"ลูกตาล" งัดหลักฐานโต้เดือดเจ้าหนี้มหาโหด
จากกรณีมีคลิปดังในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการทวงหนี้ของเจ้าหนี้รุ่นใหญ่บุกมาทวงหนี้จำนวน 1,400,000 บาท จากนางแบบสาว "ลูกตาล ชโลมจิต จันทร์เกตุ" จนคลิปว่อนเน็ตเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ล่าสุดมีโอกาสเจอสาว "ลูกตาล" ที่ควงคู่ทนาย "เดชา ทองสุข" เลยให้เจ้าตัวเปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า
ธุรกิจของลูกตาลไม่ได้มีปัญหา แต่เมื่อ 2 ปีต้องการขยายกิจการก็เลยต้องการใช้เงินแต่ไม่อยากไปกู้หนี้ยืมสินใคร เลยเอาเพชรไปขายเพื่อมาลงทุนเลยเอาไปขายที่ร้านของคู่กรณี ราคาประมาณ 1,600,000 บาท แต่ลูกตาลใช้เงินประมาณ 1,500,000 บาท เลยบอกขอขายคืนได้ไหม เขาบอกไม่รับซื้อคืนเพราะมันเก่าแล้ว เขาบอกว่าเป็นขายฝากได้ไหมซึ่งเราไม่ค่อยรู้ด้านนี้ แต่ขายฝากต้องมีเอกสารเงินกู้ เราเลยเอามอเตอร์ ไซค์ไปเป็นหลักประกัน มูลค่า 600,000 บาท เลยได้รับเงินมา 1,400,000 บาท ผ่อนมาตลอดระยะเวลา 1 ปี ในราคา 70,000 บาท รวมแล้ว 850,000 บาท เราก็อยากรู้ยอดหนี้เหลือเท่าไร เขาก็บอกว่าที่ผ่อนมาคือดอกเบี้ย แล้วเขาก็ยึดเพชร ยึดรถ แล้วก็ยังทวงเรื่อยๆ เราก็บอกที่ยึดไปเท่าไรเหลือเท่าไร ขอจ่ายที่เหลือได้ไหม จริงๆ เขาต้องจ่ายเราคืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ไม่ยอม และเขายังมีเขียนเช็คอีก 1,400,000 บาท แต่เงินในเช็คไม่ได้เขียนในสัญญา พอถึงเวลาเขาจะฟ้อง 1,400,000 บาท กลายเป็นอีก 2,800,000 บาท เลยเป็นหนี้ 2 เด้ง มันคุยกันไม่ได้แล้ว
พอถึงวันคลิปเขาก็โทรไปทวงทุกคนที่รู้จักลูกตาล เหมือนจะให้เราเสียชื่อเสียง แล้วเขาก็มาทวงที่ยิม แล้วลูกค้าเยอะมากเราก็บอกให้คุยกับทนาย เขาก็ตะโกนบอกเราติดหนี้ เราเลยไปแจ้งความ แล้วทางคู่กรณีให้ข่าวว่าเราจะเข้าไปทำร้ายเขาแต่ตำรวจระงับไว้ได้ ก็เลยรีบหนีไปมันเป็นคนละม้วนเลย เราไม่ได้ทำไรเลย
ด้านทนายกล่าวว่า สัญญาทำมา 3 ฉบับ เรามีหลักฐานการโอนเงินทุกอย่าง แล้วเหมือนตกลงกันไม่ได้เลยบอกให้ลูกตาลหยุดจ่ายก่อน เพราะไม่รู้จ่ายงวดไหน เอางี้ถ้าจะให้จ่ายอันไหนให้ไปฟ้องศาล เราจะได้รู้ด้วยทางเรายินดีจ่าย เราเลยอยากรู้ว่าทำไมไม่ไปฟ้องศาล มาทวงแบบนี้ได้ไง ในสัญญาไม่ได้ระบุดอก ดอก 60% ต่อปีมันผิดกฎหมายอยู่แล้วเรื่องดอก ที่มีข่าวออกมาว่าติดต่อทางทนายแล้วแต่ทางนี้ไม่มีการตอบโต้ คือผมไม่มีอะไรจะคุยแล้ว เพราะการตกลงยอดหนี้มันไม่ลงตัว แล้วให้ไปเจอกันในศาล แล้วลูกตาลมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง สามารถตามเจอ แล้วถ้าไม่มีจ่ายก็ยึดทรัพย์ไป ผมแค่สงสัยว่าทำไมคู่กรณีถึงไม่ไปฟ้องศาล อีกอย่างเราไม่เคยผิดใจกันเลย เรื่องเพชรเราซื้อร้านเขาต้องขายร้านเขา
ในส่วนทางเราจะฟ้องเรื่องหมิ่นประมาท ก็ต้องรอทางเขามาฟ้องเรื่องหนี้สินกับเรา เขาไม่ฟ้องสักที คงอยากจะด่าเราเรื่อยไป ที่เราหายไป 2 วันเราไปตั้งสติ เราไม่ได้หนีหนี้ เราไม่ได้ทะเลาะอะไร มันกระทบกับธุรกิจเรา เพราะตอนเขาไปทวงทวงต่อหน้าคนมาเล่นยิม ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ซื้อเพชรร้านเขา ถามว่าทำไมไม่กู้ธนาคารมันวุ่นวาย
