“แตงโม นิดา” อัปเดตอาการป่วยคุณพ่อ แจงหลัง “นิก” เจอหมายศาลเรียกปมคดี “พชร์”
ก่อนหน้านี้ทาง "คุณพ่อโส" ของนักแสดงอย่าง “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ป่วยจากการเป็นต่อมลูกหมากโต เลยไม่รู้ตอนนี้อาการจะเป็นอย่างไรบ้าง ล่าสุดเมื่อเจอเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมแจงหลัง “นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ” เจอหมายเรียกจากศาลปมคดีกับ “พชร์ อานนท์” ให้ฟังด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ
“แตงโม” พ้อเหนื่อยมาก กังวลคุณพ่อเสี่ยงมะเร็ง
ตอนนี้คุณพ่อก็ไม่สบายทรุดเลยก็ว่าได้ ตนรู้สึกห่วงมากจากที่เดินปกติได้ดีตอนนี้ก็เดินไม่ค่อยไหว จากน้ำหนักเยอะมากตอนนี้เหลือ 44 กิโลกรัมเท่านั้น ท่านป่วยเป็นต่อมลูกหมากโตแต่ยังไม่แน่ใจจะใช่มะเร็งจริงไหม รอผลตรวจอาทิตย์หน้า ก็เป็นได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ท่านก็วัยชราแล้ว ซึ่งก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน บอกกับตัวเองว่าถ้าเหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านไปได้แสดงว่าพระเจ้าคงมีจริง และเหตุการณ์ใดๆ จะรออยู่ข้างหน้า ทั้งนี้อาการคุณพ่อท่านก็จะนอนโทรมเบื่ออาหารไม่ทานอะไรเลย อีกอย่างท่านดื้อด้วยไม่อยากไปโรงพยาบาล ก็ต้องพยายามคุยเทคแคร์เพื่อให้สบายใจ กับสิ่งที่กังวลกลัวว่าท่านจะเป็นแบบระยะที่รักษายากแล้วก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ซึ่งช่วงนี้เหมือนเป็นช่วงเวลาที่วัดว่าตนลำบาก "นิก คุณาธิป" จะอยู่กับตนได้ไหม คือหลายครั้งที่ผ่านมาได้เจอปัญหาเยอะ เคยยอมจะเสียกันไป แต่เรื่องบางเรื่องมันพิสูจน์ว่าเรารักกันจริง เพราะฉะนั้นเลยขอกลับมาเป็นคู่คิดช่วยฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันดีกว่า
ส่วนเรื่องคดีของ “นิก คุณาธิป” กับ “พชร์ อานนท์” ที่ได้หมายศาลแล้ว ก็แล้วแต่ทางศาลเลยในรายละเอียดตนไม่รู้ ที่เป็นคดีอยู่ก็ต้องแยกก่อน เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดคือคดีหมิ่นประมาท ส่วนเรื่องค่าตัวก็อีกเรื่องหนึ่ง โดยหมายศาลยังไม่ทราบว่าได้รับหรือยัง เขาก็เครียดแต่ไม่ถึงขั้นจะทำอะไรไม่ได้ แค่มีกังวลใจว่าต้องมาแบกรับอะไรเยอะขณะที่เขาเองก็เสียเปรียบ จะฟ้องกลับไหมก็ต้องปรึกษากับ "ทนายตั้ม" ก่อน ก็ต้องลองถามเขาดูอีกที โดยการใช้ชีวิตของอีกฝ่ายก็ไม่ทราบจะยังไงคงต้องจัดการคดีก่อนแล้ววางแผนต่อไป ตอนนี้ทำอะไรก็ยากโดนบล็อกหมด ก็ต้องอดทนสู้ยิ้มกันไปก่อน ปล่อยทิ้งเวลาสักพักเดี๋ยวจะมีทางออกเอง และคิดว่าเงินไม่กี่บาท "พี่พชร์ อานนท์" ไม่อยากได้แค่ต้องการคำขอโทษจาก "นิก คุณาธิป" มากกว่า ซึ่งตนก็มองเป็นเรื่องส่วนบุคคลจะไปบังคับไม่ได้ ได้แต่คอยอยู่เคียงข้างไม่ว่าเขาจะคิดอะไรก็เคารพการตัดสินใจหมด โดยอีกฝ่ายถึงขั้นร้องไห้ก็ยังไม่เห็นจะมีแค่ซึมๆ ก็บอกให้เขาค่อยคิดพระเจ้าจะช่วยเองให้อธิษฐานเยอะๆ ทั้งนี้กับการจัดการของตัวเองก็ค่อยแก้ทีละเรื่องอย่าไปเครียด เพราะไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา ทำตัวเองให้สดใส อยู่กองถ่ายก็ตั้งใจทำงาน และเวลากลับไปบ้านอย่าหาเรื่องเครียดเข้าบ้าน พยายามคุยแบบสดใสเขาจะได้เฮฮากัน
