"สนุ๊ก บดินทร์" อัพเดทอาการล่าสุดหลังติดเชื้อCovid-19 พร้อมเผยขั้นตอนการรักษา

"สนุ๊ก บดินทร์" อัพเดทอาการล่าสุดหลังติดเชื้อCovid-19 พร้อมเผยขั้นตอนการรักษา

         เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ได้ออกมาโพสต์ให้ได้ทราบกันว่าติดเชื้อ Covid-19 และมีอาการที่ดีขึ้นหลังได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสำหรับ  "สนุ๊ก บดินทร์ ฤกษ์วุฒิพงษ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจเรื่องนี้พร้อมเผยขั้นตอนการรักษากับทาง "ดาราเดลี่" ให้ฟังด้วยว่า

       ก็ได้นอนโรงพยาบาลได้ 2 คืน 3 วันแล้วโดยแต่ละคนก็มีอาการไม่เหมือนกันอย่างตนจะไม่มีอะไรเลยที่ผ่านมาพอถึงวันที่  19มีนาคมตอนกลางคืนก็รู้สึกปวดหัวตัวร้อนวัดได้ได้ 30 องศาเซลเซียสกว่าแต่ได้แปะแจลลดไข้พอตื่นมาก็ปกติแต่เพื่อนแจ้งมาว่าไปตรวจมาแล้วติดเชื้อเลยไปตรวจบ้างก็ตรวจวันที่20 ตอนบ่ายรอผล 6 ชั่วโมงก็เลยทราบวันที่ 21  ซึ่งมีจุดเดียวที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อคือตอนไปกินหมูกระทะกับเพื่อนแถวรัชดาเพื่อนที่ไปด้วยคือคนที่ติดเชื้อก็พอไปตรวจรอผลอยู่ไปกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยวินาทีที่คุณหมอบอกติดเชื้อก็ตกใจนิดหน่อยเพราะเป็นโรคใหม่ที่ไม่มียารักษาก็ดูข่าวเห็นถึงความร้ายแรงของโรคนี้แต่พอมีข้อมูลมาบ้างเลยทำให้ตั้งสติได้ ซึ่งโรงพยาบาลจุฬาฯที่รักษาก็จะแยกห้องให้กับคนที่มีอาการรุนแรงหรือมีน้อยจะไม่มีคุณหมอมาดูอาการจะโทรถามทางโทรศัพท์เอาในแต่ละวันรักษาตามอาการไปเพราะยังไม่มียารักษาตายตัวให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเองซึ่งอุณหภูมิร่างกายของตนก็ปกติ

        ทั้งนี้ไม่ได้ตัดสินใจนานที่จะโพสต์ให้ทราบกันก็ปรึกษาผู้จัดการและหลายฝ่ายที่จะโพสต์ไทม์ไลน์ด้วยและตอนนี้บอกไม่ได้ว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อหนักหรือเบาเท่าไหร่เพราะต่างคนต่างแยกกันรักษาอยู่แต่ห้องตัวเองแค่ประตูลูกบิดก็เปิดไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่สะอาดมาก ด้านคุณหมอก็ยังบอกไม่ได้ว่าต้องนอนกี่คืนต้องสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองอย่างที่ทราบเพื่อนๆที่หายบางคนก็ใช้เวลารักษาหนึ่งเดือนแต่คุณหมอบอกบางเคส 11 วันก็หายแล้ว ส่วนงานละครที่ถ่ายทำอยู่คือเรื่อง "เสียงหัวใจที่อยากให้ได้ยิน"ก็หยุดตามที่รัฐบาลประกาศไว้ก่อนต้องดูสถานการณ์อีกทีว่าจะหายทันไหมหรือทางกองจะมีมาตรการโดยรวมยังไงบ้าง

         คนที่ติดเชื้อเป็นจะถ่ายเหลวคุณหมอยังหาสาเหตุไม่ได้จะให้ทานอาหารอ่อนๆห้ามทานอาหารที่คนข้างนอกนำมาให้ กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอยู่บ้านตนก็พักที่คอนโดได้คุยกับนิติแล้วทำการฆ่าเชื้อหมดแล้วและทางกองละครก็ทำการฆ่าเชื้อที่ตนไปถ่ายทำแล้วเช่นกันซึ่งขอฝากไว้ว่าไม่อยากให้ตื่นตกใจกันมากโรคนี้ถ้ายังไม่ลงปอดจะรักษาได้ง่ายแต่ถ้าลงปอดจะอันตรายต้องอยู่ในมือแพทย์ตลอดซึ่งตนได้รับเชื้อมาน้อยมีโอกาสหายเร็วก็อยากให้ใส่แมสก์ใช้แจลล้างมือและหลีกเลี่ยงที่มีคนเยอะๆ