“แม่น้องแพดเม่” โพสต์วอนหยุดต่อว่า“เจนนี่” เผยโทรมาด้วยใจอยากช่วยเหลือจริง..ด้าน สธ.ยันตาย65 ราย

“แม่น้องแพดเม่” โพสต์วอนหยุดต่อว่า “เจนนี่” เผยโทรมาด้วยใจอยากช่วยเหลือจริง..ด้าน สธ.ยันตาย65 ราย

      จากกรณีทัวร์ลง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ไลฟ์จะมอบเงินให้ “แม่น้องแพดเม่” ซึ่งเสียลูกสาวพลัดตกน้ำจากน้ำท่วมหาดใหญ่ ล่าสุดแม่น้องแพดเม่โพสต์

อ่านข่าวต่อ: “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เปิดเต้นท์รับของบริจาคสู้น้ำท่วมใต้

       โดยเธอโพสต์ว่า ว่าจะไม่โพสเรื่องข่าวโซเชียลแล้วค่ะ แต่ขอโพสสุดท้ายเพราะ สงสารน้องเจนนี่ และอยากขอให้เครดิตกับคนที่ดูแลพวกเราจริงๆ

      “และตลอดหลายปีที่ผ่านมา หมอป๊อป จิตแพทย์ของบ้านเรา และ ครูเป้นักจิตวิทยาเด็ก คลินิกเด็ก โตไปใจสุข หมอแคทลียา นักจิตวิทยาที่ดูแลกันมาตลอด เป็นทีมที่อยู่เคียงข้างและดูแลจิตใจพวกเราจริงๆ เมื่อคืนทั้งสองท่านสละเวลามาหา และอยู่กับเราจนดึกมากเพื่อช่วยฮีลใจ ขอบคุณจากใจเลยนะคะ และขอบคุณ ครูนิ่ม Nim Palita ผู้บริหาร รร.น้องแพดเม่ ที่ช่วยประสานทุกอย่างให้ด้วยค่ะ”

      “ส่วนกรณี ครูต้นไม้ ตามข่าวที่ระบุว่ารับเคสเรา น่าจะมีข้อมูลคลาดเคลื่อนค่ะ อาจเป็นเพราะว่าทางคุณครูพยายามติดต่อมาช่วย แต่เรายังไม่ได้มีโอกาสคุยกัน อย่างไรก็ดี ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยแจ้งให้ทุกคนทราบเรื่องการหยุดทำคอนเท้นต์เกี่ยวกับเรา ขอบคุณมากๆค่ะ”

     ส่วนกรณี “น้องเจนนี่” อย่าไปต่อว่าน้องเลยนะคะ น้องโทรมาด้วยใจอยากช่วยเหลือจริง และน้องก็ช่วยคนหลายคนมาก ถึงแม้จะไลฟ์สดตอนคุย แต่ก็ไม่ได้เอารูปน้องแพดเม่ไปลงใดๆ ขอบคุณนะคะ

       ส่วนเคสอื่นๆ ที่นำรูปน้องแพดเม่ไปใช้เปิดรับบริจาคหรือขายของ โดยอ้างว่าจะนำเงินมาช่วยครอบครัวเรา ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริงนะคะขอให้ทุกคนระมัดระวังมิจฉาชีพด้วยค่ะ ครอบครัวเรา ไม่เคยขอรับเงินบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น

      ถ้าใครตั้งใจจะช่วยน้องแพดเม่จริงๆ รบกวนขอให้เปลี่ยนเป็นการช่วยเหลือ ชาวหาดใหญ่ที่กำลังเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม แทนได้ไหมคะ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ

ต่อจากนี้จะไม่พูดถึงข่าวอะไรแล้วนะคะ ขอเวลาทำใจอยู่กับครอบครัว ขอบคุณมากๆค่ะ

       ด้าน “รองปลัด สธ.. แถลงยอด ‘ผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติ’ หาดใหญ่ 65 ศพ

       “รองปลัด สธ.. แถลงชัด ยอด ‘ผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติ’ หาดใหญ่ 65 ศพ พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้น 19 ศพ ญาติรับร่างกลับไปแล้ว 14 ศพ ยืนยันตัวเลขจริงต่ำกว่ากระแสโซเชียล

เมื่ิอวันที่ 29 พ.ย.68 ที่ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและการส่งกลับ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์และจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่

      โดยระบุว่าได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้เร่งสื่อสารทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันมีกระแสข่าวที่เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตออกไป ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นอาจคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับความเป็นจริง

นพ.ศักดา เปิดเผยข้อมูล ณ เวลา 16.00 น. วันที่ 29 พ.ย.ว่า มีร่างผู้เสียชีวิตที่เข้ามายังโรงพยาบาล ม.อ. จำนวนทั้งสิ้น 131 ราย ซึ่งสามารถจำแนกที่มาได้เป็น 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกคือร่างที่รับมาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ในช่วงที่เกิดอุทกภัย จำนวน 55 ราย ซึ่งเป็นส่วนที่ทางโรงพยาบาลเก็บรักษาไว้อยู่แล้ว

       ส่วนที่สอง คือการรับร่างเพิ่มเติมเข้ามาใหม่จำนวน 76 ราย โดยในจำนวนร่างที่รับมาใหม่นี้ มีผู้เสียชีวิต 11 รายที่เกิดจากการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เอง

      สำหรับผู้เสียชีวิตที่ถือว่า “เสียชีวิตผิดธรรมชาติ” มีจำนวน 65 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ทราบชื่อแล้ว 27 ราย และเป็นร่างที่ต้องดำเนินการพิสูจน์ทราบเอกลักษณ์บุคคลเนื่องจากไม่ทราบชื่ออีก 38 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการพิสูจน์เสร็จสิ้นไปแล้ว 19 ราย

      ทั้งนี้ หากนับตั้งแต่วันแรกที่มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลฯ จนถึงปัจจุบัน มีครอบครัวที่ติดต่อขอรับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านแล้วจำนวนทั้งสิ้น 14 ราย

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ตัวเลขดังกล่าวได้รับการตรวจสอบความถูกต้องร่วมกันจากทางกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่าเป็นข้อมูลจริง โดยจากการสังเกตการเดินทางเข้ามาของผู้เสียชีวิตในวันนี้ ซึ่งเฉลี่ยแล้วมีปริมาณไม่มาก ทำให้ยืนยันได้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยไม่ได้สูงตามกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ที่อาจนำเสนอเรื่องจริงไม่หมด จนทำให้ประชาชนสับสน

       นพ.ศักดาย้ำว่า ทางกระทรวงฯ ไม่เคยมีการบังคับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเรื่องการแจ้งจำนวนผู้เสียชีวิต แต่การรายงานยอด จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้น

      เมื่อถามถึงกรณีการเสียชีวิตของชาวมุสลิม ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติต้องมีการฝังร่างภายใน 24 ชั่วโมง จนอาจทำให้บางครอบครัวไม่สามารถนำร่างมายืนยันต่อศูนย์ปฏิบัติการฯ ได้ และเกิดความกังวลว่าจะกระทบต่อเงื่อนไขมาตรการเยียวยาของภาครัฐหรือไม่นั้น นายแพทย์ศักดา ชี้แจงว่าการเสียชีวิตในทุกกรณีจะต้องมีการออกใบมรณบัตรเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต

แต่ทั้งนี้ การจะระบุสาเหตุลงไปว่าเสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย จำเป็นจะต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่เสียก่อน จึงจะครบถ้วนตามกระบวนการ