“นนท์ ธนนท์” ปัดย่องศัลยกรรมอัพหล่อ ลั่นพร้อมร่วมโครงการ “เก็บรักษ์”
พัฒนาความหล่อแบบก้าวกระโดด แต่แค่ดูแลตัวเองเท่านั้นไม่ได้ย่องไปทำศัลยกรรมตามที่มีข่าวลือแต่อย่างใด สำหรับ “นนท์ ธนนท์ จำเริญ” ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยเรื่องนี้พร้อมบอกพร้อมร่วมโครงการ “เก็บรักษ์” หลังได้มีโอกาสไปทำ CSR เก็บขยะในแม่น้ำลำคลองด้วยว่า
อ่านข่าวต่อ :
"นนท์ ธนนท์" ปลื้มแฟนคลับเพิ่มขึ้น แย้มเพลงใหม่กระแสตอบรับดี
ก็โตขึ้นพอโดนถามบ่อยๆ ก็สงสัยมีความผิดปกติหรือเปล่า เพราะเปลี่ยนเยอะแต่พอย้อนไปดูตอนอายุ 16 ของพี่ๆ ศิลปินหลายคนก็ไม่ต่างกัน ทุกคนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี อยู่ที่มากหรือน้อยตนก็ไม่ได้มั่นใจว่ามากหรือแค่แย่น้อยลง เพราะดูแลตัวเองมากขึ้นไม่เปลี่ยนไปมากยังเหมือนเดิม ยันไม่ได้ทำอะไรมาเลยแค่ไปจัดฟัน และไปสแกนกะโหลกมาแล้วก็ไม่มีพลาสติกอยู่ และไม่ได้แอนตี้ ในอนาคตดูก่อน ตอนนี้แค่เข้าคลินิกดูแลเรื่องผิวพรรณจากแต่ก่อนไม่คิดว่าจะมารับงานพรีเซนเตอร์สกินแคร์ได้ ตอนนั้นแค่เดินแบบก็ว่าเจ๋งแล้วไม่คิดว่าจะทำได้ก้าวมาจุดนี้ได้ ก็คุ้มค่ากว่าที่คิดไว้ ก็ดูแลตัวเองมาเรื่อยๆ มีโดนคำครหามาก เวลาไปเวทีประกวดก็ใช้ความสามารถ ขอบคุณบทเรียนตรงนั้นที่ทำให้พัฒนาตัวเองมาไกลไม่คิดว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ได้ กับงานที่รุมก็ดีแล้ว ซึ่งงานจะมีทุกวันตั้งแต่ปีที่แล้ว ขอบคุณผู้จัดเจ้าของงานที่ให้โอกาสเรื่อยๆ ก็ทำเต็มที่ และขอบคุณแฟนคลับด้วยทำให้สนุกกับการทำงาน และไม่ได้ปิดกั้นว่าเดือนนี้ต้องหยุดหรือทำเท่าไร แค่รู้สึกว่าทำงานได้ ขอบคุณเจ้าของงานบางทีคิวไม่ได้เขาก็ขยับให้ได้ทำให้ประทับใจ โดยวิ่งมากสุด 5 งาน ก็ไม่มีใครทำ
เพราะถามหลายคนเขาบอกตอนนี้เลยลดเหลือ 3 งานมา 3 วันติด และดูแลตัวเองมากขึ้น มีคุณหมอใกล้ตัวและไปเช็กอัพบ่อยๆ เพราะการทำงานตรงนี้ใช้สุขภาพทุกอย่างทั้งเสียงและจิตใจ บางทีให้คนอื่นมากจะงง เพราะอยู่บนเวทีคนเดียวเลยต้องไปหาคุณหมอรีเช็ก หรือช่วงไหนที่พักก็ต้องพัก อย่างพรุ่งนี้ถึงวันที่ 24 กันยายน จะหยุดยาวในรอบหลายปี ก็ตื่นเต้นไม่รู้ทำอะไร ทั้งนี้ที่ต้องไปเช็กร่างกายตลอดมองว่าอาชีพตรงนี้ไม่ยั่งยืนทำให้คุ้มค่าที่สุด ตนก็เริ่มจากค่อยๆ ขึ้นไม่ได้หวือหวา เลยเห็นคุณค่าความสำคัญของแต่ละเวลา แต่จะไม่เอาสุขภาพมาแลก หลายคนอาจจะเห็นป่วยบ่อยแต่เทียบกับงานที่ทำเยอะแล้วถือว่าน้อย
ส่วนที่ไปทำ CSR เก็บขยะในแม่น้ำลำคลอง ก็เป็นงานที่น้อยคนจะทำ เวลาไปทำกิจกรรมหรือเล่นคอนเสิร์ตที่ติดแหล่งน้ำจะหงุดหงิด หลายคนมองว่าความเจริญของประเทศสะท้อนจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่สิ่งเดียวที่สะท้อนความเจริญ คือ การดูแลมากกว่า อย่างเช่น การทิ้งขยะให้เป็นที่ ไปญี่ปุ่นมาเห็นเขาแยกขยะดีมาก ทำไมเมืองไทยยังควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้เลย พยายามหาแรงช่วยเหลือในเมื่อไม่มีใครทำก็ทำเอง และชวนแฟนคลับมาทำด้วย ก็ได้รับผลที่เกินคาดแฟนคลับมาร่วมเยอะมาก ซึ่งที่ทำมีขยะหลากหลายมากที่ถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำ และพยายามทำคลองตรงพระราม 9 ให้สะอาดที่สุด ก็อยากแก้ที่ต้นเหตุ ขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งขยะผิดที่ผิดทาง บางทีหลอดบางอันใช้แค่ 20 นาที แต่ใช้เวลาย่อยเป็นหลายร้อยปี ก็ฝากไว้เผื่ออนาคตลูกหลานจะไม่อยู่ในอุณหภูมิโลกที่ร้อน ส่วนที่ถูกมองเดินตามรอย “พี่โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ก็ขอชื่นชมมาก อย่างตอนนั้นมีเป็นห่วงพี่เขาวิ่งเก็บขยะ ก็บอกถ้าพี่เขามีอะไรให้ช่วยก็บอก และไม่ใช่แค่ตนกับพี่เขาแต่มีศิลปินหลายคนอยากเห็นภาพลักษณ์ที่ดี อยากเดินบนถนนที่มันสะอาด ฉะนั้นก็ต้องเริ่มจากตัวเราก่อนขอแค่ไม่ทิ้งก็พอ
ซึ่งบางครั้งเวลาตนไปเล่นคอนเสิร์ตก็ไม่ได้จะไปลามปามอะไรเลย แต่บอกว่าตอนที่ลุกให้ช่วยเก็บขยะด้วย แม้จะพูดแล้วใจหาย แต่แค่รู้สึกว่าเวลาเล่นคอนเสิร์ตเป็นคนสุดท้ายแล้ว พอทุกคนลุกขึ้นขยะเยอะมาก ก็คิดว่าช่วยพูดได้ก็เลยทำ และคิดว่าคนดูน่าจะเข้าใจ โดยส่วนตัวไม่คิดที่จะทำเป็นโครงการอะไรขนาดนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วหากสุขภาพแข็งแรงก็อยากไปร่วมวิ่งกับ “พี่ตูน บอดี้สแลม” บ้างเหมือนกัน เพราะสามารถขับเคลื่อนได้จริงๆ แต่ตนไม่สามารถวิ่งอะไรได้มากขนาดนั้น ก็ช่วยในรูปแบบอื่นที่สามารถทำได้ เช่น ไปเก็บขยะ แต่ในอนาคตยังตอบไม่ได้ ตอนนี้หากมีโครงการไหนที่ชวนไปทำก็ยินดี
