ล้วงลึกประวัติ "บี พีระพัฒน์" หรือ "หน้ากากเสือจากัวร์" ใน "หน้ากากนักร้อง"
เปิดประวัติ “หน้ากากเสือจากัวร์” หรือหนุ่ม “บี พีระพัฒน์ เถรว่อง” รองแชมป์รายการ “The Mask Singer หน้ากากนักร้อง” ซีซั่น 2
เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว สำหรับหนุ่ม “บี พีระพัฒน์” หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรายการประกวดร้องเพลง “The Mask Singer” ที่ซ่อนตัวจริงเอาไว้ภายใต้ "หน้ากากเสือจากัวร์" ฟาดฟันด้วยเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์จนสามารถเป็นตัวแทนกรุ๊ปบี เพื่อเข้าชิงแชมป์ และแม้ว่าจะต้องหลีกทางให้แชมป์อย่าง "หน้ากากซูโม่" เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (10 สิงหาคม) แต่ผลงานและความสามารถของเจ้าตัวตลอดบทบาทการเป็น "หน้ากากเสือจากัวร์" ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี จนได้ใจแฟนๆ ทาง “ดาราเดลี่” จึงไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปย้อนชีวิตก่อนจะมาเป็น “บี พีระพัฒน์” และเส้นทางในวงการของหนุ่มคนนี้ด้วยกัน
หนุ่ม “บี” หรือชื่อจริง “พีระพัฒน์ เถรว่อง” เป็นชาวจังหวัดชลบุรี วัยเด็กศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โดยมีส่วนร่วมในงานดนตรี อย่าง การเป่าทรัมเป็ตในวงดุริยางค์โรงเรียน หลังจากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเจ้าตัวได้ร่วมประกวดวงดนตรีในมหาวิทยาลัยในโครงการ “BU BAND” ในตำแหน่งนักร้องนำ และได้รับรางวัลชนะเลิศ
หนุ่ม “บี” เกือบได้เป็นศิลปินเดี่ยวของค่าย Stone Entertainment แต่ค่ายปิดตัวลงด้วยเหตุผลทางธุรกิจหลังจากที่เขาเพิ่งอัดเพลงไปได้ 3 เพลงเท่านั้น แต่ต่อมาเจ้าตัวได้เป็นนักร้องนำให้วง “RRR&B” สังกัด Grammy QX กับอัลบั้ม “อาทั้งสามกับหลานบีและดนตรีของพวกเขา” ตามด้วยอัลบั้ม RRR&B Special Volume 1 และ 2 และมีผลงานเพลงฮิตอย่าง “สองเรา”
หลังจากที่หมดสัญญา หนุ่ม “บี” เริ่มรับงานเกี่ยวกับดนตรีมากขึ้น ทั้งร้องเพลงตามคลับกลางคืนทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงรับจ้างบันทึกเสียงในสตูดิโอ โดยเน้นการใช้เสียงเป็นหลัก นอกจากนั้นเจ้าตัวยังมาร้องเพลงประจำที่คลับแจ๊ส ชื่อ Saxophone Pub & Restaurant จนมีโอกาสพบเพื่อนๆ และทำวงดนตรีขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “Crescendo”
พวกเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า Crescendo เป็นศัพท์ทางด้านดนตรีในภาษาอิตาเลียน มีความหมายว่า "ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ" วง Crescendo ออกอีพีอัลบั้มชุดแรกโดยที่เป็นการทำเองขายเอง และในอัลบั้มชุดต่อมาจึงได้เข้าสังกัดกับ เบเกอรี่มิวสิก โดยมีเพลงดังอย่าง ความจริงในใจ, วีนัส และ โลกหมุนด้วยความรัก ทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นก็มีผลงานออกมาให้ติดตามต่อเนื่อง อย่างเพลง ดินแดนแห่งความรัก, รู้บ้างไหม ในอัลบั้ม Second Chance ในปี 2548 โดย หนุ่ม “บี” ดูแลเรื่องการแต่งทำนองและคำร้องเป็นหลัก วงเครสเซนโด ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ สีสัน อวอร์ด ถึง 2 ปีซ้อน, คมชัดลึก อวอร์ด ในปี 2547 ตามด้วย Fat Awards และรางวัลระดับนานาชาติอย่าง GBOB
หลังจากนั้นหนุ่ม “บี” ได้แยกตัวจากวงเครสเซนโด โดยยังมีผลงานในอัลบั้ม Sleepless Society 2 ปี 2549 และโด่งดังอย่างกว้างขวางกับเพลง “บัวลอย” เพลงเด่นใน 25 ปีมนต์เพลงคาราบาว ในปี 2550 ในปี 2551 เขาเริ่มมีผลงานอัลบั้มเดี่ยว Dedicated To Love และมีซิงเกิ้ลแรก คือ เพลง “คนเดียวในโลก” อัลบั้มชุดนี้มีศิลปินและนักแต่งเพลงมาร่วมอย่างมากมาย เช่น บอย โกสิยพงษ์, ทิวา สาระจูฑะ, พยัต ภูวิชัย, ลินา ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์, เป็นเอก เสกสรร และมีอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 Medium Rare และมีคนในวงการเพลงมาร่วมทำงานหลายท่านเช่นเคย โดยชุดนี้ “บี” ยังได้ "ประภาศ ชลศรานนท์" มาเขียนเพลง “นาฬิกา” และทำให้ได้รับรางวัล “สีสันอวอร์ด” และ “พระพิฆเนศทองพระราชทาน” และในปี 2555 เขาได้ปล่อยผลงานซิงเกิ้ลลำดับที่ 2 “รู้” จากอัลบั้ม Soulmate นอกจากนั้นในปี 2554 หนุ่ม “บี” ยังร่วมเล่นละครเวทีเรื่องแรก “รักเธอเสมอ” กับบท “แทนไท” ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด
ด้านชีวิตส่วนตัว หนุ่ม “บี” สมรสกับ “ลินา ภัคศรณ์ ลีนุตพงษ์” นักแต่งเพลงที่เคยร่วมงานกัน และแต่งเพลง ดินแดนแห่งความรัก และ รู้บ้างไหม ให้กับวง Crescendo อีกด้วย โดยจัดงานสมรสขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 ที่โรงแรมสุโขทัย โดยเป็นพิธีการทางศาสนาคริสต์
ปี 2557 หนุ่ม “บี พีระพัฒน์” ออกโปรโมทอัลบั้ม B3 และได้ปล่อยซิงเกิ้ล “ยังคงมีเพียงเธอ” และฝากผลงานไว้ในอัลบั้มอีก 10 เพลงด้วยกัน นอกจากนี้เขายังร้องเพลง “ลมหายใจเท่านั้นที่รู้” ประกอบละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายธราธร อีกด้วย
ส่วนการมาร่วมประกวดในรายการ “The Mask Singer” นั้น เป็นการติดต่อเข้ามาเองของหนุ่ม “บี” โดยเผยว่าเป็นอีกสีสันหนึ่งในวงการดนตรี อยากมีความรู้สึกใหม่ๆ เหมือนตอนเข้าวงการ และก่อนหน้านี้มีการทายชื่อตนในหน้ากากทุเรียน จึงเห็นเป็นอีกโอกาสและความท้าทายของชีวิต แต่ทางรายการเองก็มีแพลนจะติดต่อเจ้าตัวมาเช่นกัน โดย "หน้ากากเสือจากัวร์" ที่เขาเลือกใช้นั้น เพราะว่าจริงๆ ตนเลี้ยงแมว แต่ถ้าเป็นหน้ากากแมวจะมุ้งมิ้งเกินไป และ “จากัวร์” เป็นสัตว์ที่ตนอยากเป็น มีพลัง มั่นใจในตัวเอง แตกต่างจากตัวตนจริงๆ ที่เป็นคนต่างจังหวัด ไม่ได้มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ทำสิ่งต่างๆ ตามความฝัน จึงเลือกที่จะสวมหน้ากากนี้
