เปิดมุมมอง Fellow Fellow กับการแข่งขันเพลงในยุคดิจิทัล
อีกหนึ่วง ดูโอ ที่สร้างสรรค์เพลงเองอีกทั้งมีเพลงคุ้นติดหูอย่าง “ไม่สนิทอย่าทัก” ล่าสุดเขาก็ได้ปล่อยเพลงใหม่ พร้อมกับได้เปิดใจถึงการแข่งขันในวงการเพลงยุคใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น งานนี้พวกเขาได้เปิดใจถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนรวมไปถึงเป้าหมายความสำเร็จของวงจะไปในทิศทางไหนโดยทั้ง 2 หนุ่มได้เผยว่า
.jpg "Fellow Fellow นักร้อง ดนตรี แผ่นเสียง")
Q:ตั้งเป้าหมายความสำเร็จไว้ยังไงบ้าง
A:จริงๆ ผมว่าอันนี้ตัวชี้วัดของผมคือเวลาไปเล่นสดที่ไหนอะครับแล้วคนดูข้างล่างเขาเอ็นจอย ร้องตามเพลงที่เราทำได้ ผมถือว่าผมแฮปปี้วันนั้นแล้ว
แผ่น CD มีความหมายกับ FellowFellow มากน้อยแค่ไหน
ข้าว : จริงๆ สภาพตามตรงตัวผมเองก็ไม่ได้ซื้อ CD แล้วเหมือนกัน แต่ว่าถ้าวงไหนที่ชอบ โปรดมากๆ ที่เรารู้สึกว่ามันมีมูลค่าทางจิตใจ ก็ยังมีซื้อเก็บไว้บ้าง แต่ทุกวันนี้ก็หาซื้อยากเหมือนกัน บางวงดังๆ ยังต้องพรีออเดอร์เลยเนอะ ถ้าสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ผมมองในมุมมองของเด็กรุ่นใหม่ เขาแทบจะไม่ได้สนใจ CD กันแล้วในความคิดผม ทุกวันนี้เป็นสตรีมมิ่งหมด
ที: อันนี้ในมุมผม ผมแค่ รู้สึกว่าตอนนี้ CD หรือไวนิลที่ทำออกมามันเป็นแค่ collectable มันเหมือนของสะสมมากกว่า
ข้าว :ซื้อ CD มาแล้วก็เสียบฟังในรถอย่างเดียว เพราะที่บ้านเราก็ไม่มีเครื่องเล่นแล้วตอนนี้
ที: เพราะว่าตอนนี้แบบชีวิตมันย้ายมาอยู่แบบอุปกรณ์อีกประเภทหนึ่งแล้ว smartphone computer หรืออะไรอย่างงี้เราก็สามารถเข้าสู่เพลงพวกนั้นผ่านอุปกรณ์พวกนี้ได้เร็วกว่าที่จะแบบมานั่งวางเข็มลงบนแผ่นไวนิล ซึ่งผมเองก็เป็นคนเก็บแผ่นไวนิลเหมือนกัน ก็นั่งฟังไวนิล แต่ด้วยความสะดวกสบายของการแค่แบบกเคลิกเดียวแล้วมันได้ฟังเพลงเลย มันก็เร็วดี
ข้าว : จริงๆ แอบเสียดายแทนเด็กยุคใหม่ เพราะว่าอย่างตัวผมก็เกิดทันในยุคที่ CD มันมีคุณค่า เป็นยุคที่คนใช้เครื่องเล่น CD พกเครื่องเล่นมาโรงเรียนกัน
ที: ตอนนี้มันคือแบบมันปล่อยอัลบั้มปุ๊บมีขึ้นไปในสตรีมมิ่งมันก็สามารถฟังทุกเพลงได้เลย ไม่ชอบเพลงไหนก็กดข้ามได้เลยอีกต่างหาก พฤติกรรมคนมันค่อนข้างเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน
เสียงเพลงให้อะไรกับเราบ้าง?
ที: ผมว่าประสบการณ์ที่เจ๋งที่สุดคือการที่ได้ขึ้นไปอยู่บนเวที คือพอทุกคนร้องเพลงที่ผมทำกันเอง เป็นเพลงที่แบบอันนี้เรา Perform เองของเรานะ แล้วคนข้างล่างเอ็นจอย ร้องตามได้มันเป็นประสบการณ์ที่ซื้อไม่ได้ มีตังค์ขนาดไหนก็ไม่สามารถจ่ายตังค์แล้วให้คนมาดูเราอยู่บนเวทีแล้วร้องตามเพลงของเราได้อะครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่แบบประเมิณค่าไม่ได้สำหรับผม
ข้าว: ของตัวผมเพลงมันก็เหมือนหล่อหลอมอยู่ในชีวิตไปแล้ว ทุกวันนี้ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเราขับรถแล้วไม่ได้ฮัมเพลง แล้วไม่ได้กลับบ้านมาแต่งเพลง ถ้าเราขาดสิ่งพวกนี้ไป ชีวิตคงแบบว่างเปล่ามาก คือตอนนี้ชีวิตมันหล่อหลอมด้วยดนตรีไปแล้วมันคือความสุขของชีวิตเลย ตอบเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าถลำลึกกับมันไปไกลแล้ว
.jpg "Fellow Fellow นักร้อง ดนตรี แผ่นเสียง")
