกพล” ไลฟ์ได้เงินแค่ 500
สำหรับจุดเริ่มต้นของดราม่าคือแรกๆ ผมได้ชื่อเสียงระดับหนึ่งแล้ว พี่เขาโทรหาผม ขอให้ไปฟีเจอริ่ง ก็คือร้องเพลงกับน้องสาวเขา ก่อนที่จะได้ร่วมงานกัน คือเขาทักมาให้ไปร่วมแจมเพลงนั้นสองรอบ ผมเคยไปออกรายการด้วยกันครั้งหนึ่ง เราก็สนิทกันมากขึ้นจนเป็นพี่น้องกัน จากนั้นก็ไปฟีเจอริ่งกับน้องสาวเขา จากนั้นเพลงก็ดังและประสบความสำเร็จ
ถามว่าน้อยใจไหม เหมือนร่วมงานกับเขาแต่เหมือนไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย อันนี้ผมก็น้อยใจนะ สิ่งที่เขาพูดกับผมก่อนหน้านี้ กับตอนนี้คนละแบบกันเลย คนละเรื่องเลย คือผมรู้ว่าเป็นเพลงของเขา แต่ส่วนหนึ่งเราก็ได้ร่วมงานเพลงของเขาเหมือนกัน
ด้านสัญญาไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรแต่แรก คือเป็นสัญญาใจจริงๆ ตอนนั้นพี่เขายังไม่ได้ทำค่าย พี่เขาก็มีอิสระ ก่อนทำเพลงก็ตกลงกัน ผม แม่ และพี่ พี่เขาบอกว่าจะดูแลน้องทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็จะดูแลผม
ส่วนเรื่องคืนเงิน 20,000 ให้เจนนี่ คือแบบนี้ครับ เรื่องที่พ่อไปขอ 30 เปอร์เซนต์ จากเขานั้นไม่จริงเลย แต่พ่อผมโทรหาเขา คือไม่ได้ติดต่อไปขอเงิน ตอนนั้นเพลงพอ 100 ล้านวิว พ่อโทรไปหาเขาจริง แต่บอกว่า เพลง 100 ล้าน คำขอบคุณยังไม่มีเลย แต่เขาบอกว่า พ่อพูดแบบนี้ พ่อต้องการเงินใช่ไหม ผมก็ตกใจมาก พอคุยเสร็จจากนั้นเขาก็โอนมา 20,000 บาท ก็โทรมาว่าขอบคุณที่ฟีเจอริ่งกับพี่ แล้วก็โอนมาให้ผมจริงๆ ผมไม่สบายใจที่โอนมา และพูดกับพ่อแบบนั้น ถ้าเกิดพ่อผมไม่โทรไป พี่เขาจะคิดถึงผมไหม
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงออกมาเรียกร้องตอนนี้ คือที่จริงเรารอคุยกับพี่เขามาก่อนหน้านี้แล้ว จริงๆ เรื่องนี้จบไปสักพักแล้ว ผมไม่ได้ต้องการเงินอะไรเลย เรื่องนี้มันจบไปตั้งแต่เพลงดังแรกๆ คือผมได้ส่งจดหมายทวงสิทธิ์ของผม จากทนายไปแต่แรกแล้ว พี่เขาก็ได้รับ แต่เขาก็เมิน หลังจากเขาเมิน ผมก็ไม่เอาอะไรเลย ผมก็เงียบไปเลย ผมก็รู้ว่า พี่เห็นแล้วแต่เขาไม่ต้องการจะเคลียร์
ส่วนที่ตอนนี้ทัวร์ลงพ่อของผม ถามว่าอยากชี้แจงอะไรบ้าง เรื่องนี้ผมไม่ค่อยพอใจ ตรงที่พี่เขาเอาพ่อผมไปโพสต์ ตอนนี้พ่อผมโดนด่ายันโคตร ผมไม่พอใจที่ครอบครัวผมโดนด่า เอาข้อมูลเท็จมาโพสต์ ถ้าพี่มีหลักฐานว่าพ่อผมพูดไม่ดีก็เอาออกมา
กับที่มีข่าวว่าผมไปเกาะกระแสเจนนี่ อันนี้ผมไม่ได้จะไปเกาะกระแสพี่เขาเลย ถ้าผมทำแบบนั้น คือผมไม่ได้เปิดประเด็นตรงนี้ แต่พี่เอาพ่อผมไปโพสต์เอง ผมได้รับความเสียหาย พ่อผมโดนหนัก
หากถามว่าปมที่แตกหักคือเรื่องเงินหรือเปล่า ผมว่าเรื่องเงินมันไม่ใช่ปม ผมว่าเราต่างคนต่างทำงานดีกว่า สิ่งที่เป็นแบบนี้คือ สัญญาใจ เขาพูดอีกอย่างแต่ทำอีกอย่าง และผมไลฟ์สดชี้แจงไปแล้ว ถ้าจะเคลียร์ลงตัว ผมไม่ต้องการอะไรมาก แค่อยากให้พี่ออกมาขอโทษ ถ้าเกิดสิ่งไหนที่ผมผิดก็ขอโทษได้ แต่ที่ผมพูดทั้งหมดคือความจริง อยากให้พี่พูดความจริงด้วย
ส่วนแบ่งในยูทูป ตอนนี้ผมไม่ต้องการแล้ว ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ที่ผมออกมาชี้แจงคือ ผมเก็บกดมาเป็นปี ตอนนั้นผมอายุ 15 เก็บกดมาสองปี ทุกวันมีคนมาถาม ให้ข้อมูลเท็จบ้าง ได้ค่าตัวแบบนั้น แบบนี้ ได้เป็นแสนคนถามาเยอะ ก็เลยบอกไปแบบนี้
สำหรับที่คนมองว่า "เจนนี่" เขาเพิ่งจะมีดราม่า เหมือนเราไปถล่มเขาเพิ่ม อันนี้ผมมองว่าไม่ใช่เลย ผมไม่ได้เปิดประเด็น แฟนคลับก็รู้ ไม่รู้ว่าข่าวรั่วได้อย่างไร เกิดจากแฟนคลับเอาไปคอมเมนต์ต่อว่ากัน แล้วมีเพจหนึ่ง โทรมาถามแม่ ว่าเป็นเรื่องอะไร แม่ก็บอกความจริงไป มันก็กลายเป็นกระแส แล้วพี่เอาพ่อผมไปโพสต์แบบนั้น ผมต้องออกมาแก้แบบนี้
เรื่องค่าตัว 500 บาทนี่คือเรื่องจริง ไปงานนี้ผมได้ค่าตัวมา 500 บาท พี่เขาไม่ได้โอนพี่เขาให้เงินสด ตอนนั้นผมมาจากพัทลุง มาออกรายการทีวีในกรุงเทพ จำได้ว่ารายการอะไรบ้าง สองรายการหลัง พ่อผมโทรหาทีมงานว่า ค่าตัว 500 ไม่พอค่าเดินทางนะ พอโทรไป พี่เขาโอนมา 3000 บาท สองรายการรวมกันนะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกรายการอีก
ถามว่าเจนนี่จะแถลง กังวลใจอะไรไหม อยากให้พี่พูดความจริง คนเราพูดอะไรต้องจำได้ ผมพูดไม่ต้องแต่งเติมอะไร ขอให้พูดความจริง โดยตอนนี้ผมก็ทำเพลงเรื่อยๆ กับ "พี่ติ๊ก ชีโร่" แต่สักวันผมจะทำให้สำเร็จเหมือนเพลงนั้นแน่นอน