เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ปลื้ม ปุริม” จากความฝันสู่ความเป็นจริง 

เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ปลื้ม ปุริม” จากความฝันสู่ความเป็นจริง 

3

เปิดเส้นทางก่อนจะดัง “ปลื้ม ปุริม” จากความฝันสู่ความเป็นจริง 

              เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่แจ้งเกิดในวงการบันเทิงได้อย่างสวยงาม พร้อมมีผลงานออกมาให้ได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ปลื้ม ปุริม รัตนเรืองวัฒนา” ล่าสุดกับผลงานซีรีส์ “Happy birthday วันเกิดของนาย วันตายของฉัน” ที่ตอนนี้กระแสตอบรับดีมากๆ ว่าแต่ชีวิตในวัยเด็ก และเส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงของหนุ่ม “ปลื้ม” จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              ชีวิตในวัยเด็กก็เป็นธรรมดาทั่วไป ตอนเด็กๆ จะเป็นเด็กที่เล่นกีฬาก็จะไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับเพื่อนหรือว่าทำกิจกรรมเหมือนเด็กคนอื่นๆ ชีวิตก็จะมีเรียน แล้วตอนเย็นก็จะไปซ้อมกีฬา เราเป็นนักกีฬาแบดมินตันก็จะเล่นกีฬาเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแก๊งเพื่อนของเราก็จะมีอยู่ในสโมสรแบด อยู่โรงเรียนเดียวกัน เรียนห้องเดียวกัน หรือว่าเรียนกวดวิชาด้วยกัน วันหยุดก็จะไปกับเพื่อนนักกีฬาไปวิ่งขึ้นดอย ตีแบด อะไรแบบนี้ 

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              ความฝันในเด็กจริงๆ อยากเป็นทนายกับทหารมี 2 อย่าง ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้ชายก็จะได้เล่นตำรวจจับผู้ร้าย แต่ที่แหวกแนวมากๆ คืออยากเป็นโจร (หัวเราะ) เพราะเราคิดว่าถ้าเป็นตำรวจเราต้องไปวิ่งไล่จับ แต่ถ้าเราเป็นโจร เรายิงปืนอยู่กับที่ไม่ต้องทำอะไรเลย คือมันมีเข้ามาในความคิด แต่เป็นความคิดที่ยังเด็กอยู่ แต่จริงๆ แล้วสรุปความฝันที่อยากเป็นทหารก็เป็นทางที่เลือก ก็เลยเข้าไปเรียนกวดวิชา ที่เตรียมตัวไปสอบนายร้อยก็ไปเรียน

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิง ก็เริ่มต้นจากการที่เราไปเรียนกวดวิชาเพื่อสอบเตรียมทหารแล้วฝั่งตรงข้ามที่เรียนเป็นสตูที่เมื่อก่อนมันร้างอยู่ แล้ว “พี่มะเดี่ยว ชูเกียรติ” ที่เขากำกับหนังอยู่เชียงใหม่เขามาเปิดสตู ซึ่งเราไม่รู้ว่าพี่เขามาเปิดเพราะมันร้างมากๆ แล้วแถวนั้นจะมีรถขายลูกชิ้นอยู่ตรงสตู เลิกเรียนเสร็จเพื่อนก็อยากกิน ก็เลยให้เราไปส่งหน่อย เราก็ไปส่งแล้วทีมงานของ “พี่มะเดี่ยว” เห็นก็เลยเรียกเข้าไปแคสต์ดู ซึ่งใช้เวลาไม่นานในการแคสต์ เข้าไปก็ได้แคสต์เลย ตอนแรกเราปฏิเสธเพราะว่ากลัว เราไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาจะมาหลอกเราหรือเปล่า แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ชอบทางนี้มาก่อน เพราะเราบอกว่าเราตั้งใจไปสอบ ต้องบอกว่าเป็นดวงในการหลอกแคสต์ดีกว่า ด้วยการถามว่า เราน้ำหนักเท่าไหร่ ส่วนสูงเท่าไหร่ กรอกใบสมัครปุ๊บ ถ่ายรูปให้พี่หน่อย 1 ใบ เขาก็บอกว่ารอพี่แป๊บหนึ่งขึ้นไปแป๊บเดียว เราก็ไปแคสต์ ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าคำว่าแคสต์คืออะไร ให้บทมาเราก็มานั่งอ่านๆ เสร็จแล้วก็ไปแคสต์ที่เขาให้บทมา คนแคสต์พร้อมกับเราตอนนั้นก็เยอะเหมือนกัน แต่ละคนก็หน้าตาดีมีความสามารถทั้งนั้น ซึ่งเราไม่มีอะไรเลยตอนนั้น เขาให้แคสต์ก็แคสต์ๆ ไป แสดงตามบทที่เขาให้มาแค่นั้น หลังจากนั้น 1-2 อาทิตย์ทีมงานก็โทรกลับมาแจ้งว่าเราผ่านนะ เราก็งง เราก็ไปแจ้งพ่อกับแม่ว่า “พี่มะเดี่ยว” ว่าเราได้เล่นเรื่องนี้

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              เรื่องแรกคือเรื่อง “เกรียนฟิคชั่น” บอกพ่อกับแม่ ท่านก็บอกว่าให้ไปลองดูว่าเป็นประสบการณ์ เราก็มาลองเป็นประสบการณ์ ตอนเราเป็นเด็กเราไม่รู้เลยว่าการแสดงมันมีอะไรมาก คิดว่าเป็นคนๆ หนึ่งที่มีหน้ามีตาในสังคม มีชื่อเสียง มีคนรัก มีความดัง คิดแค่นี้ แต่พอเราได้เข้าไปทำจริงๆ ก่อนที่มันจะออกมาเบื้องหน้า อยู่หน้าจอ คนจะได้เห็นชื่นชม ได้วิจารณ์ มันผ่านอะไรมาค่อนข้างเยอะ และการแสดงมันไม่ได้ง่ายในแบบที่เราคิด มันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งมันก็เป็นความท้าทายของเรา 

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              สำหรับกระแสตอนนั้น คนก็ฮือฮาว่าเราได้เข้ามามีหน้ามีตาเป็นดารา เพิ่งเข้าวงการบันเทิงใหม่ๆ ตอนม.3 เพื่อนๆ ก็แซวกัน ส่วนตัวของเราก็โอเค เรารู้สึกว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ซึ่งช่วงม.3 เป็นช่วงที่เพื่อนต้องสอบขึ้นม.4 ก็จะมีเพื่อนบางส่วนที่ต้องย้ายออกไปช่วงนั้นก็สอบด้วย ทำงานไปด้วย ก็ไม่ค่อยได้มาคลุกคลีกับเพื่อนอะไรมาก แต่บางคนก็ยังติดต่อกันอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่เปลี่ยนผ่านค่อนข้างหนัก ทั้งทำงาน ทั้งเรียน กังวลหลายอย่าง เรื่องของการปรับตัวจริงๆ ก็ทำตัวเหมือนเดิม

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              ไอดอลในวงการ จริงๆ ไม่ค่อยฟิกซ์ว่าจะต้องเป็นใคร เพราะว่าเราดูตัวเองในแต่ละงาน ดูตัวเองว่ามีข้อบกพร่องข้อผิดพลาดยังไง ข้อผิดพลาดก็เหมือนงานนี้เราพลาดตรงไหน ไม่ดีจุดไหน ก็จะปิดข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อที่งานต่อไปเราจะได้ดีขึ้น เป็นการดูตัวเองเพื่อพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ มากกว่า ถ้ามีคนอื่นเป็นไอดอล เป้าหมายคนอื่นอาจจะไม่เหมือนเป้าหมายของเรา แต่เป้าหมายของเราคือเรียนเป็นหลัก ก็แสดงให้มันออกมาได้ดีที่สุดด้วยการไม่หยุดอยู่กับที่ เรื่องต่อไปก็พยายามพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ มากกว่า 

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

              ซึ่งไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังมาถึงทุกวันนี้ อย่างเรื่องแรกที่เราเล่นไปก็คือว่าพ่อแม่ให้มาลองเป็นประสบการณ์ เราก็ไม่คิดว่ามันจะมีงานต่อๆ มา มันจะมีกระแสอะไรมากมายแบบนี้ แต่พอมันมีก็จะพยายามทำทุกงานให้มันดีด้วยตัวผลงาน แล้วอีกอย่างเราไม่ค่อยได้เล่นโซเชียลอะไรเท่าไหร่ เราก็คิดว่าตัวเองเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่บังเอิญได้มีโอกาสได้เข้ามาทำหน้าที่นักแสดงเป็นอาชีพ ก็เลยพยายามทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สุดท้ายขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คนที่ยังติดตามผลงานที่คอยให้กำลังใจและชื่นชอบในผลงานของเรา ก็จะพยายามพัฒนาการแสดงอื่นๆ ในงานของเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปสมกับที่ทุกคนรอคอย ก็ขอบคุณมากๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้กัน

ปลื้ม ปุริม เส้นทาง บันเทิง ละคร Happy birthday

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“GMMTV” แจ้งผลตรวจ COVID-19 “ปลื้ม ปุริม” ติดเชื้อพบอาการไอเล็กน้อย เข้ารักษาตัวเรียบร้อยแล้ว

“มิว ศุภศิษฏ์” ประกาศจัดคอนเสิร์ตในวันเกิดแฟนคลับทั่วโลกตอบรับข่าวดีพา #MewBDayConcert ทะยานขึ้นสู่อันดับ1เทรนด์โลกอีกครั้ง

ยินดีกับบัณฑิตใหม่ “ปลื้ม ปุริม” คว้าปริญญาตรี จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เปิดความรู้สึก! “ปลื้ม ปุริม” ขอลุยเต็มที่แม้เจอบทที่ต่างขั้ว แฮปปี้แฟนๆให้การตอบรับดี

ไม่ควรตั้งกฏเกณฑ์! “ปลื้ม ปุริม” ติดแฮชแท็ก #สมรสเท่าเทียม ไม่ว่าจะเพศไหน ก็คือมนุษย์

“ปลื้ม ปุริม” จับไมค์ปล่อยซิงเกิ้ลเดี่ยวครั้งแรก “ยังรักกันอยู่ไหม”

“หมอริท” เผยภาพเค้กเงินสดก้อนโต ที่รู้จำนวนแล้วถึงกับตะลึง

Comments