"ตั๊ก มยุรา" ไม่โกรธ "ขวัญ อุษามณี" หลังเจ้าตัวมาขอโทษ

"ตั๊ก มยุรา" ไม่โกรธ "ขวัญ อุษามณี" หลังเจ้าตัวมาขอโทษ

            เป็นกระแสดราม่าอย่างหนักสำหรับกรณีของนางเอกหน้าตุ๊กตา “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์”  ที่เทกองละคร จนเป็นเรื่องราวทำเอาผู้กำกับ นักแสดงคนอื่นต่างเพลียกันไปหมด และหนึ่งในนักแสดงรุ่นใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่าง
"ตั๊ก มยุรา เศวตศิลา"  ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ พร้อมทั้งยังอัพเดทผลงานที่ได้ร่วมงานกับทางช่องอมรินทร์เป็นครั้งแรก และยังหวนกับมาเล่นกับสาว "พลอย เฌอมาลย์" อีกด้วย

อ่านข่าวต่อ :  "ตั๊ก มยุรา" หวนคืนจอ สุดปัง! ทุ่มสุดพลัง!! บทแม่ผัวตัวแสบ

            เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงานกับช่องอมรินทร์ เพราะปกติเราจะเล่นละครน้อย จะไปทำเรื่องอื่นซะเยอะกว่า ก็จะมีละครปีละเรื่อง แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกและเราก็ยินดีที่จะได้ทำงานร่วมกับทางอมรินทร์ เราก็เลยรับเล่นเรื่องนี้ เล่นเป็นคุณแม่ที่เป็นบทร้ายๆ วิธีเจรจาหรือสื่อสารกับลูกจะเป็นคนแรง และก็มีแอบคิดไม่ดีกับลูกเพราะว่าไม่ ใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง เป็นลูกที่เกิดจากสามีซึ่งเราไม่ตั้งใจอยากให้เกิดเพราะว่าสามีไปมีอะไรกับอีกคนนึง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อยากจะบอกว่าให้ดูกัน เรื่องนี้จะสอนอะไรเราหลายอย่าง ส่วนมากเวลาที่เราเล่นละครหลายๆ เรื่องในละครมันจะสอนเราอยู่แล้ว นางเอกในเรื่องถึงเขาจะเปรี้ยวแต่เขาก็เป็นคนดี 

            ร่วมงานกับพลอยตั้งแต่เรื่องสามีตีตราก็ยังไม่ได้เจอกันอีก เรื่องนั้นก็ดังมากเราก็ประ ทับใจที่ได้เล่นละครกับพลอย เรื่องนี้เราว่ามันยากว่ามันแรงแล้วก็บางทีผู้กำกับก็แซวเราว่าปกติเราไม่ใช่คนแบบนี้ เราเก็บกดหรือเปล่า แล้วก็เก็บกดอยู่เหมือนกันเพราะจริงๆแล้วเราก็ไม่ใช่แบบนี้ เราว่าลูกแรงมากเราเปรียบเทียบลูกให้เป็นเหมือนโสเภณีมันแรงมาก เราว่าเราโอเคแต่ว่าเล่นแล้วมันก็เครียดแล้วมันก็เล่นยาก แต่ถ้าถามว่าเล่นแล้วมันคุ้มเหนื่อยไหมเราว่ามันคุ้ม เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่กลับมาเล่นกับคุณแซม หลังจากที่เคยเล่นคู่กันมา อย่างเรื่องนี้เมื่อตอนเวอร์ชั่นแรกเราก็เล่นเป็นนางเอก ก็ใกล้จะได้ชมกันแล้วประมาณวันที่ 5 เดือนเมษายน

            ส่วนเรื่องอีกกองนึงที่นางเอกหายไปกะทัน หัน เราก็อยากจะบอกว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้วันนั้นเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ เราก็มาถ่ายตามปกติดีๆ ผู้กำกับก็มาบอกเราว่านางเอกกลับไปแล้ว ผู้กำกับมาขอโทษแล้วก็ต้องยกกองกลับ เขาให้เรามาเราก็มาให้เรากลับเราก็กลับ มีคนมาสัมภาษณ์เราว่าเราอยากทราบเรื่องนี้ไหม แต่ตอนนี้เราก็ไม่อยากทราบแล้วเพราะว่าเราถือว่ามันไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะว่าเราเป็นผู้ใหญ่แล้วเราเป็นนักแสดงเราจะไปตัดสินใครเขาก็ไม่ได้ แต่ก็ยอมรับว่าตอนแรกเราก็งงมาก เพราะว่าเราต้องไปไกลขนาดนั้นและเราก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อ 2 วันก่อนน้องเขาก็มาขอโทษเราแล้วเราเจอกันโดยบังเอิญ

            ตั้งแต่เราอยู่ในวงการมาก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้ มีแต่ที่เจอก็ป่วยกระทันหันแล้วก็พากันไปส่งโรงพยาบาล วันนั้นในกองทีมงานก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร จะถามว่าเราโกรธไหมเราก็ไม่ได้โกรธ เรามองว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเองแต่เหตุผลนั้นคืออะไร เราอย่าเพิ่งไปตัดสินใจอะไรก่อนเพราะบางทีเราพูดอะไรไปมันก็จะมีการต่อยอด หลังจากวันนั้นก็มีคนมาถามเราเยอะเราก็เลือกที่จะบอกว่าเราไม่อยากรู้ ให้ทีมงานและกองละครเป็นคนตัดสินใจเองก็แล้วกัน วันนั้นเราก็กลับบ้านแล้วเราก็สมมุติว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

            มันก็กระทบคิวกับงานเราคือเลื่อนงานไปอีกยาวเลย แต่เราก็โอเคเราก็ไม่คิดว่าจะถอนตัวออกจากกองด้วย เพราะเราก็เชื่อมั่นทางผู้จัด งานโดนเลื่อนออกไปเราก็โล่งใจอยู่บ้างเพราะว่าเราก็ไม่อยากให้คิวงานเราแน่นไม่อยากให้ละครมันชนกัน 2 เรื่อง