“ต่าย อรทัย” รับตั้งใจหอบเงินให้ครอบครัว หลังโหมงานหนักจนตนเจ็บป่วย

“ต่าย อรทัย” รับตั้งใจหอบเงินให้ครอบครัว หลังโหมงานหนักจนตนเจ็บป่วย

0

“ต่าย อรทัย” รับตั้งใจหอบเงินให้ครอบครัว หลังโหมงานหนักจนตนเจ็บป่วย

      เรียกว่าถือเป็นขวัญใจแฟนเพลงของใครหลายคน สำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว “ต่าย อรทัย” ที่ร้องเพลงมาเป็นเวลาหลายสิบปีแต่ก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด มีเวลาว่างจากการทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อไรเจ้าตัวก็จะกลับไปตอบแทนบุญคุณพ่อแม่และยายอยู่เสมอ และล่าสุดเจ้าตัวก็ได้หอบเงินนำไปเป็นของขวัญให้กับครอบครัวหลังจากที่ได้เงินมาจากการทำงาน งานนี้มีโอกาสเจอเจ้าตัวเลยถามถึงโมเมนต์นั้นสักหน่อย โดยเจ้าตัวเล่าว่า

อ่านข่าวต่อ :

"ต่าย อรทัย" ลุ้นแดนซ์สะบัดในคอนเสิร์ตใหญ่

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

     สำหรับเรื่องที่เราหอบเงินไปมอบให้พ่อแม่และคุณยายปึกใหญ่ ก็ตามที่โพสต์ไปเลย ความตั้งใจพอปีนี้ได้เป็นพรีเซนเตอร์ของแม่ศิริพร และเอไอเอส วันทูคอล มันก็น่าจะเป็นครั้งแรก คือจริงๆ ก็ให้คุณพ่อคุณแม่ตลอดทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษที่ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ก็เลยได้กลับบ้านไปทำบุญผ้าป่า ตั้งใจมอบให้ท่าน ก็ภูมิใจที่ได้รับงานนี้ที่เราจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ เราไม่เคยคิดมาก่อนอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะสินค้าต่างๆ และศิลปินก็เยอะมากในเมืองไทย ดาราศิลปินก็เยอะ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกอยู่แล้ว แต่เขาเลือกเรา ก็เลยให้ของขวัญกับที่บ้านอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ ภูมิใจค่ะ ท่านก็บอกว่าจะเก็บเอาไว้ใช้และจะแบ่งไปทำบุญ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าคุณยาย คุณพ่อคุณแม่จะเอาไปทำอะไร แค่เอาไว้ให้ท่านได้ใช้ แต่ท่านบอกจะเอาไปทำบุญเราก็รู้สึกว่ามันต่อยอด และเป็นสิริมงคลกับเรามากๆ

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

      หลังจากนั้นฟีดแบ็คจากแฟนคลับที่เห็นแบบนี้ก็มีชมกันเข้ามาเยอะ แฟนคลับก็บอกว่าดีใจที่เห็นเราทำแบบนี้ จะเอาเราเป็นแบบอย่าง ดีใจค่ะ ก็จะเป็นฟีดแบ็คแบบบวกๆ ยิ้มเป็นแรงผลักดันให้เราทำดีต่อไป

      กลับไปบ้านครั้งนี้ที่บ้านต้อนรับธรรมดาเลยค่ะ เรียบง่าย เพราะว่าบางทีกลับไปไม่ได้บอกใครเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้ประกาศบอกใคร ก็ตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ค่ะ เพราะหลังๆ พ่อแม่จะพูดเองว่าพ่อก็อายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วนะ ก็คิดว่าท่านอาจจะบอกเราว่าอายุหรือการใช้ชีวิตของท่านอาจจะไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม พอท่านพูดคำนี้เราก็เลยเริ่มคิด เพราะเราเคยหลายปีค่อยกลับ หรือกลับทีนับครั้งได้เลย ก็ต้องบริหารชีวิตตัวเองใหม่ พยายามตั้้งใจว่าจะกลับบ้านเดือนละครั้งค่ะ

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

      ส่วนอนาคตเรามองว่า ตอนนี้คือน้องชายกำลังมีหลานตัวเล็กๆ แล้วพ่อกับแม่ก็อายุมากขึ้น ก็มีความรู้สึกว่าถ้าเราพอจะช่วยอะไรได้ คือตอนนี้น้องชายกับน้องสะใภ้เขาก็ยังทำนาอยู่ หลานก็กำลังโตขึ้น อยู่ในวัยเรียน ก็คิดว่าอะไรที่เราพอจะซัพพอร์ตเขาได้ นอกจากทำนาแล้วหารายได้ช่องทางอื่น เราพอจะช่วยอะไรเขาได้บ้างโดยที่เขาก็ยังอยู่ที่นั่นได้ มองอยู่ว่าจะดูแลเขายังไง ในขณะที่เราเองก็มองเส้นทางการเป็นนักร้องของเราด้วยว่าเราจะแข็งแรงกับตรงนี้ได้อีกนานแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่คิดที่อยากจะกลับไปตั้งรกรากที่บ้านเกิดเลยค่ะ เพราะมีความเชื่อส่วนตัวนะคะว่าพอออกจากบ้านมาชีวิตเราก็ดีขึ้น แต่ถ้าเราอยู่กับที่ชีวิตเราก็จะอยู่กับที่ ก็คิดว่าอนาคตอาจจะไม่ได้อยู่บ้านเกิด แต่อาจจะอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลยังไม่ได้สรุปค่ะ

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

       คอนเสิร์ตเราจบไปแล้ว โล่งมากค่ะ แต่ก็ตามมาด้วยปัญหาสุขภาพ กระดูกอ่อนหุ้มลูกสะบ้ามันฉีก ก็มาหนักตอนที่เราซ้อมคอนเสิร์ต เพราะมีการออกกำลังกายด้วย อาจจะผิดจังหวะอะไรสักอย่างก็เลยทำให้เลิกเล่นแบดฯ ไปประมาณครึ่งปีได้แล้ว เหลือแค่ว่ายน้ำ แต่ว่ายน้ำก็มีผลกระทบ พอทำงานมันก็เริ่มบวม เริ่มปวด ก็เลยต้องเบรกนิดหนึ่ง นี่ก็ห่างออกกำลังกายไปหลายเดือน ช่วงคอนเสิร์ตก็ทรมานพอสมควร เล่นคอนเสิร์ตด้วย ออกกำลังกายด้วย แต่ก็ต้องทำเพราะต้องทำให้ปอดตัวเองแข็งแรงเพื่อให้คอนเสิร์ตผ่านไปได้ นี่ก็ผ่านไปได้เดือนหนึ่งแล้ว ก็เบรกการออกกำลังกายทุกอย่าง ต้องพักให้มันกลับมาสมานตัวได้เร็วขึ้น

ต่าย อรทัย ทำงานหนัก เก็บเงิน ครอบครัว

       ไม่หนักจนน่าเป็นห่วง แต่พรุ่งนี้คุณหมอนัดตรวจอีกทีค่ะ ก็ใช้วิธีทานยาเพื่อให้มันสมาน เพราะมันเป็นกระดูกอ่อน เขาบอกว่าเลือดมันจะไปเลี้ยงส่วนนั้นได้น้อยที่สุดค่ะ ส่วนอื่นๆ ดีแล้ว แต่ถ้าวิธีนี้ยังไม่ดีก็ต้องส่องกล้องเพื่อเย็บ แต่คุณหมอก็ยังไม่รู้ว่าถ้าส่องกล้องแล้วเย็บจะเป็นยังไง เพราะมันเป็นกระดูกอ่อน มันอาจจะมีสิทธิ์ฉีกได้ง่ายถ้าเราไม่ระวัง กลัวจะเป็นระยะยาว เพราะ 6 เดือนที่ผ่านมายืนหรือเดินไม่ได้เหมือนปกติเลย คือถ้ายืนเฉยๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าเดินน้ำหนักจะไปลงที่ขาซ้าย ตอนนี้ขาซ้ายก็เริ่มปวด ก็เดินได้ปกติค่ะ แต่ห้ามขึ้นลงบันได และเดินงอขามากๆ ไม่ได้ เพราะแผลที่ฉีกอยู่แล้วอาจจะฉีกเพิ่ม

       มีโอกาสหายขาดสนิท ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมือนนักกีฬาทั่วไป เพราะสาเหตุมันเกิดจากการที่เราเล่นกีฬา ไม่ได้เกิดจากการที่เราใส่ส้นสูง หรือจากการที่เราเป็นนักร้องหรือจากการทำงาน คิดว่าเราอาจจะยืดเหยียดผิดท่ามากกว่า พอไปนวดคลายเส้นมันก็ดีขึ้นแค่ตอนนั้น แต่พอมันนานเรื้อรังนานขึ้นเกินครึ่งปีแล้ว เราก็แอบกังวลเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังงอเข่าไม่ได้ค่ะ ตอนนี้โชคดีว่าเป็นช่วงหน้าฝน คอนเสิร์ตก็อาจจะเบาบางตามฤดูอยู่แล้ว ก็ถือเป็นช่วงที่ได้พักค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments