"นุ๊ก" เปิดใจหลังเจอเหตุการณ์โจรขึ้นบ้าน กวาดทรัพย์สินไปหลักแสน

"นุ๊ก" เปิดใจหลังเจอเหตุการณ์โจรขึ้นบ้าน กวาดทรัพย์สินไปหลักแสน

0

"นุ๊ก" เปิดใจหลังเจอเหตุการณ์โจรขึ้นบ้าน กวาดทรัพย์สินไปหลักแสน

 

                หลังจากคืนวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ดาราสาว "นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา" สุดช็อคเมื่อเจอโจรขึ้นบ้านในย่านลาดพร้าวในช่วงเวลาประมาณ 22.00น. ซึ่งคนร้ายหลบหนีไปในช่วงที่ตำรวจกำลังมา ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                เมื่อวานซืนก่อนหลังจากทำงานที่ fit addict ก็กลับบ้านไป กลับไปรถ 2 คันบางทีจะกลับไม่พร้อมกัน สามีก็ไปกับอดัม ลูกคนโต ส่วนนุ๊กก็อยู่กับปาแปง ก็ขับรถตามกันมา ประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ ก็ถึงบ้าน ปรากฏว่าพอถึงหน้าบ้านไฟเปิดอยู่ เรา เอ๊ะ มีคนอยู่ในบ้าน จริงๆ ปกติคุณแม่ก็อยู่ด้วย ไปๆ มาๆ แต่ช่วง 2-3 วันนี้ไปต่างประเทศ เราก็คิดว่าหรือคุณพ่อจะมาเซอร์ไพรส์ มาหาเราที่บ้าน มองไปรถก็ไม่มี ก็เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า เราก็พยายามจะคิดว่าหรือใครลืมปิดไฟไว้ที่บ้านก่อนออกจากบ้าน ออกจากบ้านบ่ายๆ ก็ไม่น่าจะมีใครเปิดไฟทิ้งไว้ เดินเข้าไปหลังบ้านพร้อมกับลูกคนที่ 2 จะไปเปิดประตูบ้าน มันมืดมาก ด้วยความที่เราไม่ได้เปิดไฟทิ้งไว้มันก็ค่อนข้างมืด ก็เอามือคลำไปไม่เจอประตู คือใจมันก็แว้บลงไปที่พื้นเลย คือประตูมันเปิดค้างอยู่ แล้วมือมันก็ไปปัดสลักกุญแจมันก็ร่วงลงมา เราก็ตกใจ คว้าลูกคนที่ 2 แล้วก็บอกให้วิ่ง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะสวนกับเขาเข้ามาหรือเปล่า เราก็ดึงลูกคนที่ 2 วิ่งขึ้นรถ แล้วเราก็ตะโกน แล้วสามีก็เดินลงมาจากรถแล้วทุกคนถึงบ้านก็เตรียมตัวจะเข้าบ้าน เราก็ตะโกนไปบอกว่าขึ้นรถมีคนอยู่ในบ้าน ลูกทุกคนก็ขึ้นรถ เราก็ขึ้นรถ ล็อครถเสร็จ ตั้งสติ

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ตอนนั้นนึกอะไรไม่ออก โทร 191 เหมือนเดิม พอโทรไปคือเราก็คงตกใจจริงๆ เขาก็พยายามบอกให้เราใจเย็นๆ แล้วก็ให้ค่อยๆ อธิบายเป็นส่วนๆ แต่ตอนนั้นก่อนโทรเราก็ตั้งสติ ก็บอกตัวเองว่าใจเย็นแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าที่จำได้คือคอแห้งมากตอนคุยกับเขา มันคงกำลังตื่นเต้นอยู่ แล้วก็ด้วยความที่เรามีเด็กๆ อยู่ในรถด้วย ก็คิดว่าจะสวนกันลงมาหรือเปล่า แล้วเราจะรับมือยังไง ระหว่างที่เราคุยกับ 191 เราก็เริ่มจะตั้งสติ แล้วเขาก็คุยกับเรา เราก็เริ่มสบายใจว่าตำรวจมาแน่นอน ก็เลยเริ่มบีบแตรเพื่อให้เขาออกจากบ้านเราไป ก็ช่วยกันบีบแตรกับสามี แล้วเราก็ได้ยินเสียงกระโดดข้ามกำแพงไป

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ตำรวจก็มาในที่เกิดเหตุแล้ว หลังจากนั้นก็ให้สามีดูลูกอยู่ในรถ เราเป็นคนพาตำรวจขึ้นไปเช็กแต่ละห้องว่าไม่มีใครซ่อนอยู่นะ แล้วก็เริ่มเช็กทรัพย์สินที่หายไปบางส่วน ด้วยความที่ห้องที่โดนค้นหนักสุด คือ ห้องคุณแม่ เราก็เลยไม่สามารถติดต่อหรือทราบได้ว่าคุณแม่สูญเสียของอะไรไปหรือเปล่า เพราะคุณแม่ไปต่างประเทศ ส่วนของนุ๊กก็โชคดีตรงที่ว่าห้องนุ๊กอยู่ชั้น 3 เป็นห้องที่เพิ่งจะเริ่มโดนค้น เพิ่งจะหยิบฉวยของไปไม่เท่าไหร่ เพราะว่าเราดันกลับมาเจอกับเขาก่อน ที่มั่นใจว่าเขาอยู่ในบ้านเพราะว่าตอนที่กลับมาเราเห็นแสงไฟเหมือนไฟฉายอยู่ในบ้านเรา เราก็มั่นใจว่าเขายังอยู่ และอย่างที่ 2 คือ ชั้น 3 ชั้นของเรามันยังเพิ่งจะเริ่มรื้อค้น มันยังไม่รื้อหมด

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ส่วนจำนวนคนร้ายคิดว่าน่าจะเป็นคนเดียวในความรู้สึก เพราะก็ไม่ได้เห็นแสงไฟแบบหลายแฉก เห็นแสงไฟมาแค่แป๊บเดียว แล้วเสียงมันก็เป็นช่วงสั้นๆ ด้วยความตกใจเราก็พยายามจะไล่เรียงกันว่าเขากระโดดไปฝั่งไหน ทางนุ๊กกับสามีคิดว่าทางข้างบ้าน เอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่แน่ใจว่าหลังบ้านหรือข้างบ้านตอนนั้นมันก็มืดมาก แล้วเสียงกระโดดมันแค่ครั้งเดียว ตอนนี้ตำรวจก็กำลังสืบอยู่ ดูตามรอยเท้า ดูตามการปีนของกำแพงว่ามันมีหลักฐาน แต่บังเอิญว่าฝนมันตกด้วยเลยอาจจะชะล้างอะไรไปหรือเปล่า ทรัพย์สินที่หายไปถ้าในส่วนของนุ๊กเขาเพิ่งขึ้นไปค้น แล้วค่อนข้างจะจัดบ้านเป็นระเบียบกว่าคุณแม่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องค้นเยอะ หยิบเอาง่ายเลย

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ส่วนมากก็จะเป็นพวกกระเป๋าแบรนด์เนม แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เขาเอาไปไม่ใช่สิ่งที่เราใช้ พวกกระเป๋าปกติจะไม่ค่อยถือ อยู่แล้ว มูลค่าก็ไม่เท่าไหร่ เป็นหลักแสน แต่ว่าของคุณแม่ตอนแรกเราก็ลุ้นกันอยู่ว่าคุณแม่จะโดนอะไรไปบ้าง ไม่รู้ว่าของจะใส่ติดตัวไปหรือเปล่า แล้วที่บ้านมีเซฟด้วย แต่โชคดีที่ขนาดใหญ่มาก ขนาดประมาณตู้เย็น เพราะฉะนั้นยกยาก และเปิดไม่ได้อยู่แล้ว แล้วกุญแจเซฟอยู่อีกบ้านหนึ่ง แล้วเราค่อนข้างจะเคยมีประสบการณ์สมัยนานแล้วกับการโดนยกเค้า ตอนนี้ก็รอเช็กกับคุณแม่อยู่ ซึ่งคุณแม่ก็น่าจะกลับมาวันนี้ตอนเย็นๆ ทางตำรวจก็บอกว่าถ้ารู้ว่ามีอะไรสูญหายเพิ่มเติมก็แจ้งความเพิ่มเติมได้ ปกติที่บ้านจะมีคุณแม่อยู่ พอดีคุณแม่ไปต่างประเทศ

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ถามว่ากังวลอะไรไหม มันก็มีทั้งโชคดีแล้วก็โชคร้าย อย่างโชคร้ายคือเราเสียของถ้ าสำหรับนุ๊กฝั่งโชคดีมันมีมากกว่า อย่างแรกคือ มันเป็นของที่เราก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว อย่างที่สองก็คือ เราเริ่มลำดับเหตุการณ์ แล้วก็เริ่มรู้ว่าอะไรที่มันสำคัญในชีวิตเราก่อนหลัง เวลาที่เราตกใจเราคว้าอะไรก่อนเราก็คว้าลูกเราก่อน เพราะฉะนั้นมันก็ต้องไล่เรียงว่าต่อไปเราจะทำยังไงกับชีวิต อย่างกล้องวงจรปิดที่บ้านติดแล้วก็เสีย ด้วยเหตุฟ้าผ่า แล้วมันเสียไปถึงตัวเมมโมรี่ แล้วเราก็นอนใจหลายครั้งว่าจะติดแต่ก็ทำโน่นทำนี่

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                เรื่องนี้ก็เป็นประสบการณ์สอนเราว่า อย่างแรกนอกจากเราจะพึ่งตำรวจแล้ว เราก็ต้องดูแลตัวเอง อันนี้เราก็ฝากบอกไปทุกบ้านเลยว่ากล้องวงจรปิดหรือความปลอดภัยในทรัพย์สิน ชีวิตเราก็ควรจะมีทุกบ้าน ถ้าสมมติว่าเข้ามาเจอกับเราตรงๆ มันก็อาจจะน่ากลัวกว่านี้ ตอนนี้ตำรวจก็พยายามทำงานให้อย่างสุดความสามารถ จริงๆ ก็ต้องขอบคุณไปถึง สน.วังทองหลาง หลังจากเหตุการณ์นี้ซึ่งก่อนหน้านี้เรารู้สึกไม่โอเคกับตำรวจ จนมาเจอเหตุการณ์นี้ ไป สน. ไปแจ้งความ เรามีสิทธิ์เจอผู้กำกับฯ ตอนสี่ห้าทุ่ม ใส่เครื่องแบบทำงาน เราก็รู้สึกว่าเป็น สน. ที่บริการดี แล้วตอนขากลับกว่าจะเสร็จประมาณตีสามตีสี่ แล้วด้วยความที่สามีก็ต้องอยู่กับลูก เราก็ต้องออกมาแจ้งความคนเดียว อันนี้ก็เป็นความประทับใจอย่างหนึ่งว่าตอนกลับเราก็กลัว คุณตำรวจก็ให้สาย ตรวจขับรถตามไปส่งหน้าบ้านให้เราก็อุ่นใจ

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                หลังจากนี้อย่างแรกเราก็เริ่มแก้ไขระบบการล็อคบ้านให้ดีกว่านี้ อาจจะเปลี่ยนประตูที่ล็อคแน่นหนากว่านี้ เปลี่ยนกล้องวงจรปิดที่มันมีคุณภาพ พวกของที่มีค่าไม่ควรเก็บไว้ที่บ้าน ควรฝากธนาคาร ตำรวจก็ถามว่ามีคนทำงานบ้านไหม ซึ่งเราก็ให้ข้อมูลกับทางตำรวจไปเรียบร้อยแล้ว ตำรวจก็ให้เบอร์ทิ้งไว้ อย่างแรกคือ เพราะเราอาจจะต้องแจ้งความเพิ่มเติมไหม สองก็คือเขาก็จะโทรมาแจ้งเรื่อยๆ

                อย่างเมื่อวานตำรวจก็ไปเดินเช็กว่าเขาเข้าทางไหน จนไปเจอกระเป๋าเงินที่คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ตกอยู่ เหตุการณ์แบบนี้แถวๆ รอบบ้านอาจจะมี แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์นี้เลย เหมือนช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อเช้าหัวข่าวก็มีโจรขึ้นหลายพื้นที่จริงๆ นุ๊กว่าทุกพื้นที่อาจจะมีปัญหาเรื่องนี้ ลักเล็กขโมยน้อย ถึงบอกว่าเอาเราไปเป็นอุทาหรณ์ แล้วก็กลับไปดูบ้านตัวเอง อย่างแรกระบบล็อค ระบบกันขโมย จริงๆ ก็ควรมี บางบ้านมีผู้สูงอายุอยู่ แต่โจรก็ขึ้นในเวลาที่ผู้สูงอายุอยู่

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ส่วนเด็กๆ ตอนแรกก็กลัว โดยเฉพาะคนที่สองที่อยู่กับแม่เขาก็จะตกใจอยู่ในรถ แล้วก็ยังมุดไปที่พื้นอีก แล้วเขาก็บอกว่าหนูกลัว เราก็ต้องทำให้เขาเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว ความเป็นเด็กพอตำรวจมาเขาก็จะเริ่มสนุกแล้ว เริ่มถามคุณตำรวจ พอสุดท้ายเขาก็บอกอยากเป็นตำรวจ ตอนนี้กลับไปอยู่บ้านแล้ว คืนแรกที่เกิดเหตุคิดอยู่ว่าจะอยู่ไหน เพราะประตู มันปิดไม่ได้เลย แต่ด้วยความที่คืนแรกไม่ได้นอน เพราะตำรวจมาพิสูจน์หลักฐานดึกด้วย ก็แทบไม่ได้นอนก็เลย ไม่ต้องคิดมาก ตอนแรกคิดมากเลยว่าจะไปนอนไหน ปรากฏว่าไม่ได้นอน มันวุ่นวายกับการแจ้งความ แล้วหาอะไรมาล็อคบ้าน พอเช้าขึ้นมาคุณพ่อก็มาอยู่ เราก็รู้สึกอุ่นใจ

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

                ส่วนกระเป๋าเงินของคนร้ายที่เจอเป็นผืนผ้าสีดำ แล้วก็มีเงินอยู่ 200 บาท ไม่มีหลักฐาน ไม่มีบัตรประชาชน เป็นกระเป๋าเงินซิป ซึ่งตำรวจกก็สงสัยว่าผู้ชายไม่น่าถือกระเป๋าเงินแบบนี้ ตำรวจก็ถามว่าเป็นของคนที่บ้านหรือเปล่า เราก็เลยบอกว่าไม่ใช่แน่นอน ก็เช็กตั้งแต่คนที่มาทำความสะอาดบ้านก็ไม่ใช่ คิดว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ไม่ไกล เพราะช่วงนี้มีเหตุการณ์แบบนี้ในระแวกนั้น ทางตำรวจเองก็คาดว่าน่าจะอยู่แถวๆ นั้น ตำรวจก็มีคุยกับเพื่อนบ้าน แล้วเขาก็ให้ความช่วยเหลือกัน ในคืนเดียวกันเพื่อนบ้านก็โดนก่อนแล้ว ก็ข้ามมาบ้านเรา เขาก็เริ่มเช็กไปว่าบ้านไหนมีกล้องวงจรปิดก็ขอความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่จะแชร์กล้อง บ้านเราเป็นบ้านเดี่ยวกันหมด แต่พอดีว่าบ้านแถบของเราก็ให้ความช่วยเหลือกันอยู่ มีอะไรเขาก็จะเข้าไปถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม

นุ๊ก สุทธิดา โจร ขึ้นบ้าน ขโมย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คิดถึงเสมอ! “นุ๊ก สุทธิดา” โพสต์ซึ้งถึงเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในคอนเสิร์ต ชาวเน็ตแห่ทายคนนั้นคือใคร?

เก่งมาก! “น้องปาแปง” ลูกชาย “นุ๊ก สุทธิดา” สอบติดคณะทันตแพทยศาสตร์

“นุ๊ก สุทธิดา” คืนจอ “ฟ้ามีตา” ประกบ “อู๋ นวพล”

การันตีโดยแม่เอง! “นุ๊ก สุทธิดา” รีวิวลูกชาย 3 คน บอกเลยเลือกไม่ถูก หล่อทุกคน

ประโยคนี้จาก “นุ๊ก สุทธิดา”  ถึง “แก๊งค์ถอนสายบัว” 

มาตามคำเรียกร้อง! “นุ๊ก สุทธิดา” คืนจออีกครั้งใน “ฟ้ามีตา”     

“นุ๊ก” ภูมิใจ “น้องปาแปง” อยากเป็นหมอ สอบเทียบเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

Comments