“โบว์” อัปเดตอาการป่วยแม่ ขอบคุณ “ก๊อต” คอยให้กำลังใจ
นักแสดงสาว "โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์" กำลังอยู่ในช่วงต้องการกำลังใจอย่างมาก เนื่องจากคุณแม่ของเธอได้ล้มป่วยและนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสาว "โบว์" ก็ได้ทำหน้าที่ลูกโดยการไปดูแลไม่ขาดสาย มีโอกาสเจอสาว "โบว์" เลยให้เจ้าตัวอัปเดตอาการของคุณแม่สักหน่อย
อาการของคุณแม่ตอนนี้ด้วยโรคที่เขาเป็นเขาก็ต้องรักษาตัวเองด้วยเพราะตอนนี้หมอได้ให้ยาที่ดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างการดูแลคือดีที่สุดแล้ว ร่างกายตอบรับกับยาได้ จำเป็นต้องแข็งแรงด้วยตัวเอง คือตอนแรกที่หมอ บอกว่าโรคที่แม่เป็นมันเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงนะ เราก็กลัวบ้าง แต่พอเราเห็นคุณแม่สู้เราเลยรู้สึกโอเคที่เห็นแม่ยังสู้ต่อ แม่ยังบอกเราอีกด้วยว่าถ้าออกไปจะเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่หมดเลย ทั้งการกิน การนอนต่างๆ คือเขามีกำลังใจ และเราก็เห็นว่าเขาตั้งใจที่จะช่วยพวกเรา อย่างตอนนี้ทุกๆ คนพยายามช่วยกันอย่างดีที่สุดแล้ว ขึ้นอยู่กับตัวเขาที่จะต้องเริ่มขยับบ้าง เริ่มเดินบ้าง อะไรบ้าง เพราะตอนนี้เขายังเดินไม่ค่อยได้เลย และตอนนี้ก็ยังกินข้าวไม่ได้ 3 อาทิตย์แล้วที่ต้องให้อาหารโดยต้องเจาะเข้าเส้นเลือดตามที่คอจะได้ลงกระเพาะ ถ้าเจาะตามที่ปกติด้วยความที่น้ำย่อยมันมีอวัยวะที่ย่อยตัวเอง พอกินอาหารเข้าไปอีกมันจะยิ่งย่อยหนักกว่าเดิม ทำให้มีกรดในกระเพาะเพิ่มขึ้น ทีนี้ก็กลายเป็นว่าท้องบวม อักเสบมากขึ้น เป็นแผลมากขึ้น พอให้ยาเพิ่มขึ้นด้วยความที่เขาขับน้ำเองไม่ได้ เลยมีน้ำในปอด คือมันมีโรคแทรกเข้ามา เนื่องจากด้วยอายุของเขา พอเขาอายุมาก การฟื้นตัวเลยใช้เวลา แต่เขาก็ยังสู้ต่อ
คือเราเห็นทุกครั้ง เขายังพูดคุยกับเรา เขารู้ว่าอะไรคืออะไร เขาบอกเราตลอดว่าเขาอยากหายเพราะเขาอยากกลับบ้าน เป็นห่วงต้นไม้ ห่วงบ้าน ห่วงเราทุกคน เราเลยบอกเขาไปว่าแม่ไม่ต้องห่วงใคร ตอนนี้แม่ต้องห่วงตัวเองก่อน คือเราเข้าใจความเป็นแม่ เห็นเราอดหลับอดนอน เพราะว่าพยาบาลเข้ามาตลอด เขาก็จะบอกเราว่าแบบไม่ต้องมาก็ได้ กลับไปนอนที่บ้านเถอะ แต่เราทำไม่ได้ คือเรากับพี่ชายสลับวันกันมาดูแล วันไหนเราว่างเยอะก็จะไปดู แต่ถ้าช่วงไหนที่เรากับพี่ชายไม่ว่างก็จะฝากพยาบาลดูแล คือต้องเฝ้าตลอด 24 ชม. มีการตรวจทำทีซีสแกนด้วย แต่ทำบ่อยไม่ได้ เพราะแม่ทำไป 6-7 ครั้งแล้ว เดี๋ยวมันจะมีเอฟเฟคท์ที่ไต ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวกับข้างในมันทำมากก็ไม่ได้ น้อยไปก็ไม่ได้ มันเลยต้องดูวันต่อวัน
คือตอนนี้แม่ก็ยังมีไข้ขึ้นๆ ลงๆ บางวัน 36 องศา ถ้ามันคงที่แบบนี้แสดงว่าข้างในไม่มีการอักเสบ แต่บางวันแม่เป็นแบบ 38-39 แสดงว่าข้างในอักเสบ พออักเสบเลยต้องมีการเอ็กซเรย์ ซึ่งต้องบอกว่าแม่ตอนนี้โดนพวกแสงเยอะมาก ทำให้อวัยวะข้างในทำงานช้าเหมือนกัน แต่ก็ต้องมีการตรวจเพราะว่ามันมีการอักเสบเกิดขึ้น ต้องใช้ยาตัวไหนเพิ่ม ต้องให้เลือดเพิ่มไหม ถามว่าเราเครียดขนาดไหน เครียดอยู่นะ เพราะว่า 8 วันแรกที่เขาอยู่ ICU เราเฝ้าเขาไม่ได้ เราต้องแบบไปกลับกรุงเทพฯ กับพัทยา คือเขามีเวลาเยี่ยมนิดๆ หน่อยๆ พยาบาลเขาจะต้องดูแล แล้วห้องมันเป็นห้องปลอดเชื้อ ช่วงนั้นเลยเครียด คือเหนื่อยมาก ทำงานแล้วไปเยี่ยม ไม่ได้พักเลย เพราะเราเป็นห่วงเขามากจริงๆ มีแค่วันสองวันที่ขอทิ้งตัวลง โชคดีวันนั้น "ก๊อต" อยู่พอดีเราเลยบอกขอแป๊บ หนึ่ง เขาก็แบบโอเค ปกติเขาจะให้เราสู้ วันนั้นเขาก็น่ารัก
ถามว่า "ก๊อต" เขาให้กำลังใจยังไงเราบ้าง คือเราโชคดีมากที่มีเพื่อนๆ ที่เข้าใจเรา คือเขาจะบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ มันคือหน้าที่ เพราะเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเซ้นซิทีฟ เราเชื่อว่าถ้าทุกๆ คนเจอเหตุการณ์แบบนี้มันก็หนักมากเหมือนกัน เพราะยังไงเขาก็แม่เรา คือคนที่รักเรามากที่สุด ไม่ว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหนเราก็ให้เขาเห็นว่าเรายังโอเค คือเขาก็ได้รับกำลังใจที่ดีในการสู้ อย่างตอนที่เขาอยู่ ICU เขาก็ถามตลอดว่าจะรอดไหม คือวันนั้นเราต้องเดินออกจากห้องเลยเพราะไม่คิดว่าแม่จะถามแบบนี้ แต่พอเราตั้งสติได้เราก็เข้าไปบอกกับเขาว่า ยังมีโอกาสนะ แต่แม่จะต้องทำแบบนี้นะ แม่ต้องสู้นะ ตอนนี้ก็ออกมาอยู่ห้องปกติแล้ว คืออยู่ ICU 8 วัน เราเชื่อด้วยแหละว่าพออยู่ในห้อง ICU มาเจอคนที่เคสหนักๆ เหมือนกัน แม่เราก็รับรู้ได้ว่าแค่คนที่เข้ามาเป็นอะไรบรรยากาศในห้องมันหดหู่มากจริงๆ เราเลยบอกแม่ว่ารีบๆ ดีขึ้นจะได้ออกมา หลังจากนั้นพอแป๊บเดียวเหมือนเขาสู้ต่อเลย ตอนนี้ก็ยังต้องดูๆ กันต่อไป เพราะอาการมันขึ้นลงทุกวัน