จาก “รัศมีแข” ถึง พ.ร.บ.คู่ชีวิต
เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลกำลังจะพิจารณา พ.ร.บ.คู่ชีวิต ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะให้สิทธิของกลุ่ม LGBT หรือกลุ่มข้ามเพศ ได้รับสิทธิทางกฎหมายมากขึ้น อาทิ สิทธิอุ้มบุญ สิทธิการตัดสินใจทางการแพทย์ สิทธิการขอวีซ่าในการเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น ทว่ากฎหมายที่ทันสมัยก็มักจะขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีเดิมของไทย และนี่คือเรื่องราวของ พ.ร.บ.คู่ชีวิตที่เกี่ยวโยงกับวงการบันเทิง และคู่ชีวิตรักดาราข้ามเพศที่คนไทยทราบกันดี “รัศมีแข” นักแสดง-พิธีกร เผยถึงกรณี พ.ร.บ.คู่ชีวิต
อ่านข่าวต่อ:
แรงๆ “รัศมีแข” ตอบแซ่บ หลังถูกชาวเน็ตเวทนา
คือผมก็ตามเรื่องนี้อยู่ ตามที่ได้ศึกษามา พ.ร.บ.คู่ชีวิต เขาจะมีช่องให้สิทธิเบิกอะไรหลายเรื่อง เราบอกเลยว่าดีมาก คือสามารถทัดเทียมเท่ากับการได้สิทธิของคู่รักต่างเพศ เราชอบมาก แต่ของเราชายกับชายทุกวันนี้ก็เลยไม่ได้สิทธิตรงนั้น ถ้าทำได้กฎหมายนี้ก็โอเคมาก
ที่ผมไปจดทะเบียนสวีเดน คือกฎหมายไทยเราไม่รองรับนี่แหละ ที่จะให้คู่สมรสชายไทยกับไทย พอดี “แข” เป็นสวีเดนก็เลยตัดสินใจว่าไปแต่งงานที่สวีเดน เลือกที่จะจดทะเบียนที่นั่น
เรื่องสิทธิหรือการได้สัญชาติ อย่าง “แข” ไม่ทราบนะ “แข” โตมาที่นั่น อยู่ที่นั่นตั้งแต่ 9 ขวบ เรามีสัญชาติสวีเดนอยู่ “แข” ทราบแต่ว่าถ้าเป็นเรื่องการย้ายตามสามีก็จะได้สิทธิสัญชาติ ส่วนกฎหมายคู่ชีวิตที่ให้สิทธิเรื่องการอุ้มบุญ ดีมากนะสำหรับคนที่อยากมีลูก อยากอุ้มบุญ แต่อยากถามว่ากฎหมายนี้มันรองรับขนาดไหน ว่าเราไปฝากน้องแล้ว พอคลอดลูกมาจะไม่มีปัญหานะ เพราะเรากลัวการแย่งลูก จริงๆ กฎหมายตัวนี้ ไม่จำเป็นอุ้มบุญเฉพาะชายชาย หญิงหญิง อยากให้ทุกคู่ชายหญิงก็ได้รับสิทธิอุ้มบุญตรงนี้เหมือนกันหมด
สำหรับความพร้อมในไทยเรื่องการรับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต นั้น “แข” มองว่า สังคมไทยยัง 50-50 นะ เรื่อง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ส่วนตัวผมมองว่า กฎหมายนี้ได้รับความสนใจไม่มาก แม้จากเพศที่สามเองก็มีคนสนใจไม่มาก ผมอยากให้ทุกคนมาทำความเข้าใจกฎหมายตัวนี้ให้มากขึ้น ควรกระจายในกลุ่ม LGBT ให้มากกว่านี้ “แข” อยากให้มองเป็นความรู้ในมุมกว้างก่อน อย่าง “แข” เองเราแต่งเพราะหัวใจ ไม่ได้ต้องการสิทธิอะไร เราอยากอยู่ไปกันจนแก่ นี่คบกันมา 13 ปี ก็แล้วแต่คู่นะ มันไม่ใช่เรื่องเล็กนะจะแต่งงาน แล้วจะหย่าก็ไม่ควร มันละเอียดอ่อนมาก คือละเอียดอ่อนต่อสังคม ละเอียดออ่อนต่อคนรุ่นต่อไป และละเอียดอ่อนต่อคนรุ่นเก่าๆ ที่ไม่เข้าใจคนเพศที่สาม และยังไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต
ด้าน “เจมส์ นิติธร แก้วโต” ทนายความรายการกฎหมายของทีวีดิจิตอล เผยแก่ “ดาราเดลี่” กรณี พ.ร.บ.คู่ชีวิต ว่า ในแง่นักกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ผมมองว่าดี เป็นกฎหมายที่เคารพสิทธิความชื่นชอบส่วนตัวของบุคคล ในรักข้ามเพศ คือแค่เขาข้ามเพศ ไม่ได้เป็นอาชญากรสังคม สองเป็นการพัฒนาปัญหาตัวข้อกฎหมายที่เป็นอยู่เรื่องเพศ เช่น เดิมชายข่มขืนกะเทยไม่มีความผิด เพราะกฎหมายเดิมไม่เข้าองค์ประกอบผิดตามกฎหมาย ซึ่งต่อมากฎหมายก็ไม่ได้ระบุเพศแล้ว
พ.ร.บ.คู่ชีวิต จะมีประโยชน์มากๆ เช่น กรณีที่คู่ชีวิตมี ทรัพย์สินหรือหนี้สิน ถ้ามีกฎหมายรองรับก็จะเป็นทรัพย์สินร่วม จะต้องแบ่งครึ่ง แต่พอมาดูชายรักชาย ทุกวันนี้ไม่มีกฎหมายเปิดช่อง ถ้ามีทรัพย์สิน กฎหมายเปิดช่องเมื่อเราใส่ชื่อใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทรัพย์สินก็จะตกเป็นของคนนั้น ตอนนี้ไม่มีกฎหมายให้แบ่งกันได้ ถ้าเป็นหนี้สินก็ต้องรับผิดชอบไปตามยถากรรมเลย ไม่มีผูกพันตามกฎหมาย
ถ้าจดทะเบียนกันตามกฎหมายใหม่ได้ ถ้าหนี้สินเกิดจากเงินใช้จุนเจือครอบครัว หนี้สินจะต้องแบ่งครึ่งแม้ใครจะกู้ก็ตาม แต่กฎหมายไทยยังไม่ได้เปิดกว้าง กฎหมายตัวใหม่ถ้าผ่านได้จริงก็เป็นกฎหมายที่พัฒนามาก ทันสมัย ส่วนคนที่ค้านก็คงมองว่ากฎหมายนี้จะขัดกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
“ทนายนิติธร” เผยอีกว่า สำหรับคู่รักดาราที่ไปแต่งงานต่างประเทศ เมื่อกลับมาไม่มีผลสิทธิทางกฎหมายในไทยเลย เพราะกฎหมายไทยไม่ได้เปิดช่องไว้เลย ผลจากการจดทะเบียนทำให้เขาเป็นสัญชาตินั้นๆ แปลงสัญชาติโดยทันทีตามสามี มีสิทธิตามกฎหมายของประเทศนั้น ถ้ามีการฟ้องในไทย กฎหมายไทยไม่รองรับ