"ซี" รับเล่นละครช่องวัน ไร้แพลนมีทายาท
ถือว่าเป็นพระเอกที่ถูกจับตาหลังจากเป็นนักแสดงอิสระ สำหรับ "ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์" ที่ตกปากรับคำลงเล่นละครให้กับช่อง one เรื่อง "แก้วขนเหล็ก" โดยในครั้งนี้ประกบ "โอม อัชชา นามปาน" ที่ข้ามช่องมาเล่นด้วย พร้อมกับอัพเดทเรื่องทายาทเมื่อไหร่จะมี ล่าสุดมีโอกาสเจอหนุ่ม "ซี" ในงานบวงสรวงละคร "แก้วขนเหล็ก" เลยให้เจ้าตัวอัพเดทเรื่องราวต่างๆ
การทำงานในบ้านหลังใหม่ จะบอกว่าเป็นบ้านหลังใหม่ก็ไม่น่าใช่นะครับ เพราะจริงๆ เป็นการร่วมทำงานกับหลายบริษัทมากขึ้นดีกว่า ต้องบอกว่าก็ดีใจอยู่แล้ว และรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะในปีที่ผ่านมาเป็นไปอย่างที่เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่รับละครทั้งปี พอมาปีนี้เราเซ็ตอัพตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องรายการ ธุรกิจ ทุกอย่าง เราอยากจะทำในสิ่งที่เรารักอยู่แล้ว ผมค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกค่ายที่ผมจะมาเล่นด้วย รวมไปถึงบทประพันธ์ ก็เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการอยากจะเล่น
ห่างหายการแสดงไปปีหนึ่ง กลับมาร่วมงานกับค่ายใหม่ต้องปรับตัวเยอะไหม ก็ไม่นะครับ หน้าที่ของเราทำสิ่งที่ได้รับผิดชอบให้ดีที่สุด ส่วนคนดูจะชอบหรือไม่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่สุดกำลังจริงๆ ผมเป็นคนที่สุดกับทุกบทบาท ผมเทหมดหน้าตักเลย การเจอทีมงานใหม่ๆ เป็นความตื่นเต้นด้วยซ้ำ เลือดฮอร์โมนสูบฉีดได้กลับมาทำในสิ่งที่เรารัก จริงๆ ปีละครั้งมันก็เป็นความสุขในช่วงเวลา วันนี้เราอายุขนาดนี้ผมก็ทำมาเกือบจะทุกอย่างแล้ว มันก็เหมือนกลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คนเราเวลาทำอะไรไปนานๆ จะเกิดความชาชินกับมัน พอชาชินแล้วบางทีอาจจะต้องมีช่วงพักเบรกบ้าง พอเริ่มมีความรู้สึกโหยหา มีแพสชั่นอยากกลับมาทำอีก พลังที่เราเก็บไว้ในหนึ่งปีที่พักไปมันจะกลับมามากขึ้นกว่าเดิม ผมว่ามันเป็นข้อดีด้วยซ้ำ
งานพิธีกรจะลดลงไหม ไม่ครับ ยังทำเหมือนเดิม เพียงแต่กลับมารับละครเท่านั้นเอง วิธีการรับละครของผมก็ปีละเรื่อง
กลับมาเล่นละครอีกครั้งคาดหวังแค่ไหน ไม่ได้คาดหวังอะไร ไม่ได้หมายความว่าไม่คาดหวังเพราะกลัวผิดหวัง ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ได้เอาใจไปอยู่ที่ความคาดหวัง ใจผมจะอยู่ ณ ปัจจุบัน ถ้าทำปัจจุบันให้ดีสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมันเกิดจากวันนี้ที่ผมทำ หน้าที่ของเราทำวันนี้ เรามีสิทธิ์ร้อยเปอร์ เซ็นต์ที่จะทำให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตที่มันจะเกิดขึ้น
การเป็นนักแสดงอิสระ ตั้งเป้าการทำงานที่หลากหลายแนวทางมากขึ้น การเป็นอิสระคือการได้ร่วมงานกับคนที่เราอยากร่วมงานมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขของคำว่า ค่าย มาเป็นกำแพงกั้นเรา
กังวลกับฐานแฟนคลับจากช่องเดิม ที่พอย้ายช่องแล้วอาจมีบางส่วนไม่เข้าใจ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่สามารถบังคับความรู้สึกของใครได้จริงๆ ผมก็น้อมรับและเข้าใจความรู้สึกของทุกๆ ท่าน เหมือนการทานอาหาร บางคนชอบทานข้าวผัด บางคนชอบทานข้าวขาหมู เราไม่สามารถไปบอกเขาว่ามากินต้มยำเถอะมันอร่อยกว่า ซึ่งมันเป็นความชอบของแต่ละท่าน ผมเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่านอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นทางด้านที่ชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
เท่าที่ดูไม่มีคอมเมนต์ดราม่าอะไรนะครับ หรือมีผมก็ไม่ทราบจริงๆ นะ วันนี้เราอยู่ในวงการบันเทิงมาขนาดนี้ บวกกับวันเวลาที่มันเปลี่ยนแปลงไป มีกระแสโซเชียลอะไรต่างๆ เราเป็นทั้งสื่อมวลชน เป็นทั้งประชาชน เราต้องมีความเป็นผู้ใหญ่ เป็นต้นแบบที่ดี ไม่ได้หมายความว่าให้ยอมปลงกับชีวิตนะ แต่เราต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป เพราะว่าเราอยู่ในจุดตรงนี้ มีน้องๆ หลายท่านที่เห็นเราเป็นแบบอย่าง กระแสโซเชียลเป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้ไม่มีโซเชียลวันนี้เราจะทำอะไรก็ตามก็จะมีคนตัดสินเราทั้งด้านที่ดีและไม่ดีอยู่แล้ว เราอยู่จุดนี้เราควรเข้าใจกระบวนการระบบธรรมชาติของวงการนี้อยู่แล้ว
วันนี้ 27 มกราคม ตรงกับวันคล้ายวันเกิดด้วย ตื่นเช้ามายังไม่ได้ทำบุญเลยครับ ก็มาทำหน้าที่ของตัวเองก่อน ไม่เป็นไรครับ วันเกิดก็เป็นวันหนึ่ง เป็นการเตือนตัวเองว่าวันเวลาสังขารเป็นสิ่งที่หยุดไม่ได้ ร่างกายร่วงโรยตามกาลเวลา เพราะฉะนั้นเราควรจะใช้ชีวิตในทุกๆ วินาทีให้มีความสุข เพราะเราไม่รู้จริงๆ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา หนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง ความสุขมันยังไม่พอเลยจะไปทุกข์ทำไม ขอให้ทุกคนเริ่มต้นจากตัวเอง วันนี้พอเราเติบโตมาถึงจุดนี้ พอเราเปลี่ยนวิธีคิด เราก็ไม่ต้องรู้สึกเหนื่อย ไม่ต้องแบกภาระอะไรเลย เราก็แค่ใช้ลมหายใจเพื่อคนที่เรารักแล้วแค่นั้นมันมีค่ามากๆ เลยนะที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในทุกๆ วัน
มีแพลนทำอะไรกับภรรยาไหม ถ้างานเสร็จแล้วก็คงไปทานข้าวกับภรรยาเท่านั้นเอง ก็พอแล้ว เรื่องมีลูกปีนี้ถอดใจหรือยัง ไม่ได้ถอดใจหรอกครับ อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ “คุณเอมี่” เราก็คุยกันแล้วล่ะ ซึ่งเขาก็ชัดเจนในมุมของเขา ผมก็เข้าใจ ไม่เป็นไร
“เอมี่” ไม่อยากมีลูกแล้ว ก็ประมาณนั้น แต่ไม่ได้อยากให้ไปโยนความผิดให้เขานะ คนแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติ หลายคนบอกว่าทำไมไม่มีลูก แล้วมันจะสมบูรณ์แบบเหรอ ก็เข้าใจได้นะ มันคงสมบูรณ์แบบขึ้น แต่วันนี้ไม่ได้หมายความว่าชีวิตคู่ของเราไม่สมบูรณ์แบบ ชีวิตคู่ของเราสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว สำหรับผมมันดีพอแล้ว เพอร์เฟคท์แล้ว แต่อาจจะมีวงเล็บว่าถ้ามีลูกแล้วจะเป็นยังไงนะ กลับมาบ้านเจอ “ซีจูเนียร์” ตัวเล็กของพ่อ มันอาจจะไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นถ้าสมมติสุดท้ายเราจะไม่มีนะ แต่มันเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ เราไม่สามารถกำหนดอะไรตามที่เราคิดได้ทุกอย่าง หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้ก็มีหลายอย่างที่เราไม่ได้ทำ ถ้าเรามัวแต่ไปนั่งคิดซ่อมตัวเองมันก็จะมีแต่ความทุกข์ ทำไมๆ มันจะมีคำถามเยอะมาก แต่วันนี้เราหาสิ่งที่ตัวเองมีความสุขอยู่รอบข้าง เราก็จะไม่รู้สึกกังวลอะไรกับมันเลย ไม่เห็นเป็นไรเลย
แต่ในใจเรายังอยากมีลูก อยากมีครับ ถามว่ารอวันที่ภรรยาใจอ่อนไหม ไม่เป็นไรครับ ก็ตามเวลา ถ้ามันถึงเวลาแล้วอายุมากเกินไปก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องปรึกษาหมอครับ ปรึกษาเมีย คุยกับเมียดีกว่า เพราะว่าหมอคงช่วยไม่ได้ ไม่ได้อยู่ที่ความพร้อม วันนี้มันไม่พร้อมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว มันก็พร้อมสุดๆ แล้วครับ “เอมี่” เขารักเด็กมากครับ ผมว่าเขาจะต้องเป็นคุณแม่ที่น่ารักมากๆ