ความสำเร็จต้องรอเวลา “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” กับการทุ่มทุนครั้งใหญ่ในรายการ “Woody Show”

ความสำเร็จต้องรอเวลา “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” กับการทุ่มทุนครั้งใหญ่ในรายการ “Woody Show”

        ถือว่าเป็นแถวหน้าของวงการบันเทิงอีกหนึ่งคน สำหรับพิธีกรอารมณ์ดี “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวตัดสินใจยุติการผลิตรายการออนไลน์ แต่ล่าสุดก็รุกทางทีวีแบบทันที แถมเล่นใหญ่สุดอลังการ เพราะเจ้าตัวทุ่มทุนบินไปซื้อลิขสิทธิ์จากรายการ The Ellen DeGeneres Show รายการชื่อดังระดับโลก วันนี้ “ดาราเดลี่” ได้เปิดใจเจ้าตัวถึงการทำงานครั้งใหม่ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจากพิษโควิดและการปรับตัวของสื่ออันเป็นผลมาจากเทคโนโลยี

Q : ที่มาของการทำรายการ Woody Show ?

A : สำหรับรายการ Woody Show เป็นรายการที่เราอยากทำมานานมากจริงๆ เป็นรายการในฝันตั้งแต่ผมทำรายการมา คือเป็นรายการในห้องส่งที่มีดารามาร่วม มีคนดูมานั่งในห้องส่ง มีการแสดงออกร่วมกัน เล่นเกมส์ ที่ยังไม่ได้ทำตอนนั้นคือเพราะใจยังไม่ถึง งบก็ยังไม่ได้ ประสบการณ์ยังน้อย ผมเลยทำเล็กๆ ที่เรียกว่า “เกิดมาคุย”

       คือผมอยากทำแบบเป็นรายการฟีลกู้ดนะ แต่รายการนั้นกลายเป็นฮาร์ดทอล์กไป เป็นรายการสัมภาษณ์ไป  ถือว่าเป็นการซ้อม จับประเด็นพูดคุย วู้ดดี้เกิดมาคุยก็ 10 ปีได้ ตอนนี้ถือว่าเป็น  Woody Show ที่อยากทำมานาน พอคิดถึงรายการออนไลน์ เราก็คิดถึง “เอลเลน” เราก็ติดตามรายการ The Ellen DeGeneres Show มานาน ผมก็เลยแบบเราจะเอาแบบนี้ ฉากแบบนี้ สัมภาษณ์แบบนี้ คือความที่เราชอบเอลเลนมากๆ ถ้าจะทำสักรายการก็ต้องทำรายการแบบนี้

Q : ทำไมต้องเป็นรายการแบบเอลเลน ?

A : รูปแบบรายการนี้ของเอลเลนผมว่ามันเหมาะสำหรับออนไลน์ ยอดคนดูสูง เราก็เลยมาคิดว่าเราจะทำแบบนี้แหละแต่ให้ออนในทีวีได้ด้วย เป้าหมายคือออนไลน์ดูแล้วสนุก แต่ก็จะออนทางทีวีด้วย จริงๆ ก็มีคนค้านว่าวู้ดดี้คิดเองก็ได้ทำไมต้องไปซื้อฟอร์แมตรายการแบบนี้ หรือว่าเราอยู่ในวงการมานาน ถ้าจะทำวู้ดดี้โชว์ จะทำแบบไหนก็ทำ คือพอไปดูเราก็มาคิดว่า เราไม่ต้องมาเสียเวลามาคิดช่วง ที่ผ่านมาผมคิดเองหมดทุกอย่าง มันใช้พลังเยอะมาก พอกลับมาปี 2020 ผมก็อยากจะคิดให้น้อยที่สุด รูปแบบสัมภาษณ์ก็ไม่ต้องคิด คือไม่ต้องคิดอะไร แค่เอ็นจอยกับมัน คือเป็นการซื้อฟอร์แมตทอล์กโชว์ มันมีมาที่ไป เราทำงานหนักมาเยอะ คือเราไม่อยากคิดอะไรคิดแล้ว เราชอบรูปแบบรายการนี้ก็ซื้อมาเลย สองเราชอบรายการเอลเลนโชว์มาก อยากก๊อปนะแต่ก็ไปซื้อลิขสิทธิ์ดีกว่า ก็ไปหาเขาเพราะเราก็อยากได้รูปแบบที่ดังในอเมริกามาเวิร์กในเอเชีย ในประเทศไทย ไม่แน่อนาคตก็จะมีคนมาซื้อฟอร์แมตแบบเอลเลนโชว์ในประเทศของเรา

Q : อยากให้เล่าบรรยากาศที่ไปเจอเอลเลน ?

A : เหมือนไปเจอดาราที่เราคลั่ง เช่นยุคนี้ก็ต้อง ไบร์ท วิน เราโตมากับเขา วันที่ไปเจอคือตื่นเต้น ไม่รู้จะพูดอะไร ลิ้นพันกันไปหมดหลังจากที่เขาทักทาย เค้าต้อนรับดีมาก สตูดิโอเขาก็ไม่เครียด เมื่อก่อนเคยคิดนะว่าจะคุยไรกับเขาดี แต่พอเจอกันเขาเป็นคนอบอุ่น น่ารัก ใจดี ผมก็พูดถึงการทำรายการในไทย เขายังถามเป็นมุขเลยว่ารายการเราชื่อไร ฉันต้องบินไปไหม ก็ได้คุยกันประมาณ 5 นาทีคือเป็นเวลาที่สั้นมากๆ เพราะตอนนั้นเขากำลังซ้อม ที่ผมบินไปดูงานเขาคือไปดูระบบถ่ายทำ ดูการบริหารจัดการผู้ชมเป็นแกนสำคัญของรายการ ดูรูปแบบการสัมภาษณ์ รีเสิร์ช จริงๆ ไม่มีคิดว่าจะได้คุยเอลเลนเลยนะวันนั้น แต่ก็ได้เจอ ได้คุย ก็รู้สึกว่าโชคดีมากครับ

Q : องค์ประกอบสำคัญของรายการ Woody Show ?

A : ส่วนสำคัญของรายการคือไม่ใช่ผมนะ แต่คือคนร่วมรายการ คือเราจะหาคนที่เราจ้างมาปรบมือแต่มาร่วมรายการจริงๆ มันก็ได้ แต่ตอนนี้เป็นโจทย์ใหญ่ เราเลยคิดว่าต้องหาคนมานั่งในรายการแบบจริงๆ ผู้ชมที่อินจริงๆ มาร่วมรายการ ต้องยอมรับว่าตัวรายการมีข้อบังคับ ในส่วนของคนดูคืออยากมากจริงๆ เราก็คิดนะว่าจะหามาจากไหน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เออเรามีฟอลโลเว่อร์ 14 ล้านคน จากโซเชียลของเรา ทำไมเราไม่เชิญแฟนๆ ของเรามาเข้ารายการของเรา มันคือเรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดเลยว่ารายการจะรองรับ 70 คน ต่อตอนได้ยังไง ความสนุกคือคนที่ดูรายการ คือสิ่งที่พูดถึง หรือของขวัญ บางครั้งอาจจะแจกของรางวัลในห้องส่ง มันเป็นเสน่ห์แบบเอลเลนโชว์ ดูแล้วเราก็อยากได้ช่วงนี้มาก เพราะตอนที่ไปอเมริการายการก็มีแจกวอเชอร์ ภัตตาคารหรูหลายพันบาท เราก็อยากทำแบบนี้ให้คนไทยบ้าง โชคดีเรามีพาร์ทเนอร์ พันธมิตร สปอนเซอร์ เยอะมากๆ ก็สามารถแจกของและมอบความสุขให้คนดูได้

       พลังคนดูสำคัญมากๆ บ้านเราหลายคนบอกว่าคนไทยไม่แสดงออก แล้วรายการจะเป็นไง? เรามีคนในประเทศ 70 กว่าล้านคน แต่ผมขอ 70 คนที่เปี่ยมพลัง พอถึงเวลาอัดรายการ ทุกคนก็มาเต็มมากๆ คือเคมีสำคัญคือระหว่างเราและผู้ชมเหมือนเป็นพิธีกรร่วมกัน

Q : หันกลับมาทำรายการทีวีจริงจัง ?

A : ผมกลับมาทีวีเหรอ คือผมไม่เคยแข่งยูทูบเบอร์นะ คือต้องบอกว่าผมไม่สามารถหาเงินจากสื่อได้อีกแล้ว การทำสื่อออนไลน์คือความสนุก แต่เราก็ต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเราไม่มีธุรกิจอื่น หรือไม่ทำโปรดักซ์ผมก็จะไม่มีธุรกิจหรือแพลตฟอร์มการออกกำลังกาย วันนั้นเรายุติทีวีเพราะทีวีไปต่อไม่ได้ เราก็ไปทำออนไลน์ และทำอีเว้นต์ ที่ทำเอลเลนคือเผอิญรายการนี้มีข้อบังคับว่าต้องเป็นรายการทีวี ผมก็เลยทำสั้นๆ แบบออนไลน์ ก็ไปคุยกับช่อง 7 ว่าสนใจไหม เค้าก็โอเค ก็เป็นการหาอะไรทำให้มีความสุข อยากทำอะไรสนุกๆ ให้คนบันเทิงไปด้วยครับ

Q : ความสำเร็จของ Woody Show วัดจากไหน ?

A : ต้องดูกันระยะยาว ผมว่าน่าจะยังสรุปไม่ได้ภายในสามเดือน ต้องยาวไปถึง 5 ปี ก็ต้องรอแต่มีความสุขนะ ผมยังไม่ได้วัด โอเคลูกค้าดูกระแสก็จริงแต่เราก็ทำให้ดีที่สุดก่อนที่จะถ่ายสักตอน พอออนแอร์ไปฟีดแบ็คเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับครับ