“ชมรมตามรอยเจ้าตาก” ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมคดี “ช่องส่องผี”
วันที่ 2 ก.ย.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. “นายสุชาติ กนกรัตน์มณี” “ประธานชมรมตามรอยเจ้าตาก” พร้อมด้วยสมาชิกชมรมฯ ได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีรายการ “ช่องส่องผี” พร้อมยื่นเอกสารและหลักฐานเพิ่มเติมในคดีที่เกี่ยวข้องกับกรณีการกล่าวอ้างที่ทำให้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสื่อมพระเกียรติ
อ่านข่าวต่อ: ขอบวช “บ๊วย เชษฐวุฒิ” อ.เรนนี่ประกาศปิดช่องส่องผี
นายสุชาติ กล่าวว่า ชมรมฯ ได้ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 เนื่องจากทีมงานรายการ “ช่องส่องผี” ได้นำเสนอเนื้อหาที่พาดพิงถึง“สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช”ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมและไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์รองรับ ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชนผู้เคารพศรัทธาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชมรมฯ จึงได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ทางรายการ 1.เดินทางไปขอขมาต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วงเวียนใหญ่ 2.ลบคลิปวิดีโอรายการที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ออกทั้งหมด 3.ยุติการกล่าวอ้างว่าสามารถสื่อสารกับดวงพระวิญญาณของพระองค์ได้โดยตรง
กมล แย้มอุทัย ภาพ
นายสุชาติ กล่าวต่อ อย่างไรก็ตาม ทางรายการไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว ชมรมฯ จึงได้ยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณา แม้ ดีเอสไอจะทำการสอบสวนและพบว่าคดีมีมูล แต่เนื่องจากเงื่อนไขทางกฎหมายไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ จึงได้โอนสำนวนคดีมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม
นายสุชาติ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ทราบข่าวว่าสมาชิกของรายการ 'ช่องส่องผี' ได้กล่าวว่า“ตนเองพ้นจากคดีความทั้งหมดแล้ว” โดยอาจหมายถึงการสิ้นสุดการพิจารณาคดีจาก ดีเอสไอ ซึ่งเป็นข้อมูลที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด เพราะการโอนคดีจาก ดีเอสไอ ไม่ได้หมายความว่าคดีสิ้นสุดลง แต่เป็นการเปลี่ยนหน่วยงานที่รับผิดชอบการดำเนินคดีเท่านั้น การดำเนินการทางกฎหมายยังคงดำเนินต่อไป
ชมรมตามรอยเจ้าตากจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว และยืนยันว่าจะติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม