คืนนี้ห้ามพลาด "ใบเฟิร์น" รับรองว่าแซ่บ รับเขินเข้าฉากกับ "ป้อง"
“ใบเฟิร์น อัญชสา มงคลสมัย” เผยความยากในละคร “เสน่หา Diary ตอน กับดักเสน่หา” พร้อมทั้งเผยถึงการทำงานร่วมกับนักแสดงรุ่นพี่ “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” และ “อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล”
อีกหนึ่งนักแสดงสาวที่กำลังมาแรงสุดๆ ในตอนนี้สำหรับ “ใบเฟิร์น อัญชสา” หรือ “มายด์” ใน “กับดักเสน่หา” ที่กำลังออนแอร์เป็นตอนสุดท้ายในวันนี้ เมื่อได้พูดคุยกับสาว “ใบเฟิร์น” เธอได้เผยถึงบทบาทในละครให้ฟัง พร้อมทั้งยังเผยถึงความยากของละครเรื่องนี้ให้ได้ฟังว่า
“สำหรับบทบาทในเรื่องรับบทเป็น ‘มายด์’ คาแรคเตอร์เป็นคนที่มีเสน่ห์ ดูไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่ต้องการความรักมาก แต่ต้องการครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่เขาไม่อยากสร้างจากศูนย์ไปด้วยกันกับใคร แต่เขาอยากได้เป็นครอบครัวที่พร้อมอยู่แล้วและเอาตัวเองใส่ลงไป จริงๆ จะมีปัญหาทางจิต เขาเรียก ‘borderline personality disorder’ เป็นโรคทางจิตอย่างหนึ่งจะขาดและสร้างภาพในหัวว่าต้องการสิ่งนี้และก็หาสิ่งที่ขาด มันเป็นละครที่แฝงความรู้ทางโรคต่างๆ ด้วย
ส่วนความยากของเรื่องนี้ คือ เราไม่อยากเล่นให้เป็นตัวร้ายในละครว่าอยากได้สามีของคนนี้ แต่อยากแสดงอาการทางจิตด้วย ให้คนดูเห็นมากกว่าผู้หญิงคนนี้อยากได้ผู้ชายคนนี้ ก็ต้องมีการทำการบ้านว่าคนประมาณนี้จะคิดยังไง แสดงออกยังไง เชื่อยังไง ก็ต้องพยายามดูว่าต้องทำยังไงให้คนเชื่อ จะมีวิเคราะห์บทตัวละครมันเป็นยังไงและมีคุยกับทั้งคนเขียนบทและผู้กำกับฯ แบบต้นตอเขามาจากบ้านเด็กกำพร้า ก็ต้องลงพื้นที่ดูว่าบรรยากาศเป็นยังไง การอยู่เป็นยังไง ก็ดูข้อมูลของโรคนี้ หาหนังสือทางจิตวิทยาอ่าน มีดูหนังที่มันเกี่ยวกับโรคนี้เอามาผสมๆ ดู มีการเตรียมตัวพอสมควร ไม่ได้เอาตัวละครของหนังมาเป็นหลัก แค่ดูวิธีการเอามาปรับใช้กับตัวเราเอง
ด้านฉากไหนที่รู้สึกยากที่สุด หลายคนคงคิดว่าดราม่าร้องไห้ แต่จริงๆ สำหรับตัวเองแล้ว คือ ต้องเล่นกับของมีคม เพราะว่าตัวเองเป็นคนที่กลัวของมีคมมาก เพราะเคยโดนบาด และพอต้องมาเล่นกับของมีคมก็รู้สึกยากและท้าทายกับตัวเอง
ในเรื่องร่วมงานฉากแรงๆ กับ ‘พี่ป้อง’ ถ้าถามว่ากดดันไหม ไม่ค่อยแต่เขินมากกว่า แต่พอมาทำงานก็ต้องทิ้งตรงนั้นไปก่อน แฮปปี้มาก คือ เรื่องของการแสดงเป็นเรื่องการรับส่งกลับมันทำให้เล่นแล้วสนุกทั้ง ‘พี่ป้อง’ และ ‘พี่อ้อม’ ด้านฟีดแบ็คก็ตามดูตลอดเห็นตลอดในทวิตเตอร์ตามดูตลอด คนจะหมั่นไส้เยอะแต่รู้สึกดี รู้สึกว่าประสบความสำเร็จที่ทำให้คนอินได้ พอมีคนบอกน่าสงสารก็ยิ่งรู้สึกหนักเข้าไปใหญ่ เพราะไม่อยากให้เล่นเป็นดูร้ายแบบในละคร อยากนำเสนอเรื่องป่วยของตัวละครด้วย ดีใจที่คนดูรับรู้และเข้าใจสารที่เราต้องการส่งให้คนดู
ส่วนในเรื่องต่อๆ อยากเล่นสลับๆ ไปเรื่อยๆ มันสนุกดีอย่างเรื่องต่อไปก็จะเป็นดีขึ้น ก็จะทำให้คนดูว่าเราสามารถพลิกบทบาทไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็อยากบอกว่า คือละครเรื่องนี้มีข้อคิดให้คนได้คิดตามไม่ใช่แค่ดูแล้วโรคจิตจังเลย นิสัยไม่ดีจังเลย ทุกตัวละครจะได้รับผลของการกระทำเสมอ ทุกการกระทำมีเอฟเฟคท์ตามมาเสมอ อยากให้คนดู ดูแล้วคิดตามว่าทำอะไรว่าผลมันจะออกเป็นยังไง ดูละครแล้วย้อนดูตัว เชื่อว่าผลที่ ‘มายด์’ ได้รับคนน่าจะเอากลับไปคิดได้ เชื่อว่าสนุก ไม่อยากให้พลาด”
