“คิมม่อน” แย้มเซอร์ไพรส์แฟนๆ เตรียมจัดเต็ม งานเพลง-ซีรีส์
มีเวลาว่างจากงานออนทัวร์ทั่วเอเชียสักที สำหรับหนุ่มๆ บอยแบนด์ SBFiVE ที่โ่ด่งดังสุดๆ ไปทั่วเอเชีย หลังจากแจ้งเกิดมาจากซีรีส์ "เดือนเกี้ยวเดือน" ซึ่งกลับไทยทั้งทีก็ไม่พลาดแวะเผยถึงโปรเจ็คท์ต่างๆ โดยหนุ่ม “คิมม่อน วโรดม เข็มมณฑา” ได้เปิดเผยอัพเดทผลงาน ทั้งงานเพลงและซีรีส์ที่แฟนๆ ต่างรอคอยติดตามกันอย่างใจจดใจจ่อทุกๆ โปรเจ็คท์ให้ฟังว่า
สำหรับการออนทัวร์ของวง SBFiVE เราก็ไปมาเกือบทั่วเอเชียเลย แต่ละประเทศแฟนๆ ก็มีความสนุก มีความน่ารักต่างกันไป เราก็รู้สึกอุ่นใจและภูมิใจที่คนต่างประเทศที่ถึงแม้จะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจเลย และสื่อไทยเองก็ไม่ได้ไปเผยแพร่อะไรมากมาย แต่เขาก็ยั่งชื่นชอบเราและก็ตามดูเรา มีพยาพยามแปลเพลงเรา ก็ภูมิใจที่ซีรีส์ไทย ศิลปิน-นักแสดงชาวไทยไปสร้างชื่อเสียงที่นั่น สำหรับประเทศที่เรารู้สึกประทับใจมากที่สุดสำหรับ “คิมม่อน” ก็คือประเทศจีน เขาเป็นฐานกำลังที่ใหญ่ที่สุดของเราเลย มีแฟนคลับเยอะมากจนไม่สามารถนับได้ อย่างอีเว้นท์นึงที่เราต้องไปไลฟ์สดมีคนดู 1 ล้านคน เยอะมาก และแต่ละคนเขาก็ทุ่มทุนสร้าง เขาบินตามเรา ไปในหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะอินโดนีเซีย มาเลเซีย เขาไปกับเราหมดเลย เราก็เลยรู้สึกประทับใจและผูกพันกับเขามาก ส่วนความแตกต่างกับแฟนคลับไทย ก็มีเรื่องภาษ าการสื่อสารถ้าเป็นคนไทยก็สามารถสื่อสารและแสดงความเป็นตนเองได้มากกว่า ชาวจีนเขาอาจจะไม่ได้คุยกับเรา บางทีเขาก็ไม่รู้ว่าเราเป็นคนยังไง เรื่องที่เค้าชื่นชอบเราทั้งๆ ที่ไม่ได้คุยและคุยไม่รู้เรื่องมันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับตนมาก ความตั้งใจตอนนี้ เราก็พยายามที่จะเรียนภาษาจีน เพื่อที่จะสื่อสารกับเขาได้
ผลงานของ SBFiVE ซิงเกิ้ลแรกของเรา Whenever “พี่บอย” ตั้งใจให้เป็นเพลงขอบคุณแฟนคลับก่อนสำหรับเพลงแรก ก็ทำเป็นเพลงขอบคุณแฟนคลับชาวไทยแล้ว เร็วๆ นี้ก็จะมีโปรเจ็คทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาจีนด้วย และก็ภาษาอังกฤษด้วยเพื่อขอบคุณแฟนๆ ทั่วเอเชียก่อนที่จะปล่อยซิงเกิ้ลที่ 2 ออกมา เพลงรอบนี้ก็คิดว่าจะตีตลาดคนไทย ให้คนไทยได้รู้จักกับพวกเรามากขึ้น เพราะเราไปแต่ต่างประเทศ จนคนไทยไม่ค่อยรู้จักเราเท่าไหร่ ก็เลยอยากให้คนไทยได้รู้จักเรา
จากจุดเดิมที่เราเป็นที่รู้จักจาก “เดือนเกี้ยวเดือน” จนมาถึงจุดที่เราโด่งดังมากขึ้นในวง SBFiVE คือเป็นเรื่องที่เราดีใจมาก เรามีความฝันเรื่องการร้องเพลงอยู่แล้ว แต่พอมาทำจริงๆ มันก็เหนื่อย ยากมากกับการที่เราจะเป็นศิลปิน มันต้องซ้อมร้อง ซ้อมเต้น เป็นเดือนเป็นปี เราเล่นละครเสร็จปุ๊ป จู่ๆ ก็มีผู้ใหญ่ให้ความสนใจ ให้โอกาสทำโปรเจ็คท์เข้ามา ด้วยความที่เราอยากทำเราก็ตอบรับไป แต่ความเป็นจริง เราซ้อมหนักมาก เพราะว่าเราก็ไม่มีพื้นฐานเลย เราเรียนกันหนักมาก ทั้งเต้นทั้งร้อง เพลงแรกเราอาจจะรีบทำไปหน่อย ก็เลยไม่ได้เพอร์ฟอร์แมนซ์เต็มร้อย แต่เพลงที่ 2 เราก็จะตั้งใจพัฒนาตัวเองและก็ให้เห็นคุณภาพ สำหรับตัวของ “คิมม่อน” สิ่งที่ยากที่สุดคือการที่เราต้องเต้นให้เหมือนกัน ศิลปินเกาหลีเต้นพร้อมกันมาก แต่จริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เต้นได้พร้อมกัน แม้ว่าจะจำท่าได้แต่ก็ยากมากเลย
ช่วงก่อนหน้านี้เราออนทัวร์เราก็ไม่มีเวลาเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เรามีเวลาพักมากขึ้นก็จะได้ซ้อมมากขึ้น เราก็จะทุ่มไปกับซิงเกิ้ลใหม่มากขึ้น เชื่อว่าจะเห็นการพัฒนาที่มากขึ้น สำหรับซิงเกิ้ลที่ 2 คาดว่าจะปล่อยภายในปีนี้แน่นอน ตอนนี้นี้ยังอยู่ในช่วงเตรียมและคัดเลือกเพลง ผู้ใหญ่ก็กำลังดูว่าเพลงไหนที่โดนไทยชาวไทยมากที่สุด ก็มีคุยกับโปรดิวเซอร์และถามความเห็นของคนในวงด้วย ผู้ใหญ่ก็อยากให้เรามีส่วนร่วมในเพลงด้วย
สำหรับการทำงานในวง ความสนิทของเรามากขึ้นจริงๆ ด้วยความที่เราต้องไปทัวร์ติดต่อกัน หลายๆ วัน ต้องพักด้วยกัน จนทำให้เราผูกพันกันมาก มากกว่านักแสดงหรือศิลปินอื่นๆ ที่ไปถ่ายละครเสร็จกับบ้านก็เลิกไป มันทำให้เรารักกันมาก จริงๆ เราซัพพอร์ตกันมาตั้งนานแล้ว รักและดูแลกันเหมือนพี่น้อง เราเป็นลีดเดอร์ของวงเพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าหาและสนิทกับทุกคนด้วย เราต้องดูแลทุกคน
ด้านผลงานการแสดงซีรีส์ก็จะมีให้เห็นเร็วๆ นี้ กำลังเคลียร์ว่าจะออกมาเป็นยังไง ต้องรอสรุปอีกที คาดว่าจะเริ่มถ่ายทำในปีนี้ ส่วน Two Moon ซีซั่น 2 ก็เป็นอะไรที่เราอยากถ่ายทำมาก เป็นอะไรที่ทำให้เราเกิดมาและก็ทำให้คนได้รู้จักเรา เราก็อยากถ่ายมาก แต่ก็ต้องรอผู้ใหญ่คุยกันและก็มีเรื่องคิวด้วย เพราะตอนนี้ก็คนละสังกัดด้วย เราก็รอคอยไม่แพ้กับแฟนคลับเลย ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่รักและสนับสนุนเรา พวกเราก็ตั้งใจที่จะเติบโต ฝากทุกคนสนับสนุนและเป็นกำลังใจ ดูพวกเราโตขึ้นไปเรื่อยๆ
