“ธัญญ่า” เผย “เป๊ก” กักตัว 14 วัน หวั่นกระทบ “น้องลียา”
ผ่านพ้นช่วงการกักตัวไปแล้ว 14 วัน หลังที่กลับจากทริปญี่ปุ่น สำหรับสาว “ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล” และครอบครัว แต่ล่าสุดมีโอกาสเจอตัว เธอเลยเผยต่อว่าสามีอย่างหนุ่ม “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” ก็ต้องกักตัวต่ออีก 14 วัน เพราะไปทำงานที่อเมริกา งานนี้จะคิดถึงลูกสาว “น้องลียา” ขนาดไหน ไปฟังจากปากของคุณแม่ “ธัญญ่า” กันเลยจ้า
อ่านข่าวต่อ : “ธัญญ่า” ถึงไทย พักงาน 14 วัน พร้อมลูกสาว “น้องลียา” งดไปรร.
ตอนกักตัว 14 วัน ไม่ได้ลุ้นเพราะเราไม่ได้ไปประเทศที่สุ่มเสี่ยง ไม่ได้ไปในที่คนแออัดเยอะ ไปก็ไปเล่ยสกี สโนว์แค่นั้น เมืองที่เราไปคือ ฮอกไกโด ตอนแรกที่เราไปมันมีข่าวว่ามีคนเป็นแค่คนเดียว มีข่าวว่ามีคุณปู่คุณย่าที่เป็น และตอนช่วงที่เรากลับ เป็นช่วงที่คนพูดกันเรื่องกักตัว 14 วัน. เราก็เลยเคลียร์งานเคลียร์ทุกอย่าง ตอนมีข่าวคุณปู่คุณย่าเราใจเสียไหม เราก็แค่แบบฮอกไกโดกลับก่อนเราประมาณไม่กี่วัน เราก็เออๆ ก็ต้องเคลียร์งาน เรากลับมาจากญี่ปุ่น ต้องกักตัว 14 วัน เราก็โอเค เพราะเราเห็นเขาขอความร่วมมือจากคนที่กลับมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง และเมืองที่เราไปมันก็เป็นเมืองที่มีข่าวพอดี เราก็กลัวคนจะรังเกียจเราด้วย
แต่ตอนกักตัวเอง เราไม่ได้ไปตรวจเพราะไม่มีอาการอะไร แต่มีสมุนลียาที่กลับมาแล้วไข้ขึ้น เราก็ไม่สบายใจก็รีบพาเขาไปโรงพยาบาล แต่ถ้าไข้ไม่ถึง 37.5 ก็ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องตรวจทางโรงพยาบาลก็ถามว่าจะเอาอย่างไรจะตรวจหรือไม่ตรวจ คือถ้าตรวจเราต้องเสียเงิน กเสียไปประมาณ 10,400 บาท แต่ให้ตรวจดีกว่าเพื่อความสบายใจ เพราะอยู่กับลูกเราด้วยอยู่ในบ้านเราตรวจแล้วก็ไม่เป็นไร
มองสถานะการณ์นี้อย่างไรเพราะค่าตรวจก็แพง เราก็กังวล คือทุนทรัพย์ในการใช้ตรวจก็ค่อนข้างแพง คือมันมีมาตราการที่ให้ตรวจฟรีแต่ต้องมีไข้ 37.5 ต้องมีอาการน้ำมู มีไอ แต่มันก็คงมีอีกหลายคนที่เป็นแต่ไม่มีอาการซึ่งถือว่าน่ากลัวเพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาอาจจะเป็นแต่เขาก็คงจะไม่มีเงินไปตรวจ เราก็ไม่รู้ว่าเขาแพร่ไปอีกเท่าไหร่
ตอนนี้กลับมารับงานแล้วต้องมาเจอแขกรับเชิญ เราไม่ได้รู้สึกกลัว คือเราระวังตัวเองในจุดที่เราระวังได้ แต่ถ้าวันหนึ่งเราต้องเป็นขึ้นมา เราก็ต้องรับสภาพให้ได้ เราก็รักษาเท่านั้นเอง คือทุกวันนี้เราเป็นคนล้างมือบ่อยอยู่แล้ว และไม่ไปในที่ชุมชนที่มีคนเยอะๆ ไม่ไปในห้าง คือถ้าไม่มีอะไรเราก็ไม่ไปอะไรที่เลี่ยงได้ก็เลี่ยง อย่างงานวันนี้ก็จัดในที่เปิด อย่างวันไหนเราต้องเข้าสตูดิโอคนก็ไม่ได้เยอะมากมาย ทีมงานก็จะใส่แมสกัน มีแอลกอฮอลล์กันทุกคน ก่อนเข้าตึกก็จะมีวัดอุณภูมิ มีล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์ ทุกคนก็กลัวกันหมด เลือกรับงานมากขึ้น จริงๆ ก็ไม่ได้เป็นคนที่มีงานอีเว้นท์เยอะอยู่แล้ว ก็จะอยู่ในรายการเป็นพิธีกรมากกว่า
“น้องลียา” ก็ต้องหยุดเรียนคือเรากลับมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง ก็ต้องกักตัวอยู่แล้ว กับตัวลียาเราไม่ได้กังวลมาก เรารู้สึกว่ากังวลมากจะใช้ชีวิตลำบาก ด้วยความที่เราได้คุยกับคุณหมอ ในเด็กค่อนข้างจะไม่น่ากลัวเท่าผู้ใหญ่หรือคนแก่เด็กจะไม่มีภูมิจองเขาอยู่แล้ว พอเด็กเป็นมันก็เลยไม่รุนแรงเขากังวลคนแก่และคนที่มีโรคประจำตัว เราก็สบายใจระดับหนึ่ง ซึ่งลียาก็ชอบใส่แมสเพราะเป็นเด็กขี้อาย
แต่ล่าสุด “พี่เป๊ก” กักตัวเองอยู่เพราะเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ต้องกักตัว 14 วัน วันนี้เขาเลยไม่มา เราก็แยกบ้านอยู่คนละหลัง เขาก็มีบ่นถึงลียาบ้างแต่เขาก็โทรคุยกันทุกวัน