BeOnCloud ร่อนจดหมายชี้แจงปมดราม่า ลั่น ภาพยนตร์ “บุปผา” ไม่ใช่ภาคต่อของ “บุปผาราตรี”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้กำกับภาพยนตร์คนดังอย่าง “ต้อม ยุทธเลิศ” ได้ออกมาโพสต์ประกาศผ่านไอจีส่วนตัว ระบุข้อความว่า ‘บุปผาราตรี’ นายยุทธเลิศ คือเจ้าของลิขสิทธิ์ และจักรวาลของหนังแต่ผู้เดียวบนโลกใบนี้ ยังไม่เคยอนุญาติให้ใครเอาไปทำภาคต่อ ไม่ว่าจะ Reboot หรือ Remake หรือรีอื่นใดทั้งสิ้น มีเพียงครั้งเดียวที่อนุญาตให้ไปทำใหม่คือ ‘บุปผาราตรี The musical’ แต่นั่นก็เฉพาะในแบบละครเวที และขอลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าในแบบหนังภาคต่อไม่มี
อ่านข่าวต่อ: “ต้อม ยุทธเลิศ” ประกาศแรง! “บุปผาราตรี” มีเจ้าของลิขสิทธิ์คนเดียว ไม่เคยอนุญาตให้ใครทำภาคต่อ
ล่าสุดทาง บริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด ก็ได้ร่อนจดหมายแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการภาพยนตร์ 'บุปผา' โดยเนื้อความในจดหมายระบุว่า
“จากกรณีที่มีการกล่าวถึงและเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการพัฒนาโครงการภาพยนตร์เรื่อง “บุปผา (Buppha)” นั้น บริษัท บี ออน คลาวล์ จำกัด ขอใช้พื้นที่นั้นที่นี้ในการชี้แจงใจจริงเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อทุกฝ่าย
บริษัทฯ ขอขี้แจงว่า โครงการภาพยนตร์ “บุปผา (Buppha)” ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้สัญญาอนุญาตให้ให้ใช้สิทธิ์ในชื่อเรื่องและเค้าโครงเรื่องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้ทำขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรกับ บริษัท ฟิล์มรีพับบลิด จำกัด ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ โดยสัญญาดังกล่าวมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีความตั้งใจและยึดมั่นในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นสำคัญดังนี้
ประเด็นแรก เรื่องการสื่อสารที่ชัดเจนว่า “ไม่ใช่ภาคต่อ” นั้น บริษัทฯ ตระหนักดีและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ต้องสื่อสารให้ชัดเจนว่า ภาพยนตร์บุปผาจะถูกนำเสนอในฐานะภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นใหม่โดยสมบูรณ์ และไม่ใช่ภาคต่อ (Seque)) ของภาพยนตร์ “บุปผาราตรี” แต่อย่างใด ประเด็นต่อมาภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำแรงบันดาลใจจาก “ชื่อและเค้าโครงเรื่อง” ที่ได้รับอนุญาต มาตีความและสร้างสรรค์ผ่านมุมมองของผู้กำกับและทีมงานชุดใหม่ เพื่อให้เกิดเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการออกแบบอัตลักษณ์ของภาพยนตร์ขึ้นใหม่ทั้งหมด รวมถึงการใช้ตัวอักษร (ฟอนต์) ของชื่อเรื่องที่แตกต่างจากลันฉบับอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันความสับสนและเป็นการให้เกียรติผลงานตั้งเดิม ตามเงื่อนไขในสัญญาที่ตกลงจะไม่นำลักษณะตัวหนังสือแบบเดียวกับบุปผาราตรีทั้ง 4 ภาค มาใช้ในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
สำหรับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อหรือบุคคลภายนอกที่ใช้คำว่า “รีบท” หรือ “ภาคต่อ” นั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่า มิได้เกิดขึ้นจากการสื่อสารอย่างเป็นทางการของบริษัทฯ และเมื่อรับทราบถึงความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดต่อไปยังเพจดังกล่าวเพื่อขอให้มีการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด ด้วยตระหนักดีถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการนำเอกสารซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาทางธุรกิจ อันเป็นสัญญาฉบับเก่าที่ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว มาเผยแพร่สู่สาธารณะ บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าเอกสารลังกล่าวไม่ใช่สัญญาฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน และไม่มีผมีผลผูกพันทางกฎหมายต่อโครงการนี้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวซึ่งมีเจตนาให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อสาธารณชน ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและขัดต่อหลักการปฏิบัติทางธุรกิจที่ดี และเพื่อปกป้องสิทธิ์อันชอบธรรมและความไว้วางใจที่สาธารณชนมีต่อโครงการ ของเรา บริษัทฯ จึงขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาดำเนินการหางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม เพื่อระงับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญและเคารพต่อหรัพย์สินทางปัญญาเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธรกิจเสมอมา การดำเนินการทุกขั้นตอนของโครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใสและข้อตกลงทางกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะมุ่งมั่นพัฒนา โครงการภาพยนตร์ 'บุปผา' ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีคณภาพสู่สายสาผู้ชม สุดท้ายนี้ บริษัทฯ เชื่อมัน ในการเจรจาอย่างมืออาชีพ และจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสิทธิ์อันชอบธรรรมของบริษัทฯ ต่อไป”