เจาะลึกความพีค “คิว ธิติพันธ์” พิธีกรขวัญใจแฟนคลับเกาหลี
เชื่อได้ว่าแฟนคลับศิลปินเกาหลีหากพูดชื่อนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สำหรับ “คิว ธิติพันธ์ สุริยาวิชญ์” หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “ดีเจคิว คิ้วสาหร่าย” ที่เขาเคยผ่านงานการเป็นพิธีกรศิลปินเกาหลีมานับครั้งไม่ถ้วน วันนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่ม “คิว” ไม่พลาดถามถึงเคล็ดลับในการทำงาน พร้อมจุดเริ่มต้นของการทำหน้าที่พิธีกรเกาหลี โดยเขาเผยว่า
อ่านข่าวต่อ :
“ติ่งเกาหลี” ใครว่าไร้สาระ เปิดมุมมองแฟนคลับต่อความชอบใน K-POP
จุดเริ่มต้นของการทำพิธีกรเกาหลี เราเองได้เปิดเพลงเกาหลี มีโอกาสได้ไปทำงานอีเว้นท์ซึ่งศิลปินเกาหลีเป็นพรีเซนเตอร์ พอได้ทำก็ต้องขอบคุณทางผู้จัดฯ ทางแฟนคลับ ที่เลือกจะใช้เราต่อ เราก็มีโอกาสได้ทำมาเรื่อยๆ งานแรกเป็นงานแฟนมีตติ้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์หนึ่งของ “ซีวอน” โดยครั้งนั้นได้ขึ้นทำคู่กับ “พี่เจริญ แซ่จู” หลังจากนั้นก็มีโอกาสทำมาเรื่อยๆ เปิดตัวสินค้า แฟนมีตติ้งต่างๆ คอนเสิร์ตด้วย ซึ่งเรายังอยู่ในทรูมิวสิคด้วย มี SM true ทำให้ได้รับโอกาสมาเรื่อยๆ ต้องขอบคุณแฟนคลับในทุกๆ วงที่ต้อนรับอย่างดี
สำหรับความยากของการทำงานของศิลปินเกาหลี จะมองว่ายากก็ยาก ท้าทายก็ได้ ทำให้เราทำงานเป็นมืออาชีพมากขึ้น ด้วยความเป๊ะ ความละเอียด สคริปต์ เวที ทีมงาน ทำให้เราเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เรามองว่ามันท้าทาย เราต้องทำการบ้านเยอะขึ้นกับการทำงานกับศิลปินเกาหลี
ด้านเทคนิคพิเศษเรามองว่าพิธีกรแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเราจะเรียนรู้ ทำตัวเป็นแฟนคลับ เพื่อเข้าใจว่าเขาชอบอะไร เขาต้องการอะไร ศิลปินเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับอะไร เพื่อให้ทั้งแฟนคลับและเจ้าของแบรนด์ลงตัวที่สุด เพื่อให้ตอบโจทย์ที่สุด แฟนคลับเองชื่นชอบศิลปินอยู่แล้ว ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ทุกคนมีความสุข ศึกษาทำให้ทุกคนมีรอยยิ้ม เราเชื่อว่าการเจอศิลปินเกาหลีไม่ใช่เรื่องง่าย แฟนๆ ต้องคาดหวัง เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด โดยส่วนตัวไม่เคยเรียนภาษาเกาหลีเลย อาศัยถามจากทางล่ามที่ได้ร่วมงาน ครูพักลักจำ เราเองติดซีรีส์ ฟังเพลงเกาหลี แต่ไม่ถึงขั้นสื่อสารได้
ส่วนความพีคในการทำงานก็มีเหตุการณ์ที่ประทับใจสุดๆ คือ “คิมแจจุง” หนึ่งในสมาชิก TVXQ และ JYJ เขามาจัดแฟนมีตติ้งเดี่ยวที่ประเทศไทย คนมาเยอะมากๆ ในวันนั้น โปรเจ็คท์ที่แฟนๆ ทำให้เราอ่านตามและเราประทับใจ มันทำให้เราน้ำตาไหล เราแค่คิดว่ามีคนที่รักขนาดนี้ เราร้องไห้ ในขณะที่ “คิมแจจุง” หันมาแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขามายื่นให้เรา พร้อมบอกว่า “หยุดร้องไห้ก่อนนะ ทำงานก่อนนะ” เราก็หลุดขำออกมา ก็เอาผ้าเช็ดหน้านี้กลับบ้าน
กับอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ประทับใจมากๆ คือ ทำแฟนมีตติ้ง “คิมอูบิน” ตอนนั้นเขากำลังพีคมากๆ เล่นซีรีส์ดังมาก จัดแฟนมีตติ้งวันหนึ่ง 2 รอบ ทำให้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเขาทั้งวัน เมื่ออยู่บนเวทีต้องมีเล่นมุกแซวกัน เราจะชวนเขามาต่อยมวย และเขาได้ต่อยท้องเราบนเวที แล้วคิดดูว่า “คิมอูบิน” ซึ่งสูงมากมาต่อยเรา (หัวเราะ) หลังจากจบงานเขาก็มอบพัดให้กับเรา พร้อมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเขากลับมาที่ไทยอีกครั้งก็ยังจำเราได้อยู่ ทำให้เราประทับใจ
เรื่องวิธีทำให้ไม่ให้น่าเบื่อ เรามองว่าพิธีกรเองจะต้องเปิดใจกับคนที่เราจะสื่อสารด้วย ไม่ว่าจะศิลปินไทยหรือต่างชาติ ถ้าเขารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนมันจะสนุก ดีกว่าที่เขาต้องรู้สึกว่าเราต้องมาทำงานนะ ทั้งๆ ที่ในรูปแบบมันคืองาน สุดท้ายเชื่อว่าผู้จัดฯ หลายๆ ท่านการเลือกพิธีกรมีความสำคัญ ลงเงิน เพื่อที่ให้งานออกมาดีที่สุด ฝากความหวังไว้กับพิธีกร ก็ต้องขอบคุณทุกๆ ท่านที่เคยใช้บริการ และขอโอกาสให้ลองเปิดใจใช้ผมและจะได้รู้ว่าทำไมต้องใช้ผม (หัวเราะ)