เปิดมุมมอง “เนย-แจม-พิกเล็ท” คิดอย่างไรกับโซเชียลบูลลี่แรงๆ 

เปิดมุมมอง “เนย-แจม-พิกเล็ท” คิดอย่างไรกับโซเชียลบูลลี่แรงๆ 

       เกิดเหตุการณ์แชร์ภาพวิพากษ์วิจารณ์เป็นดราม่ามายัง 3 สาวสวยบ้าน “อิมราพร” อย่าง  “เนย วรัฐฐา, แจม ชรัฐฐา” และ “พิกเล็ท ชาราฎา” ไปก่อนหน้านี้ เมื่อมีหนุ่มแชร์ภาพอ้างว่าทั้ง 3 แซงคิวร้านดัง ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วทั้ง 3 คนได้นัดแนะกับทางร้านเพื่อเข้าไปถ่ายทำรายการ ก่อนที่ต่อมาหนุ่มคนดังกล่าวจะไดเรคข้อความไปขอโทษที่โพสต์ไปโดยไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จนจบดราม่าไป กลายเป็นอีกอุทาหรณ์ให้กับโลกโซเชียลที่หลายครั้งถูกใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ทาง “ดาราเดลี่” จึงได้ติดตามไปที่ 3 สาวพี่น้องเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องโซเชียลบูลลี่และการจัดการเมื่อเจอเหตุการณ์โดนบูลลี่

ดารากับคำว่าบุคคลสาธารณะเมื่อต้องถูกพูดถึง-แชร์ภาพในโลกโซเชียล

         คิดว่าไม่ใช่แค่ดารา คนธรรมดาก็เห็นว่าโดนเหมือนกัน แต่มุมของดาราอาจจะเป็นที่สนใจและคนทั่วๆ ไปอาจจะคิดว่าดารามีอภิสิทธิ์กว่าคนอื่น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น การถ่ายภาพหรือพูดถึงเราในโซเชียลจริงๆ ถ้าไปในทางที่สร้างสรรค์หรือว่าน่ารักๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่น่ามีปัญหาอยู่แล้ว แต่สำหรับการถ่ายภาพของเราโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตแล้วโพสต์ให้เสียหาย เสื่อมเสีย หรือในทางที่ไม่ดี มันค่อนข้างละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเราเกินไป และก็เสียชื่อเสียงด้วย

ถ้าเจอเหตุการณ์คนถ่ายภาพคนอื่นในทางไม่ดีต่อหน้า จะเข้าไปห้ามไหม

         หากเกิดเหตุกาณ์แบบนี้จังๆ อยู่ตรงหน้าก็อาจจะบอกเขา ว่าจริงๆ แล้วไม่สามารถไปถ่ายภาพใครก็ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต มันมีกฎหมายอยู่ แต่ถ้ามันไม่ได้เห็นตรงหน้าก็คงไม่ได้เข้าไปยุ่ง เพราะว่ามันจะกลายเป็นประเด็นไปได้ ส่วนกฎหมายของเรื่องนี้ไม่ได้คิดว่ามันอ่อนไป เพราะว่าก็มีการบังคับใช้อยู่แล้วแต่ความเข้มข้นของกฎหมายอาจจะไม่ต้องแรง แต่เป็นเรื่องจิตสำนึกและการแจ้งเรื่องกฎหมายให้ทั่วถึง เหมือนเรื่องกฎหมายจราจรห้ามฝ่าไฟแดง ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เราควรผลักดันให้เป็นเรื่องของจิตสำนึกดีกว่าการเพิ่มบทลงโทษ

เส้นแบ่งระหว่างการติดตามเราแบบชื่นชอบกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวอยู่ตรงไหน
          มองว่าการที่เขามาชอบเรามันเป็นเรื่องที่ติดตาม เพราะว่าด้วยอาชีพนักแสดง หรือว่าดาราก็เป็นสาธารณะอยู่แล้ว เวลาที่เขามาขอถ่ายรูปเราเราก็พร้อมที่จะถ่ายรูปด้วย ถ้าเขากล้ามาขอเราก็โอเค แต่หากมีการโพสต์เชิงลบก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างเจ็บและละเมิดสิทธิของเราเหมือนกัน ส่วนเรื่องของเรา 3 คน เรื่องไหนที่ไม่โอเคที่สุดก็มีเรื่อยๆ ตั้งแต่แรกที่เริ่มเข้าวงการมา คิดว่าคนที่ทำงานตรงนี้ก็เจอ เราก็มองข้ามไปบ้าง ส่วนที่แย่ก็มีเรื่องครอบครัว นิสัยของเราที่เขาไม่ได้รู้จักเราด้วยซ้ำ และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าเราอ่านแล้วเราจะไปร้องไห้ น้อยใจ เราก็มีคิดว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักได้แต่พอโดนมากๆ ก็มีรู้สึกเหมือนกัน

คิดเห็นอย่างไรเมื่อศิลปินดาราผู้หญิงโดนบูลลี่เรื่องการแต่งกาย สรีระ หรือเรื่องการทำศัลยกรรม
          3 สาว แชร์มุมมองต่อเรื่องนี้ว่า คิดว่ามันเป็นสิทธิเสรีภาพของทุกคน ไม่ใช่แค่เรื่องของดารา เป็นผู้ชาย ผู้หญิงคนธรรมดา หรือคนที่มีหน้ามีตา ดาราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้กับตัวของเรา ไม่ว่าคนภายนอกจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ถ้ามันไม่ได้เดือดร้อนใคร อันนี้ก็รู้สึกว่าอยากพูดเผื่อไม่ใช่แค่มุมมองว่า “ดารา” แต่โซเชียลที่มีคนถูกเหยียดอยู่เรื่อยๆ บางครั้งเป็นเรื่องอาชีพ เป็นพริตตี้ เป็นอะไรก็แล้วแต่ก็มีเรื่องที่ถูกเหยียดได้ คนต้องเปิดใจกว้างจริงๆ ว่ามันก็ไม่ได้เดือดร้อนเรา แม้มันจะไม่ใช่รสนิยมของเรา อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็นด้วย เราก็ต้องเก็บความคิดเห็นไม่แสดงออกไปมากเกิน การแสดงความคิดเห็นควรเป็นไปเพื่อเป็นประโยชน์คือสิ่งที่สมควร แต่การแสดงความคิดเห็นในแง่ที่ไม่เป็นประโยชน์และมันบั่นทอนหรือทำลายจิตใจมนุษย์ก็ควรเก็บเอาไว้เป็นความคิดส่วนตัวของเราดีกว่า

คิดอย่างไรกับคนในโซเชียลที่เป็นร่างอวตารไม่เปิดเผยตัวตน
        เราคิดว่าน่าสงสารเขาที่เขาไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของเขาได้ เพื่อคอมเมนต์หรือแสดงความคิดเห็นที่รุนแรง คิดว่ามันก็น่าสงสาร เขาอาจจะอยากมีตัวตน แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนออกมาได้จริงๆ

คิดว่าสังคมไทยเปิดกว้างขึ้นจริงไหม เรื่องการเคารพสิทธิ หรือเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น
         เราคิดว่าสังคมไทยกำลังพัฒนาในเรื่องนี้ คนกำลังเริ่มเรียนรู้และซีเรียสเรื่องการที่คนบูลลี่กัน และช่วยกันเรื่องนี้ ก็ยังมีคนที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ถือว่าอยู่ในขั้นกำลังพัฒนาอยู่

ฮาวทูเล่นโซเชียลอย่างสตรองแบบ “เนย-แจม-พิกเล็ท”
           ไม่มีอะไรไปมากกว่าการพยายามที่จะไม่เห็นมันดีที่สุด ถ้าเราเห็นมันจริงๆ ก็มองข้ามไป ยังมีคนที่รักและเข้าใจเราอยู่ พยายามมองความรักและคนใกล้ตัวมากกว่า ไม่ต้องไปฟังคนที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะว่าเขาส่วนมากเป็นคนที่ไม่รู้จักเรา เราจะเอาคำวิจารณ์ของคนที่ไม่รู้จักเรามาเป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตได้ยังไง ให้ตัดมันออกไป

ฝากถึงเกรียนคีบอร์ด
           ใจเขาใจเรา ควรคิดถึงคนอื่นมากขึ้น เวลาคนรู้สึกแบบนี้จะเป็นยังไง หรือโดนเองจะเป็นอย่างไร จะทำยังไง ก็อยากให้เปิดใจให้กว้างขึ้น เพราะว่าเราทุกคนอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน ไม่ว่าเราจะเกลียด ไม่ชอบ หรือไม่ชอบบุคคลประเภทนี้ หน้าตา หรืออาชีพแบบนี้ แต่วันหนึ่งเขาอาจจะมาเป็นคนในครอบครัวหรือทำงานร่วมกับคุณ ทำใจให้กว้างเอาไว้ จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

อัปเดตผลงานของ 3 สาว
         ส่วนเรื่องผลงานของเรา 3 คนจะมีซิงเกิลใหม่ สิ้นเดือนนี้จะมีถ่ายมิวสิควิดีโอแล้ว เพลงนี้จะเป็นเพลงเร็ว เต้นมากๆ และจะมีเซอร์ไพรส์ เพราะว่ามีแขกรับเชิญพิเศษ แต่ขอยังไม่บอกว่าเป็นใคร เพราะว่าอยากให้เซอร์ไพรส์กัน เห็นแล้วต้องตกใจมากๆ แน่ๆ เราเตรียมการเพลงนี้กันมาค่อนข้างนานมาก เป็นโปรเจ็คท์ร่วมปีได้ ทิ้งระยะนานมาก ด้วยความที่เราทำกันเอง ด้วยความที่ต้องคิดโน่นนี่กัน โครงเนื้อเพลงเราก็คิดว่าอยากได้ประมาณไหน มีพี่ๆ ทีมงาน พี่เอ้ บรอดแคส และพี่เป้ วงมายด์ เขียนเนื้อ ดูให้ อยากให้ได้ฟังกันมากเลย เรื่องท่าเต้นก็มีทีมช่วยโคโรกราฟให้ แต่เราก็ซักซ้อมกันมีความเป็นพวกเราสูง เพลงนี้ออกมาทุกคนจะต้องชอบและเซอร์ไพรส์ มีทั้งความน่ารัก เซ็กซี่ และน่ารัก ครบรสมากๆ เราทั้ง 3 คนก็ค่อนข้างคาดหวัง เราก็ทุ่มเทตั้งใจ ใช้เวลาค่อนข้างนาน อยากให้ทุกคนชอบ น่าจะได้เห็นเพลงนี้ช่วงวาเลนไทน์