“หลิน” แฮปปี้กระแส “หลงไฟ” เกินคาด แย้มกลัวคนแซวร่วมงานกับ “โทนี่”
สำหรับสาวมาดนางแบบ อย่าง “หลิน มชณต สุวรรณมาศ” ที่กำลังคบหาอยู่กับหนุ่ม “โทนี่ รากแก่น” ดูช่วงนี้จะไม่ค่อยหวานออกสื่อกันเท่าไหร่ แถมทั้งคู่ยังมีโอกาสร่วมแสดงในเรื่อง “แนวสุดท้าย” ด้วยกันจะเป็นยังไงบ้าง ส่วนกระแสละคร “หลงไฟ” ที่กำลังเข้มข้นอยู่นั้นสาว “หลิน” เองก็ร่วมแสดงด้วยกระแสตอบรับจากเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวก็เลยมาอัพเดทประเด็นต่างๆ ด้วยตัวเองว่า
กระแสละคร “หลงไฟ” ก็ตื่นเต้นมาก เพราะไปไหนมาไหนก็มีคนทักว่าเป็นชลา และก็อินกันว่าเนี่ยไม่รีบกลับบ้านเหรอ แล้วทำไมคุณดุรงค์ถึงทำอย่างนี้สงสารมากเลย แม้กระทั่งเพื่อนๆ ของเราเองเขาก็อินมากมาว่าเราในไลน์ ในเฟซบุ๊คว่าทำไมโง่อย่างนี้ แต่มันก็สนุกดีแล้วก็รู้สึกว่าคนติดตามเรื่องนี้เยอะมาก และทำให้เราเองมีกำลังใจที่จะดู บางทีเราถ่ายไปแล้วก็ได้รู้เรื่องมาบ้างแล้วแหละ เเต่พอคนมาพูดเราก็คิดว่าละครเรามันส์ขนาดนั้นเลยเหรอ เวลาตัดต่อออกมาเราก็จะคอยดูตอนมันออกมาด้วยและก็มีพวกคลิปสั้นๆ ที่เอามาใส่เวลาแม่เรียกกินข้าวแล้วเราบอกแม่ว่าไม่ไปอะไรแบบนี้ก็สนุกดี พอเราได้เห็นกระแสตอบรับดีก็แฮปปี้ เพราะตอนแรกเราก็รู้สึกว่าตัวเองจะทำให้คนอยากติดตามหนังเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันดีเราก็อยากให้คนอื่นติดตาม เพราะเราก็จะคอยบอกให้ทุกคนดู เพราะว่ามันสนุกกว่าเราไปนั่งอ่าน เพราะว่าเนื้อเรื่องมันเขียนมาสำหรับการฉายในโทรทัศน์ และทุกคนก็จะมาคอยถามเราตลอดเลยว่าจะจบยังไง ว่าเราได้คบกับใคร หรือก้านแก้วจะเป็นยังไงต่อมันก็สนุกดี เราก็จะมีการแกล้งเพื่อนด้วยการไม่บอกให้ไปดูเองดีกว่า
สำหรับตอนนี้มาเล่นละครก็สนุกดีเหมือนหลินได้ทำงานด้านอื่นด้วย มันก็จะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ถ้าหลินเดินแบบถ่ายแบบอย่างเดียวมันก็อาจทำให้เราไม่มีอะไรใหม่ๆ ทำ พอเราได้มาออกกองก็สนุกได้เปลี่ยนลุคตัวเองหลายๆ อย่าง และตอนนี้หลังจากที่ได้เล่นละครไปก็มีคนติดต่อเข้ามาบ้าง แต่ช่วงนี้หลินถ่ายละคร เรื่อง “แนวสุดท้าย” ของ GMM อยู่ น่าจะออนแอร์กุมภาพันธ์ปีหน้า ในวันที่ 24 ในบทก็จะเป็นกวางมันซูเป็นสายลับชาวเวียดนาม เป็นคาแรคเตอร์ที่ต่างจากเดิม เพราะโตขึ้นและเราต้องเล่นเป็นนางนกต่อทำงานในผับต้องหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายเพื่อล้วงความรับ เป็นคาแรคเตอร์ที่ต่างจากชลาไปเลย และมิติของตัวละครเยอะกว่าเดิม
ส่วนความรักช่วงนี้ก็เหมือนเดิมเรื่อยเปื่อยชิวๆ และเราก็ได้ถ่ายละครในเรื่องแนวสุดท้ายด้วยกัน ก็มีการได้ช่วยกันอ่านบทและเจอกันบ้าง การปรึกษาเขาสำหรับการมาเล่นละครเป็นเหมือนคอยเเข่งกันมากกว่าว่าเธอทำการบ้านหรือยัง เราทำการบ้านอยู่นะ มาดูกันว่าเวลาเราเล่นด้วยกันจะเป็นไงบ้าง พอเรารู้จักกันก็เป็นเหมือนการถามความเห็นซึ่งกันและกันได้ว่าโอเคไหม มีอะไรแนะนำกันได้แต่จะไม่ถามกันก่อน เวลาเจอกันในกองก็ไม่คอยได้แซวกันแต่เราจะกลัวคนอื่นแซวเรามากกว่า เราก็จะเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่า เพราะบทที่เล่นจะออกแนวโรแมนติกดราม่ามากกว่า มุมสวีทกันก็ไม่มี เพราะถ่ายกันเหนื่อยมาก มีแต่บ่นใส่กันว่าเหนื่อยจังเลย แต่ก็พยายามไม่ติดเล่นกันในกอง เพราะจะกลัวสมาธิไม่ดีมากกว่า
