เคลียร์ใจ “ตู่-มาวิน” วิวาห์แห่งปี สินสอดร้อยล้าน?!
เรียกว่าน่าจะเป็นวิวาห์แห่งปีอีกคู่หนึ่งของวงการบันเทิงสำหรับ “ตู่ ปิยะวดี มาลีนนท์-มาวิน ทวีผล” คู่รักผู้จัดละครคนดังกับนักแสดงหนุ่มที่เรียนรู้กันมานานถึง 10 ปี ล่าสุดก็ประกาศวิวาห์ยิ่งใหญ่ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ “ดาราเดลี่” ได้เปิดใจทั้งสองถึงข่าวเม้าท์ข่าวลือและเส้นทางรักของทั้งสอง กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย
Q : อยากให้เล่าวันแรกที่เจอกัน?
A : ตู่ : คือเขาบอกว่าเราเจอกันร้านทำฟัน อันนั้นเขาเจอตู่แต่ตู่ไม่เจอเขานะ คือความทรงจำของตู่คือศูนย์เลยนะ ไม่คุ้นว่าได้เจอเขาวันนั้น คือแรกๆ เราจะหาตัวละครมาเล่นในเรื่องวนาลี เป็นตัวละครตัวเดียวที่ยังหาไม่ได้ เลยเห็นเขาน่าจะเหมาะ เพราะบทในเรื่องนั้นเป็นเพลย์บอยนิดๆ หน้าตาเขาแบบว่า ไม่น่าจะเป็นคนดี สรุปนางเอกตอนนั้นเด็กมาก คือน้องมิวอายุ 15 เอง ก็เลยไม่ได้ เค้าเลยไม่ได้เล่น
มาวิน : ผมปิ๊งเลย สมัยนั้นก็คุยกันแบบใช้บีบี ก็จีบเขาไปเรื่อยๆ แลกพินคุยไปซักพักก็ขอเปิดใจคุยกันเลย
ตู่ : แรกๆ ที่คุยกันวันนั้นก็ไม่มีอะไร จากนั้นเราก็เริ่มให้ความสนิทหลังจากนั้นที่ได้คุยกันแล้วสองสามเดือน ก็เริ่มไปไหนด้วยกันมากขึ้น
Q : ตัดสินใจนานไหมที่จะเปิดตัว?
A : ตู่ : แรกๆ ที่คบกันไม่ได้คิดเลย คิดว่าคนคงไม่ให้ความสนใจเราเท่าไหร่ เราก็เป็นแค่ผู้จัดละครเขาก็เป็นนักแสดงก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เป็นพระเอกดังมาก ก็ทำตัวปกติจนมีหนังสือกอสซิปลงโน้นนี่นู้น นักข่าวก็เยอะ มีกระแสทั้งที่ชอบและไม่ชอบ บางทีกระแสไม่ชอบทำให้เราไม่โอเค เราเลยตัดสินเลือกที่จะเก็บตัว คือคบกันไปซักพักถึงจะเปิดตัวใหม่ คือไม่เปิดตัวเลย ไม่ดูหนังด้วยกัน สื่อโซเซียลไม่ลง แบบว่าไปเดินห้างน้อยมากพอมีข่าวออกไปไม่ใช่แค่เราก็ไม่สบายใจ ทั้งครอบครัวเราด้วย ก็เลยเลี่ยงดีกว่า พอเราคบกันเขาก็พาเราเข้าแก๊ง พาไปหา “พี่นก ฉัตรชัย” ก็เข้าใจง่าย ไปกินข้าวกับพี่นกบ่อย
มาวิน : เป็นดาราก็หนักหน่อย มาเต็ม อธิบายเยอะ ทำใจครับ คบกัน 8 ปีแน่ะถึงเข้าบ้านคุณตู่ พอตบได้ 10 ปีก็ขอแต่งงานเลย
Q : กว่า 10 ปีที่ผ่านมาปรับตัวกันมากน้อยอย่างไร?
A : ความรู้สึกเปลี่ยน คือพอจะแต่งงานกัน ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปอีกแบบ จะมีชีวิตคู่กันจริงๆ หรอ มันไม่เหมือนตอนที่คบกันแรกๆ ไม่เหมือนตอนจะขอแต่งงานด้วย เรามองอนาคต มองเรื่องลูก เรื่องบ้าน ต้องปรับในหลายๆ เรื่องอยู่ ตอนนี้วินมีงานใหม่เข้ามา ตอนนี้เขาเป็นนักแสองอิสระ มีงานช่องอื่น อาจจะไม่เหมือนทำงานกับเรา เขาต้องไปเรียนรู้มีเพื่อนใหม่ มีผลต่อชีวิตเขา
Q : โมเมนท์วันที่ขอแต่งงาน?
A : ตู่ : ชวนไปกินข้าว แต่เขาจะแบบไม่ได้แต่งเต็ม ผมก็ไม่ได้สระ
มาวิน : ผมก็ไม่ได้เตรียมอะไรมากก็บอกเขาว่า ขอโทษที่ทำให้รอนานนะที่รัก
ตู่ : เขาก็พยายามทำให้เรามีวันนี้ ธีมงานหมั้นอยากได้กึ่งเอ้าท์ดอร์ ขบวนขันหมากคือสวยๆ
มาวิน : อยากให้แขกที่มาเป็นแบบครอบครัวจริงๆ มาแบบแฮปปี้ สบายใจ
Q : งานฉลองสมรส?
A : มาวิน : เราจะจัดฉลองสมรสในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564
ตู่ : แรกๆ ที่ได้เราฤกษ์มาเราไม่มั่นใจเรื่องโควิด พอได้ฤกษ์เดือนธันวา พี่บ้านบอกฤกษ์ดีมากไม่อยากให้เลื่อน แต่วันฉลองเมื่อไหร่ก็ได้ วันหมั้นสำคัญที่สุด
Q : เมาท์กันหนักว่า “มาวิน” จะเอาสินสอดอะไรไปขอ “ตู่”?
A : ตู่ : ใช่คนเพ่งเล็ง แต่คุณค่าความรักตีค่าเป็นเงินไม่ได้นะคะ
มาวิน : โชคดีครับที่เขาไม่ได้ตีมูลค่าความรักเป็นเงิน ผมไม่สนใจ เรารักกันสองคน คนอื่นไม่เกี่ยว ถ้าเรื่องไม่ดีผมไม่รับมาคิด เพราะตลอดเวลาเราผ่านทุกอย่างมากันสองคน ไม่มีใครมาช่วยเราเลย
ตู่ : คนไม่เข้าใจ อาจจะไม่รู้จักเรามากพอ อาจจะไม่เคยเจอเรา ไม่เคยฟังสัมภาษณ์เรา เรามองเป็นเรื่องปกติ คือจุดที่เรามามันอาจจะแตกต่างกันมาก นานาจิตตังขอให้สองคนรักกันก็พอแล้ว ไม่ใช่ประเด็น
ตู่ : เรื่องเรือนหอยากมาก ในกรุงเทพนี่แหละ ถึงจะแยกออกไปที่บ้านก็อยากให้อยู่ใกล้ๆ กัน
มาวิน : ไม่มีถูกใจเลย เอาจริงๆ คือยังไม่ได้ คือผมคิดว่าพอลงทุนทั้งทีก็อยากให้ดีที่สุด ที่บ้านอยากให้อยู่ใกล้ๆ กัน
Q : จะมีทายาทเลยไหม?
A : ตู่ : ใช่ ตอนนี้เราเริ่มปรึกษาหมอแล้ว คำนวณอายุนะ ถ้าเราอายุขนาดนี้ ลูกจะอายุเท่าไหร่ เราจะเล่นกับลูกไหวไหม เราคิดไปไกลแล้วมากกว่ามาวินอีก เหมือนแบบว่าเราจะอยู่ถึงเห็นหลานเราไหม เราอยากเห็นเขารับปริญญา คือคิดไปไกลแบบนั้นเลย
มาวิน : มีเลยผมไม่รอช้าแล้ว ผมอยากมีลูกสาว ก็ดูของ “พี่เอ็ม อภินันท์” ก็บันเทิงมาก ถ้าเรามีลูกก็จะเลี้ยงแบบเอาฮาสนุกๆ เลี้ยงง่ายๆ