จากช่างไม้ สู่นักร้องอาชีพ 10ปี กว่ามาเป็น "แซค ชุมแพ"
เส้นทางนักร้องอาชีพในวันนี้ น้อยรายที่จะก้าวสู่ดวงดาวประสบความสำเร็จได้ เพราะวงการเพลงในวันนี้เปลี่ยนไปมากกว่าแต่ก่อน ที่เห็นคือวันนี้ค่ายเพลงเล็กๆ เลิกทำเพลง นักร้องต้องทยอยทำเพลงกันเอง ปล่อยเป็นซิงเกิล รอจังหวะและ รอเพลงดีๆ แต่แซค ชุมแพ นักร้องโนเนมจาก ขอนแก่น เจ้าของเสียงเพลง คำแพง กลับโดดเด่นด้วยผลงานเพลงเพลงเดียว และนี่คือบางส่วนของชีวิตที่เขาออกมารับว่าเคยไม่มีเงินเรียน และเป็นช่างไม้มาก่อน
ชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไร
ก็ลำบาก เป็นลูกคนจนคนหนึ่ง เคยลำบากสุดๆ บางวันแทบ ไม่ได้เงินไปโรงเรียน ไปหาข้าวกินที่โรงเรียน เงินบริจาคบ้าง เรียนหนังสือก็ไปบ้างไม่ได้ไปบ้าง ก็เพราะพ่อแม่ก็ต้องทำงานรับจ้าง ท่านเป็นช่างไม้ ผมเคยเสียสละเอาเงินให้น้องไป โรงเรียน แล้วเราก็ไปกินกับเพื่อนบ้าง ไปข้าวกล่องโรงเรียนบ้าง ก็ไม่เป็นไร พอโตมา พ่อส่งไปเรียนช่างกล ผมไม่มีเงินเรียนต่อ แล้วเลยทำให้เรียนไม่จบ ผมเลยตัดสินใจ ออกมาช่วยงานพ่อแม่เพราะ ฐานะ ยากจน
แล้วเส้นทางการเป็นนักร้อง แรงบันดาลใจมาจากไหน
เมื่อก่อนผมเป็นนักร้องประกวดนะครับ ผมก็ประกวดมาหลายงาน ตั้งแต่อายุ 11-12 เป็นเวทีบ้านนอกตามงานวัด เราก็ครูพักลักจำดูแนวเพลงการร้องตามพี่ไมค์ ภิรมย์พร เพราะพี่ไมค์ เป็นคนขอนแก่นด้วย เราประทับใจก็เลยเอาอย่างพี่เขามา ตอนนั้นก็ ผมออกมาทำงานแล้วละ เป็นข่าง ที่บ้านตอนนี้ก็ทำเฟอร์นิเจอร์แล้วผม ประกวดร้องเพลงมาเรื่อยๆ จนม3 อายุ 15 ก็เลิกร้องเพลง ไม่เคยชนะ เลิกเลย ท้อนิด ผมก็เลิกคิดเลย ปีหนึ่งๆ ไปประกวดมาเยอะก็ไม่ได้ เลย
ชีวิตช่างไม้ เป็นอย่างไร
ก็ทำเฟอร์นิเจอร์ กับพ่อ เป็นงานช่างนี่แหละ ตอนนั้นก็ไม่เอาแล้วละ จะมาร้องเพลง หน้าตาก็ไม่หล่อ ร้องก็ไมเคยชนะ ก็ลำบากเหมือนกัน มาทำงานเป็นช่าง
แล้วจากนั้นมาประกวดที่กิ๊กดู่ ได้อย่างไร
คือแวบหนึ่งคนเรามันก็คิดนะ ว่าขอสู้เป็นครั้งสุดท้าย ผมไม่คิดว่จะได้นะ มากรุงเทพ ก้ไม่มีตังมาเลย เสื้อผ้าดีๆก็ไม่มี ต้องยิมเขามานะครับ ผมก็บอกพ่อแม่ว่า ขอมาประกวดรายการกิ๊กดู่ พ่อแม่ก็บอกตามใจ ลองดู ไปประกวด กิ๊กดุ๋สงครามเพลงก็ได้แชมป์มา ผมยังตกใจจนทุกวันนี้ ได้ตังมาก็เอามาให้พ่อแม่เลย กราบท่าน แล้วก็เหมือนฝันเลย มีคนเข้ามาในชีวิตมากมาย
ที่มาทำเพลงเป็นอย่างไร
ตอนนั้นพอประกวดเสร็จ ผมได้ รู้จักต้นไม้ มิวสิต คนแต่งเพลง คำแพง ก็ได้มาทำเพลง ไม่คิดว่าจะดังนะ หลังชนะ ไม่ทำอะไรเลย พี่เขาเสียดาย พี่เขาบอกแซคมาร้องเพลงไหม ผมก็คิดว่าน่าจะลองดู แรกๆไม่คิดว่าทำเพลงจะดัง ก็ไปอัดเสียงที่ชุมแพ ห้องอัด ที่ขอนแก่น ช่วงเข้าห้องอัดก็ดับไฟเพราะผม เป็นคนขี้อาย ร้องไห้ก็ไม่เป็น ทำอะไรไม่ได้เลย ใช้เวลานานเหมือนกันว่าเพลงคำแพงจะเสร็จ
ตอนทำเพลงครั้งแรกก็ไม่คิดว่าเพลงคำแพงจะดัง ขนาดนั้น ตอนเข้าห้องอัดยากมากเพราะ ปกติผมไม่เคยมีความรัก ไม่เคยอกหัก เวลาเข้าห้องอัดเสียงก็ต้องดับไฟ พอจะมีอารมณ์ บ่าง ดับไฟ ดับแอร์ บิ้วอารมณ์ไปเรื่อยๆ จนกลั่นกรองออกมา
.jpg "แซค ชุมแพ นักร้องมืออาชีพ")
กระแสเพลงคำแพงแรกๆ เป็นยังไง
พอปล่อยเอ็มวีเพลงคำแพงไปแรกๆ แล้วก็เฉยๆนะ หลายคนก็บอกว่า ยาวไป คนดูไม่เข้าใจ จากนั้นอีกสองเดือนพี่ทีมห้องอัดก็เอาเสียงลง ผลตอบรับก็มาเรื่อยๆ จากนั้นก็ตัดสินใจก็ปล่อยเพลง ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน ยอดวิวก็ 100 ล้านวิว เผมก็ดีใจมากๆ
ตอนที่ร่วมงานกับเจมส์จิ เป็นไง
ตอนที่ทราบว่าเจมส์จิ จะมาแจมงานเพลงคำแพง ตกใจเหมือนกัน คือ ทีมงานเขารู้จักกับพีปิ๊ก ก็คงได้คุยกันว่าน่าทำเวอร์ชั่นนี้ มีเจมส์จิ มีผม ตื่นเต้นมากๆ ผมไม่คิดว่าพี่เขาจะดีขนาดนี้ คือพี่เขาหล่อมาก แล้วเราก็แบบว่า ตายไปเลย แล้วก็ร้องเพลงเก่ง มาปรับเรื่องน้ำเสียงนิดหน่อยก็ได้เลย แล้ว ครอบครัวผม แม่ผม ก็ติดตามงานพี่เจมส์ จิ เหมือนกัน พี่เขาน่ารักเป็นกันเองไม่ถือตัวเลย
ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงพอเพลงดัง
เพื่อนฝูง ก็ปกติ คุยกันเหมือนเดิม แต่เวลาไปเดินตามห้างก็มีคนรู้จักผมมากขึ้น ดาราที่เราไม่เคยเจอก็ได้เจอ เมื่อก่อนไม่มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่ตอนนี้ก็ได้ใส่ นะ กางเกงแพงๆ ก็ไม่กล้าซื้อ เพราะเมือ่ก่อนเราจนไง เคยลำบาก ได้อะไรมาก็จะให้แม่เก็บเอาไว้ ตอนนี้ก็ได้มาเล่นหนังอีก ถามว่าเป็นพระเอกไหม นิดหนึง คล้ายๆ พระรอง ตอนนี้งานก็เข้ามาเยอะมาก เป็นปีแล้วนะครับ ทุกวันนี้ เดิอนหนึ่ง 40 คิวงาน บางเดือนก็ 50-60 งาน
ตอนนี้ ซื้ออะไรให้พ่อแม่แล้วบ้าง ชีวิตตอนนี้ดีขึ้น เป็นอย่างมาก ก็ซื้อของให้แม่บ้าง ก็ส่วนมากก็เป็นสร้อยทอง กระเป๋าคนแก่ที่ใช้กัน เป็นของขวัญ ผมออกรถ ฟอร์จูนเนอร์ให้พ่อ แต่พ่อไม่ขับก็เอามาให้ผม จากนี้ผมก็จะสร้างบ้านให้พ่อแม่ที่ชุมแพ ขอนแก่น กลางปีหน้าคงเสร็จ ให้เป็นของขวัญของท่าน
มีแฟนหรือยัง
สำหรับเรื่องหัวใจ ความรักก็ยังไม่มีขอทำงานให้เต็มที่ก่อน อยากจะสร้างบ้าน อนาคต สำหรั ใครที่ เล็ง แซค ก็เล็งนานๆ ผมไม่ได้ ตกลงปลงใจตอนนี้
