เปิดใจ “คอปเตอร์ ภานุวัฒน์” เคยทิ้งฝันไปแล้ว ก่อนเป็น SBFIVE
เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งแร็ปของวง SBFIVE อย่างหนุ่ม “คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ เกิดทองทวี” ซึ่งวันนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาอย่างเจาะลึกกับเรื่องราวชีวิตในการทำงานเป็นศิลปินชื่อวง SBFIVE ไม่พลาดเก็บบทสัมภาษณ์สุดพิเศษมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน
จุดเริ่มต้นของการเป็น SBFIVE
ถ้าเอาความจริงๆ คือผมอยากเป็นนักร้องก่อน อยากเป็นศิลปิน นั่นคือความฝันแรกที่คอปเตอร์อยากเป็น แต่ว่าจับพลัดจับผลูสุดท้ายมาได้เล่นซีรีส์ก่อน มาทำงานแสดงก่อน แต่ด้วยความที่เราชอบนี่แหละ เพื่อนๆ 5 คนก็มีพรสวรรค์ทางด้านการร้อง มารวมกลุ่มร้องเพลงกัน เล่นกีตาร์ ทาง “พี่โอ๋” เห็นตรงนี้ก็ลองคิดว่าเราจะสามารถต่อยอดไปเป็นอะไรที่มากกว่านี้ เราก็จับฟอร์มมาเป็น SBFIVE ก็นี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเป็น SBFIVE
ความรู้สึกที่ได้ทำงานกับเพื่อนๆ
ก็ต้องยอมรับว่าแต่ละคนมีความเก่งที่ต่างกัน แม้แต่สายศิลปินเอง แต่ละคนก็เก่งคนละแบบมีสไตล์ที่ชัดเจนมาก จุดแรกที่เราต้องทำงานด้วยกัน คือ ทำยังไงให้วงของเรามันไปด้วยกันได้ในทางเดียวกัน แน่นอนว่า 5 คนไม่มีทางชอบเหมือนกัน แต่ว่าการทำงานคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับทัศนคติกันทุกวัน และการปรับตรงนี้แหละทำให้เราค่อยๆ สนิทกันเรื่อยๆ รู้จักกันมากขึ้น ท้ายที่สุดอาจจะยังพูดไม่ได้เต็มปากว่าเราชอบอะไรเหมือนกัน แต่เราเป็นกลุ่มที่รักกัน และมีอะไรก็แชร์ร่วมกันเสมอ
ปัญหาที่ทำให้ท้อ
ปัญหาที่ท้อที่สุดจริงๆ มันเริ่มก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็น SBFIVE หรือว่าได้เล่นซีรีส์แล้วด้วยซ้ำ คือปัญหาที่ทำให้ท้อที่สุดของผม คือ เหมือนเราดูถูกตัวเองว่าทางที่เรามามันไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนี้หรอก และเราก็ทิ้งความฝันไปพักหนึ่ง จนตอนนั้นมันคือจุดที่เราคิดว่าท้อที่สุดในชีวิตแล้ว แต่พอหลังจากนั้นได้ทำสำเร็จปุ๊บ ได้ทำสิ่งที่เราชอบ ได้เข้าใกล้มันขึ้นทุกวัน ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก็ไม่ได้ท้อ ทุกวันนี้มีความสุขมาก
ประทับใจใครที่สุดในวง
ประทับใจใครมันตอบยากมาก เพราะแต่ละคนมีความเก่งในแต่ละเรื่องที่แตกต่างกัน ในแต่ละเรื่องที่เราไม่ได้ถนัดก็ต้องพึงพาเพื่อนๆ บางทีในบางเรื่องต้องพึ่งพาพี่คิมม่อนในการตัดสินใจ ต้องพึ่งพาบาสในเรื่องสกิลการร้อง เราต้องพึ่งพาพี่เต้ในเรื่องเทคนิคบ้าง ต้องพึ่งพาพี่ตี๋ในเรื่องของการดูแลตัวเองบ้าง ทุกอย่างมันทำให้เราไม่ได้รู้สึกว่าประทับใจใครที่สุดในวง แต่เราจะรู้สึกว่าเราขาดใครไปไม่ได้มากกว่า
ได้อะไรจากการทำวงนี้บ้าง
อยากแรกเลย คือ การเรียนรู้การทำงานกับคนอื่น ที่มันใกล้ตัวมากๆ รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และที่สำคัญ คือ มิตรภาพที่มันเป็นกลุ่มเป็นก้อน เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วบอยแบนด์มันคือการทำงานร่วมกันเป็นผู้ชาย 5 คน ถ้ามันไม่ได้รักกันดี มันจะไม่สามารถส่งต่อความรักหรือความสุขไปถึงคนอื่นๆ ได้
เสียงเพลงให้อะไรกับตัวเราบ้าง
เสียงเพลงให้จิตวิญญาณ เสียงเพลงให้แรงบันดาลใจ เพราะว่าอย่างที่บอกเราอยากเป็นศิลปินมาก่อนที่จะเป็นนักแสดงด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเราอยู่กับเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ทุกคนก็อยู่กับเสียงเพลงตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเสียงเพลงเป็นหนึ่งสิ่ง เป็นแรงผลักดันทำให้เราอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปด้วยซ้ำ
อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ SBFIVE
อยากฝากว่าท้ายที่สุดแล้ว โอกาสเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีมาบ่อยๆ อยากให้ทุกคน ถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่มันก็ไม่ได้ไกลตัวเกินไปหรือไม่ได้ใกล้ตัวมากเกินไป ก็ลองดู ท้ายที่สุดมันจะสำเร็จไม่สำเร็จมันขึ้นอยู่กับมุมมองว่าคุณมองความสำเร็จไว้แบบไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วการลองอะไรกับที่เราก็ไม่รู้อนาคตจะสำเร็จหรือเปล่ามันก็ไม่มีอะไรจะเสีย