"เคน-เอสเธอร์" รับคำติรสชาติกาแฟไม่ถูกปากลูกค้า
"เคน-เอสเธอร์" รับฟังคำติรสชาติกาแฟที่ร้านไม่ถูกปากลูกค้า ไม่ท้อพยายามปรับปรุงร้านอยู่เสมอ และตั้งใจทำเต็มที่
นอกจากจะทำงานในวงการบันเทิงแล้ว คู่รักดาราอย่าง "เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ" และสาว "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" ก็ยังร่วมหุ้นกันเปิดร้านกาแฟน่ารักๆ และใช้ชื่อที่มีอักษรย่อของทั้งคู่ "K + E cafe" แถมร้านนี้ทั้งคู่ลงแรงและทุ่มเทกันสุดๆ แต่ก็ยังมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่พอใจกับรสชาติและมาคอมเมนต์กันผ่านไอจีร้าน ส่วนทั้งคู่จะว่าอย่างไรบ้างนั้นคงต้องให้เจ้าตัวออกมาพูด
"เคน" เผยว่า เรื่องคอมเมนต์ร้านเกี่ยวกับรสชาติกาแฟก็ในฐานะที่ร้านผมว่าแล้วแต่คนนะ ทุกการบริการมีคอมเมนต์อยู่แล้วแหละ แต่เราก็จะเอาคอมเมนต์ไปปรับปรุงร้านของเราเรื่อยๆ ก็คิดว่าอาจจะไม่ถูกปากใครบางคน แต่ก็อาจจะถูกปากใครบางคน ก็แล้วแต่คนว่าจะชอบแบบไหน แต่เราก็ยังเน้นในสิ่งที่เราชอบอยู่ดี เราชอบรสชาติแบบไหน เราก็ยังทำร้านให้เป็นของเราในแบบที่เราชอบอยู่ดี ตั้งแต่เปิดร้านมาก็ปรับเปลี่ยนเกี่ยวกับร้านเยอะพอสมควร อย่างรสชาติกาแฟ คือผมกับน้องเข้าร้านเกือบทุกวันจริงๆ ถ้าคนที่ไปร้านเราจริงๆ ก็จะรู้และเจอเราบ่อยมาก แล้วเราก็จะอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์เลย แล้วก็ชิมของเราทุกวัน แล้วก็ปรับทุกวัน ก็อย่างว่า เปิดมาได้แค่เดือนเดียว แต่เราก็ปรับอยู่ทุกๆ วันให้ดีที่สุด ถามว่าท้อไหม ก็ไม่เลย เพราะว่ามันคือเรื่องปกติของการเปิดร้านอาหารหรือการทำงานบริการ งานบริการก็จะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เราก็ยืนยันว่าเราทำดีที่สุด คือมันก็ต้องมีทั้งติทั้งชม แต่มันก็ดีที่ทำให้เราได้รู้และได้สูตรใหม่ๆ เรื่องเมนู เรื่องรสชาติ เรื่องร้าน จริงๆ
เราสร้างตั้งแต่แบรนด์ขึ้นมาเลย สร้างร้าน สร้างทุกอย่างขึ้นมา เมนูเราก็จะเป็นคนทำและชิมกันก่อน แต่อย่างที่บอก เราเอาตามรสชาติที่เราชอบ อย่างสมมติพี่กับผมชอบไม่เหมือนกัน แต่บางคนชอบแบบผมมาชิมก็จะบอกว่าโอเค
"เอสเธอร์" เสริมว่า หนูคิดว่าก็ต้องมีบ้าง เป็นเรื่องปกติที่เวลาเราทำร้านอาหารแล้วจะต้องมีเอฟเฟคท์บางอย่าง ซึ่งอาชีพหลักของเราก็คือนักแสดง การทำร้านอาหารก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่ยังไม่เคยได้ทำมาก่อน แต่พอได้ทำก็ได้รู้ว่าอันไหนมันขาดไปเราก็เพิ่มไป เรื่องบางเรื่องเราไม่เคยรู้ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปกับมัน แม่ก็เข้ามาช่วยเยอะเลย อย่างดูเรื่องของพนักงาน เรื่องของรสชาติ เรื่องความประณีต น้องชายหนูก็เข้ามาช่วยดูด้วย เพราะน้องชายก็เรียนตรงเกี่ยวกับด้านอาหารมาเหมือนกัน ก็แอบกลัวๆ บ้างนะว่าถ้างานเยอะแล้วจะไม่มีเวลาเข้าไปดูร้าน แต่ว่าคือตั้งใจจะจัดสรรให้ลงตัว ไม่อยากจะทิ้งด้านใดด้านหนึ่งไป ร้านกาแฟเราทำไปแล้วก็อยากทำให้เต็มที่ไป ให้เหมือนอย่างที่เราตั้งเป้าไว้ เรื่องเข้าร้าน เอสเธอร์กับพี่เคนจะสลับกันเข้า ถ้าสมมติวันไหนหนูถ่ายละคร พี่ก็จะเข้าไปดู วันไหนพี่ถ่ายหนูก็เข้าไปดู พยายามผลัดกันเข้าไปดูตลอด ช่วงนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลนิดหนึ่ง ร้านนี้หุ้นกันแค่สองคน ไม่มีหุ้นอื่น ส่วนธุรกิจอื่นยังไม่คิด ตอนนี้อยากทำให้ร้านนี้มั่นคงก่อน ส่วนสาขาอื่นหรือการขยายก็มีคุยๆ กับพี่ไว้แล้วว่าถ้าตรงนี้มั่นคงแล้วก็อยากจะขยายสาขา
"เคน" เสริมว่า ก็อยากขยายสาขา อย่างที่น้องบอกเราก็อยากจะทำสาขานี้ให้ดีที่สุดก่อน แล้วค่อยๆ ก้าวไปเรื่อยๆ เพราะรายละเอียดเยอะเหมือนกัน ถ้าปีนึงแล้วร้านนี้โอเคมากก็ดีสิ เราจะได้เปิดสาขาใหม่ได้ส่วนธุรกิจอื่นก็มีที่ทำกับเพื่อนๆ พี่ๆ ผมจะเป็นเกี่ยวกับอาหาร ตอนนี้ก็เปิดใหม่อีกสาขาหนึ่ง ที่เชียงใหม่