“พีท ทองเจือ” นักแสดงตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่

“พีท ทองเจือ” นักแสดงตัวอย่างของเด็กรุ่นใหม่

                 อีกหนึ่งนักแสดงหนุ่มหล่อตลอดกาล หลายคนคงนึกถึง “พีท ทองเจือ” กันอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นตัวท็อปในบทบาทการเป็นคุณพ่อตัวอย่าง ด้านการแสดงเขาก็ยังเป็นตัวท็อปแถวหน้าที่ผู้จัดฯ หลายคนต้องการตัวอีกด้วย งานนี้เราเลยไม่พลาดชวนเจ้าตัวมาล้วงลึกถึงจุดกำเนิดของการเป็นคนต้นแบบ ซึ่งหนุ่ม “พีท” เผยว่า 

อ่านข่าวต่อ

"พีท ทองเจือ" ควงภรรยา "เจ็ง" ตั้งเป้า ดัน "น้องโรเตอร์" เป็นนักแข่งรถระดับโลก

                 ชีวิตในวัยเด็กผมเกิดที่อเมริกา และกลับมาอยู่ไทยตอน 6 ขวบ พอ 7 ขวบเราก็เริ่มทำงานเลย ทั้งถ่ายโฆษณา ถ่ายหนัง มีละครบ้าง และผมทันได้ถ่ายละครสดที่ถ่ายไปออนแอร์ไปเดี๋ยวนั้นเลย สมัยช่อง 4 บางขุนพรหม เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดและสนุกมากๆ แต่เพราะเราทำงานแต่เด็ก เราเลยไม่มีเวลาตามหาความฝัน เราจะทำงานอยู่กับความจริงตลอด ต่างกับเด็กๆ ในช่วงนั้น เราเรียนและทำงานแค่ 2 อย่างจนอายุ 13 ปีเลย ก็คือเข้าวงการตั้งแต่อายุยังน้อย

                 ผลงานชิ้นแรกตอนนั้นก็คือโฆษณาเด็ก มีซีรีส์ยาว 3 ปี แต่ตั้งแต่ทำงานมา บอกเลยว่าประทับใจงานทุกงาน แต่ถ้าละครเราจะชอบแนวดราม่า ละครแอ็คชั่น น่าจะเป็นละคร “ซอสามสาย” เรื่องนี้ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเราเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นก็จะมี อังกอร์, หักลิ้นช้าง และทุกเรื่องที่เป็นแอ็คชั่น เพราะเราจะเลือกก่อนที่เราจะรับเล่นอยู่แล้ว กระแสตอบรับตอนนั้นก็ดีมาก ช่วงที่ฮอตมากๆ ละครทุกช่องก็จะมีเราออกอากาศทุกวัน บางวันก็สองช่องพร้อมๆ กัน เป็นอะไรที่เราทำงานเยอะ เหมือนยัดเยียดคุณผู้ชมไปในตัว (หัวเราะ)

                 ส่วนตัวไม่คิดว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงขนาดนี้ เพราะเราเองเป็นคนไม่คิดมาก ทำงานวงการบันเทิงบ้าง หยุดไปบ้าง เพราะเราเป็นคนที่กิจกรรมค่อนข้างเยอะ ผมไม่ค่อยยึดติดกับชื่อเสียง มันเป็นเรื่องของโอกาสในการทำงาน และเป็นสิ่งที่เราได้รับมอบหมายจากสังคม แต่ในมุมส่วนตัวเราก็มีสิ่งที่เราสนใจอยากจะทำมากกว่า

                 ไอดอลในวงการบันเทิงของผมคือคุณครูของผม นั่นก็คือ “คุณพิศาล อัครเศรณี” ถ้าพระเอกก็น่าจะเป็น “คุณภิญโญ ทองเจือ” เพราะตอนนั้นพ่อของผมเป็นนักแสดงมาดดี เราก็จะดูและจำเทคนิคต่างๆ จากพ่อ แต่ถ้าเป็นศิลปินนักร้องผมจะชอบ “พี่หนุ่ย อำพล ลำพูน” เขาเท่มากครับ ที่กล่าวมาทั้งหมดเราก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับทุกท่านแล้ว ก็ถือเป็นความโชคดีมากจริงๆ การที่เราจะเป็นดาวค้างฟ้าได้ บอกเลยว่าค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผลงานของเราจะเป็นสิ่งสำคัญที่บอกว่าเราจะมีชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงได้นานแค่ไหน สิ่งแรกที่ควรจะมีเลยคือวินัยในการทำงาน ถ้าเราทำงานดีแต่เรื่องอื่นไม่โอเค ยังไงก็แล้วแต่ เจ้าของงานก็จะไม่เลือกเรา อันดับที่สองที่เราจะได้โอกาสจากผู้ใหญ่ สิ่งที่สำคัญก็คือเรามีคนคอยซัพพอร์ตมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ สาม คืออย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว เราเป็นคนของประชาชน ไม่ใช่เจ้าของโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักวางตัว เราต้องแคร์แฟนๆ เป็นหลัก อะไรที่เราตอบแทนเขาได้และไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอย่างเช่นแค่การถ่ายรูป เราก็ควรต้องทำ เพราะอุดมการณ์ในการใช้ชีวิตจะเป็นตัวบอกคุณว่าแฟนๆ จะอยู่กับคุณแค่นี้หรืออยู่กับคุณตลอดไป ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างชัดเจนในการใช้ชีวิต ซึ่งผมคิดว่าส่วนนี้น่าจะไปโดนใจใครหลายๆ คน ในปัจจุบันเลยยังมีคนให้การยอมรับในตัวเรา และไว้ใจให้เราทำงาน 

                 สำหรับผลงานตอนนี้ ผมก็ถ่ายซีรีส์ของ Netflix อยู่ แล้วก็ซีรีส์ของทาง GMM 25 มีละคร “ทะเลเดือด” ของช่อง 7HD ตอนนี้มีติดต่อมาประมาณ 5-6 เรื่อง ยังไงก็ฝากผลงานของผมด้วย และที่สำคัญตอนนี้ผมไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว มีลูกๆ ทั้ง 3 คนด้วย แต่ละคนก็มีความชอบและคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนและแตกต่างกันไป ผมเชื่อว่าแฟนๆ หลายคนก็พอจะทราบว่าน้องๆ ทั้ง 3 คนมีความสามารถแบบไหนยังไง ก็ขอฝากทุกคนสนับสนุนทั้งผมและลูกๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ (ยิ้ม)