ถึงบางอ้อ “ดีเจนุ้ย” ถือพรหมจรรย์เพื่อสิ่งนี้
เรียกว่าเป็นพิธีกรสายฮาที่มีงานรุมแน่นจริงๆ สำหรับ “ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร” ที่ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าตารางงานของเขานั้นแน่นสุดๆ แต่กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้บอกเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายสักเท่าไร ซึ่ง “ดีเจนุ้ย” ได้เปิดใจผ่านรายการทอล์คโชว์ถึงเส้นทางการทำงาน จากการทำงานเบื้องหลังสู่การเป็นดีเจ และระหว่างทางต้องเจอกับอะไรมากมาย พร้อมกับสิ่งหนึ่งที่หลายคนสงสัยถึงเรื่องที่เขานั้นถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิตเพราะอะไร
อ่านข่าวต่อ :
รวมลิสต์ “ดีเจนุ้ย” กับซุปตาร์แดนกิมจิ
เมื่อก่อนเราเคยมีแอนตี้แฟนคลับด้วย เพราะยุคนั้น แฉแต่เช้า ดังมาก แล้ว “พี่กฤษณ์” กับ “พี่มดดำ” ทำได้ดีมาก แล้วถ้าคนอื่นมาจัดแทนเขาจะรับไม่ได้ ก็จะ SMS มาถามว่ามานั่งในช่วงเวลานี้ได้ไง คือเราเป็นดีเจใหม่ โนเนม ไม่มีใครรู้จัก พอเข้าไปนั่งปุ๊บ 1 ปีเต็มๆ ไม่ใช่แค่ด่าผ่าน SMS นะ ก็คือด่าผ่านกระทู้พันทิป แบบเธอเป็นใคร หัวเราะน่ารำคาญมาก ตอนนั้นก็นอยด์ ท้อ แต่ก็ต้องทำ ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราให้พิสูจน์ตัวเองต่อ แล้วหลังจาก 1 ปีผ่านไปคนเดินเข้ามาขอบันทึกเสียงหัวเราะหน่อยได้ไหม หัวเราะให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม
หลายคนชอบเมาท์ว่าเราอยากเป็นดาราหนักมาก ถามว่าชอบงานในวงการบันเทิงไหม คือชอบงานในวงการ ตั้งแต่เด็กๆ มีความใฝ่ฝันที่จะเข้าวงการบันเทิง แต่พอส่องกระจกดูหน้าตัวเองก็ตกใจ ลำพังตัวเองยังตกใจแล้ว คนอื่นคงตกใจแน่ๆ เมื่อก่อนอยากเป็นนักร้อง มี “พี่โบ สุนิตา” เป็นไอดอล “พี่โบ” บอกเขาเป็นนักร้องเพราะความฝัน เราก็มีความฝัน เคยประกวดเดอะสตาร์ไม่ปี 1 ก็ปี 2 ที่คนยังไม่ต่อแถว คือเราเป็นคนมีความฝันแต่ไม่พยายาม ดึกไปก็กลับบ้าน เวที AF ก็เคยไป ตอนนั้นเป็นนักข่าวแล้วด้วย
เรื่องการถือพรหมจรรย์คือ ถือตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เป็นบททดสอบที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต หลายครั้งที่เราเดินผ่านกระจกก็รู้สึกว่าเราสวยนะ ดูดี แต่เป็นบททดสอบของชีวิต และเป็นบททดสอบที่เราเชื่อว่าเบื้องบนทดสอบเราให้อดทน เพื่อแลกกับความสำเร็จ ไม่รู้ว่าการถือพรหมจรรย์จะเป็นบุญหรือเปล่า แต่ว่ามันมีอะไรพิเศษๆ ไม่งั้นเขาจะเอาไปแห่กันเหรอ คือเขาต้องเลือกคนบริสุทธิ์ก่อนจะไปทำพิธี พูดไปก็เป็นปมของ “นุ้ย” ถ้าวันใดเราพลาดขึ้นมาก็เลยไม่อยากเชื่ออะไรมากมาย แต่ว่าเราสามารถหยุดฟ้าหยุดฝนได้ อีเว้นท์ไหนอยากไล่ฝน “นุ้ย” รับสตาร์ทที่ 3 แสนบาท งานรอดทั้งงาน แลกกับเงินแค่นี้ถือว่าคุ้ม
