ห้องเสื้อดังเล่าที่มาฉลองพระองค์ฉาก “พระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด-ลอยโคม” ใน “พรหมลิขิต”

ห้องเสื้อดังเล่าที่มาฉลองพระองค์ฉาก “พระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด-ลอยโคม” ใน “พรหมลิขิต”

0

ห้องเสื้อดังเล่าที่มาฉลองพระองค์ฉาก พระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด-ลอยโคมใน พรหมลิขิต

         เรียกว่าสวยงดงามวิจิตรตระการตาสำหรับฉาก พระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด-ลอยโคมในละคร พรหมลิขิตล่าสุดห้องเสื้อภูษาผ้าลายอย่าง โพสต์ที่มาของชุดขุนหลวงและข้าราชบริพาร ออกแบบโดยคุณ กิจจา ลาโพธิ์ (แม่สาลี่) อ้างอิงจากประวัติศาสตร์และภูมิอากาศในในเดือน 12

อ่านข่าวต่อ:เผยเบื้องหลังชุดไทย “ลายโคมแก้วกุดั่นน้อย” ที่ “เบลล่า ราณี” สวมโชว์อลังการงามดั่งนางฟ้าการะเกด

 พรหมลิขิต

 พรหมลิขิต

        ร้านเสื้อดังกล่าวโพสต์ว่า ความงามของเครื่องแต่งกายในฉาก พระราชพิธีจองเปรียง ลดชุด-ลอยโคมเกิดขึ้นจากความตั้งใจของทีมเสื้อผ้า ที่ต้องการออกแบบให้เครื่องแต่งกายเหล่านี้ สื่อสารกับคนดูให้ได้มากที่สุด กล่าวคือ ในหนึ่งฉากเพียงระยะเวลาสั้นๆที่ทุกคนเห็น ต้องสื่อให้คนดูเข้าใจถึงความรุ่มรวยของยุคสมัย ตลอดจนสามารถสื่อให้เห็นว่า ช่วงเวลาจัดงานพระราชพิธีนี้ เป็นช่วงเดือนสิบสอง ประกอบกับราชธานีในขณะนั้นเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำ จึงทำให้ช่วงเดือนสิบสองยามค่ำคืน มีอากาศเย็นมากเป็นพิเศษ เครื่องแต่งกายจึงค่อนข้างมิดชิด แต่ความหรูหรา สง่างาม ผสานเข้ากับความหลากหลายทางวัฒนธรรมของหลายเชื้อชาติ ด้วยว่าขณะนั้นมีการติดต่อค้าขายหลายประเทศจึงมีเครื่องแต่งกายที่แปลกตาให้เห็นในฉากนี้ อาทิ ฉลองพระองค์ ขุนหลวงท้ายสระ และกรมพระราชวังบวร ที่มีทรงคล้ายเสื้อของชาววิลาศ ลักษณะตัวเสื้อมีความยาวกว่าเสื้ออย่างน้อยทั่วไปสวมถุงเท้ายาวเลยเข่าเพื่อป้องกันลม , การห่มสไบสองชายทับเสื้อแขนกระบอก ของพระอัครมเหสี กรมหลวงราชานุรักษ์ , การห่มคลุมผ้าขนสัตว์ผืนใหญ่กันลมหนาวของพระมเหสี เจ้าครอกจันทบูร และนุ่งผ้าเขียนลายทอง ในงานพระราชพิธีสำคัญนี้ด้วย

 พรหมลิขิต

 พรหมลิขิต

         นับว่าเป็นการออกแบบเพื่อสร้างสรรค์ผลงานเสื้อผ้าให้ผู้ชมได้เห็นว่าเครื่องแต่งกายในสมัยอยุธยานั้น มีอยู่มากหลากหลายแบบ ทั้งที่ปรากฏอยู่มากในจิตรกรรมไทย บันทึกในจดหมายเหตุที่มีชื่อเสียง และจดหมายเหตุที่ไม่ได้รับความนิยม ผ่านการรวบรวมข้อมูล อ้างอิงมาเพื่อสร้างสรรค์ให้เห็น ดังคำที่ว่า สิ่งที่เราไม่เคยเห็นใช่ว่าจะไม่เคยมีเคยอยู่ สิ่งที่เรารู้แล้วอาจจะไม่ได้รู้จนหมดจดจึงเป็นผลงานที่นำเสนอมาในละครพรหมลิขิตนี้

เกรท วรินทร พรหมลิขิต

       ประเพณีลอยกระทง เกิดขึ้นครั้งแรก ในสมัยกรุงสุโขทัย ตามเรื่องนางนพมาศ หรือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ กล่าวไว้ว่าในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง มีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกกมุท ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป หนังสือเรื่องนี้ได้อ้างพระดำรัสของพระร่วงว่า

เกรท วรินทร พรหมลิขิต

       “ จึ่งมีพระราชบริหารบำหยัดสาปสรรว่า แต่นี้สืบไปเบื้องหน้าโดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงการกำหนด นักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน ๑๒ พระราชพิธีจองเปรียงแล้ว ก็ให้กระทำโคมลอยเป็นรูปดอกกระมุทอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน อันว่าโคมลอยรูปดอกกระมุทก็ปรากฏมาจนเท่าทุกวันนี้ แต่คำโลกสมมุติเปลี่ยนชื่อเรียกว่าลอยกระทงทรงประทีป เหตุดังนี้ข้าน้อยผู้ชื่อว่านพมาศก็ถึงซึ่งมีชื่อเสียงปรากฏอยู่ใน แผ่นดินได้อย่างหนึ่ง

      “จองเปรียง ลดชุด-ลอยโคมเป็นพระราชพิธีว่าด้วยการบูชาน้ำ ปรากฏหลักฐานทางวรรณกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาหลายฉบับ ซึ่งต่อมามีพัฒนาการสู่ ลอยกระทงในปัจจุบัน

        “น้ำหลากและน้ำแแล้งเป็นปัญหาของทุกชาติพันธุ์ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตมรสุม คนสมัยโบราณเชื่อว่าเกิดขึ้นด้วย อำนาจเหนือธรรมชาติหรือ ผีที่ปกปักรักษาดินน้ำไฟลมนั้น เมื่อน้ำแล้ง คนโบราณจะทำพิธีขอฝนเพื่อทำไร่ไถนา ครั้นถึงฤดูน้ำหลากก็ต้องทำพิธีบูชาเพื่อมิให้น้ำหลากล้นท้นเข้าทำลายนาไร่จนเสียหาย

       ลาลูแบร์ ราชทูตจากราชสำนักฝรั่งเศส ที่มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ ราชอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ได้เห็นบรรยากาศการชักโคมลอยโคม จึงบรรยายว่า

พรหมลิขิต

       “ประชาชนพลเมืองจะแสดงความขอบคุณแม่คงคาด้วยการตามประทีปโคมไฟขนาดใหญ่ (ในแม่น้ำ) อยู่หลายคืน เราจะได้เห็นทั้งลำแม่น้ำเต็มไปด้วยดวงประทีปลอยน้ำ ไปตามกระแสธาร มีขนาดใหญ่ย่อมต่างกันตามศรัทธาปสาทะของแต่ละคน โดยนัยเดียวกันเพื่อแสดงความขอบคุณต่อแม่พระธรณี ที่อนุเคราะห์ให้เก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารได้อย่างอุดมสมบูรณ์ ในวันต้น ๆ ของปีใหม่ ชาวสยามก็จะตามประทีปโคมไฟขึ้นอย่างมโหฬาร

เรียบเรียงข้อมูลโดย : ภูษาผ้าลายอย่าง

ออกแบบชุดโดย : คุณ กิจจา ลาโพธิ์ (แม่สาลี่)

ออกแบบผ้าลายอย่างโดย : อ. ธนิต พุ่มไสว ภูษาผ้าลายอย่าง

เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับโดย : ภูษาผ้าลายอย่าง และนางแปลงbyจีจี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments