“กลัฟ คณาวุฒิ” เคลียร์แล้วหลังคนจับผิดยังไม่เลิกแฟน
มีประเด็นดราม่าหลังถูกจับผิดยังไม่เลิกราแฟนสาว สำหรับหนุ่ม “กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” หลังมีภาพถ่ายที่คล้ายกันออกมา ล่าสุดหนุ่ม “กลัฟ” ได้เปิดใจถึงประเด็นดราม่าดังกล่าวว่า
อ่านข่าวต่อ
ชาวเน็ตจับผิด “กลัฟ” เลิกแฟนจริงหรือเปล่า?
สำหรับประเด็นดังกล่าวเราได้เห็นรูปที่คนจับผิดแล้ว รูปที่เราถ่ายเราก็ถ่ายตอนนั้นเลย เราก็อยู่คอนโดฯ ของเรา ซึ่งเป็นคอนโดฯ ที่เรานอนกับเพื่อน แต่เราก็ไม่รู้ว่าคนเอาไปโยงกันยังไง กลายเป็นว่ากระจกดันไปเหมือน เราก็ยืนยันว่ามันไม่ใช่แน่นอน และไม่ขอแก้ตัวอะไร เพราะสถานที่ของเรามันก็คนละที่กันอยู่แล้ว
ยอมรับมีได้คุยกับทาง “ปุ้มปุ้ย” ด้วย เพราะที่แฟนคลับโพสต์มันก็อาจส่งผลต่อตัวเขาและงานเขาด้วย เลยต้องขอโทษที่แฟนคลับเราไปก้าวก่ายตรงส่วนนั้น เขาก็เข้าใจ เพราะมันก็ต่างคนต่างมุมมอง แล้วแต่คนจะคิด เพราะว่าเราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้
ยืนยันได้ว่าเราเลิกกันแล้ว เราลดความสัมพันธ์กันลงมาจริงๆ มันเหมือนกับว่าตอนแรกเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง เราเลิกกันด้วยความเข้าใจ ต่างคนก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานด้วย เรื่องงานก็มีส่วนที่ทำให้เราลดความสัมพันธ์กัน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนยังคุยกันอยู่แต่ไม่ได้เป็นแฟน
และการตอบคำถามส่วนใหญ่เราก็ตอบตามความจริงตลอด มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด เราก็ต้องเตรียมตัวรับมือในจุดนี้ด้วย เราไม่ได้มองว่าการทำแบบนี้จะเป็นการสกัดเรา อย่างที่เคยบอกว่ามันก็เป็นความคิดส่วนบุคคล มันก็เป็นยุคของโลกโซเชียลใครจะคิดเห็นอย่างไรเขาก็โพสต์ในพื้นที่ของเขา อีกส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณแฟนคลับมากๆ ที่เข้าไปช่วยแก้ข่าว
ส่วนเรื่องที่มีไอจีคู่ เรามีไอจีคู่กันจริงๆ เราสร้างมาตั้งแต่เราคบกับเขาตั้งแต่แรกๆ พอตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสตอนที่เราลดความสัมพันธ์กัน เราก็ไม่ได้สนใจในจุดนี้เท่าไร ไอจีเราก็ได้ปิดไปแล้วด้วย ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรแบบนี้อีกหรือโดนขุดขึ้นมาเราจะกลัวไหม เราไม่กลัว เพราะสิ่งที่เราทำไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้อยู่ดี ถ้าเกิดมีคนไปขุดมาเราก็ต้องยอมรับถ้ามันเป็นเรื่องจริง สิ่งที่เราพูดออกไปเราคิดเอาไว้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง และมันก็ไม่ส่งผลกระทบต่องานเรา แต่เราก็อยากให้เชื่อกัน
ส่วนเรื่องฝึกงานถามว่าวางตัวลำบากไหมเวลาฝึกงาน มีนิดหนึ่งมันอาจจะต้องวางตัวให้ดีกว่าคนปกติทั่วไป เพราะว่าเราเดินไปที่ไหนในองค์กรก็จะมีคนรู้จักเรา ได้ลองทำอะไรหลายอย่าง เราเป็นคนที่ชอบทำอะไรเกี่ยวกับกีฬาอยู่เเล้ว แล้วเราก็เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงเลยอยากลองทำอะไรที่มันบาลานซ์กัน อย่างเราเลือกที่จะทำข่าวกีฬา มันก็มีความยากเวลาเราออกไปหาข่าวก็จะมีของสำนักอื่นไปด้วย เราก็ต้องหามุมเพื่อได้ข่าวเพิ่มขึ้น ตอนนี้อยากมีโอกาสได้สัมภาษณ์โค้ชทีมชาติมากกว่า เพราะนักเตะเขายังไม่เปิดฤดูกาล เราก็มีการศึกษาข้อมูลในระดับหนึ่ง แต่ว่าเราเป็นคนที่อ่านข่าวกีฬาอยู่แล้ว เลยอาจจะไม่ต้องปรับเยอะเท่าไร และก็มีพี่เลี้ยงคอยแนะนำ