เจาะลึกทุกเรื่อง หนุ่มตี๋ “เจเจ กฤษณภูมิ” ที่ไม่ค่อยได้รู้
อีกหนึ่งหนุ่มนักแสดงวัยรุ่นมากความสามารถที่ใครๆ ก็หลงรัก สำหรับหนุ่ม “เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม” ไม่ว่าจะมีผลงานด้านไหนออกมาเหล่าแฟนเลอร์ก็ตามสนับสนุนอย่างอบอุ่นมาโดยตลอดอย่างที่รู้กันดีว่าเจ้าตัวเริ่มเข้าวงการตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยพัฒนาการและความเป็นเอกลักษณ์ของหนุ่ม “เจเจ” บอกเลยว่าไม่ธรรมดาอีกทั้งนามสกุล “พิบูลสงคราม” ที่หลายคนสงสัยถึงความสัมพันธ์ วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” จะพาไปเจาะลึกชีวิตของเขากัน
อ่านข่าวต่อ :: ส่องความแบ๊ว “เจเจ” น่ารักตั้งแต่เด็กจนโต
เส้นทางในวงการจริงๆ เริ่มตอนประมาณ 15 อะครับ เหมือน 15 มีโอกาสได้ไปเดินแบบที่งานยีนส์ที่เชียงใหม่พออายุ 16 ก็ได้ไปแคสหนัง หนังเรื่องเกรียนฟิคชั่น ของ “พี่มะเดี่ยว ชูเกียรติ” กำกับ แล้วก็ได้เล่น แล้วก็แบบมีงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ใช่ครับ อาจจะเป็นเพราะว่าคาแรกเตอร์ผมมันไปตรงกับบทด้วยมั้งครับ เพราะเอาจริงๆ ตอนนั้น ผมก็แบบไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลยตอนนั้น เพราะเราก็เหมือนเด็กธรรมดาที่อยู่เชียงใหม่อะไรอย่างงี้ แต่มันอาจจะเป็นเพราะแบบ เหมือนพอเราพยายามจะทำมันให้ดีด้วยในตอนแคสอะไรอย่างงี้มันก็เลยอาจจะเป็นเพราะตรงนั้นด้วย
หลังจากช่วงที่เกรียนฟิคชั่นแล้วมันมีงานการแสดงที่แบบต่อเนื่องๆ ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นผมก็ยังเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ก็เลยต้องบินแบบไปกลับ เพื่อที่จะลงมาทำงานแล้วกลับขึ้นไปเรียนมันก็เหนื่อย แต่ว่าผมก็รู้สึกว่ามันก็เป็นโอกาสและประสบการณ์ที่ดี ก่อนหน้าที่จะแคสเกรียนฟิคชั่น เหมือนผมเคยไปแคสเรื่องนึงชื่อว่าเรื่อง HOME ของพี่มะเดี่ยวเหมือนกัน แต่ว่าตอนนั้นผมไม่ได้ แล้วเหมือนเขาก็มีโปรไฟล์ผมอยู่แล้วอะไรอย่างงี้ แล้วพอมาเรื่องเกรียนฟิคชั่นปุ๊บมันจะมีทีม Scout มา Scout ที่โรงเรียนผม แล้วเหมือนวันนั้นผมก็กลับเร็ว เหมือนเพื่อนผมก็เอารูปผมให้เขาดู เขาก็เลยขอคอนแท็กแล้วก็เรียกไปแคส
ถามว่ากดดันไหมมีเยอะเลยทั้งแบบแรงกดดันจากคนข้างนอก แรงกดดันจากตัวเอง แล้วก็ผู้ใหญ่ในค่ายที่แบบคอยจี้ๆ เรา ผมจะใช้วิธีการที่แบบผมจะชอบกลับบ้าน กลับบ้านที่เชียงใหม่ เวลาผมกลับบ้านผมก็ ผมก็จะชอบแบบปั่นจักรยานรอบๆ หมู่บ้าน แล้วก็จะไปในที่ที่เหมือนเราเคยมีความจำตรงนั้น มันก็จะช่วยดึงมาได้ ว่าเมื่อก่อนเราเป็นยังไง เราเล่นกับใครตรงนี้
ครอบครัวของผมพ่อแม่ผมเขาจะไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ เขาจะแบบให้ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ อะไรที่ผมทำแล้วผมชอบ ผมรับผิดชอบตัวเองได้แบบไม่เสียการเรียนแบบเรียนให้จบด้วย ก็ทำงานด้วยแล้วก็มีเงินด้วย พ่อกับแม่ก็แฮปปี้แล้วครับ
ถามว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม คือผมเป็นเหลนคือคุณปู่ผมจะเป็นลูกคนโตครับพ่อผมเป็นลูกคนกลางแล้วผมก็เป็นลูกคนโตของพ่อ คือเป็นสายตรง จริงๆ เราก็รู้จากที่เรียนในคลาสประวัติศาสตร์ แล้วเราก็ได้รู้จากฝั่งที่บ้าน แล้วเราก็ตามข่าว แล้วก็เสิร์ช Google อะไรแบบนี้ คือผมรู้สึกว่าพอมันเป็นประวัติอะครับ มันถูกบิดเบือนค่อนข้างเยอะ ไม่รู้ว่าอันไหนมันเป็นความจริงหรือว่ามันเป็นสิ่งที่แต่งขึ้นมา เพราะว่ามันก็ถูกเล่าปากต่อปากอีกทีอะไรอย่างงี้ ผมก็เลยรู้สึกว่า ผมไม่เชื่อสักอย่างเลยดี ผมแค่นับถือท่านว่าเป็นทวดผมเท่านั้นก็พอแล้ว
แต่ว่าสิ่งที่เขาทำมาหรือว่าสิ่งที่แบบเขาเล่าต่อๆ ผมก็แบบปล่อยไป แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ครูพูดชื่อทวดผมแล้วก็จะมีนามสกุลติดมาเพื่อนๆ ก็จะหันมามองผมอะไรอย่างงี้ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่เพราะว่าตั้งแต่เริ่มเรียนประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ประถม มัธยม มัธยมปลายอะไรอย่างงี้ รีแอคชั่นครูแต่ละคนคือไม่เหมือนกันสักคนครับ บางคนก็จะแบบ จอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ไม่ได้พูดใส่ผมนะ บางก็จอมพลป.พิบูลสงคราม ผมก็แบบผมก็รู้สึกว่าสรุปแล้ว มันก็คือเป็นเรื่องการเมืองที่แบบแต่ละคนก็จะมีทัศนคติของเขา มันก็เลยทำให้ผมคิดว่าเอ๊ะแล้วอย่างงี้ที่ประวัติศาสตร์ หนังสือที่เขาเขียนๆ มาอย่างงี้ เราควรจะเชื่ออันไหนดี เพราะแหล่งข้อมูลมันก็เยอะมากเลย
#แฟนเลอร์ #jaylerr #nadaoartist