"นุ๊ก" เผยเข้าแจ้งความเอาผิดผู้เช่าทำบ้านพัง-ค้างค่าไฟ 5 หมื่นกว่าบาท
ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดผู้เช่าที่ทำบ้านหรูจนกลายสภาพเป็นพังเละโทรมแบบสุดๆ แถมงานนี้ยังได้ค้างจ่ายค่าไฟที่มีจำนวนเงินสูงถึงห้าหมื่นกว่าบาทอีกด้วย สำหรับ "นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา" ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยให้ฟังถึงเรื่องนี้ว่า
อ่านข่าวต่อ :
ทำไมถึงทำกับฉันได้ “นุ๊ก” เซ็งผู้เช่าบ้านทำเละทั้งหลัง
ก็ผู้ที่เช่ามาจากต่างประเทศแต่ก็ทำสัญญาเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย และไปแจ้งมีผู้อาศัยที่เป็นต่างด้าวที่ตม. ถูกต้องทุกอย่าง พอเขามาอยู่ขึ้นเดือนที่ 2 ปกติตนจะโหลดแอปค่าน้ำค่าไฟมาไว้ใช้ก็จะมีการอัพเดทตลอด พอเดือนที่สองค่าไฟขึ้นไป 5 หมื่นกว่าบาทเลยคิดว่าไม่ปกติแล้ว สงสัยว่าทำไมขึ้นไปสูงขนาดนั้นเขาทำกิจการอะไรหรือเปล่า เลยโทรไปหาเขาก็ให้เขาไปจ่าย แต่สักพักบอกว่าจะออกแล้วจะไม่จ่ายอะไรเลย เรื่องบิลค่าไฟจะไม่หนักเท่าที่เขาทำบ้านพังประตูบ้านเปิดไม่ได้ทั้งที่เป็นอัตโนมัติ บ้านที่ปล่อยเช่ามีบริเวณกว้างและมีสำนักงานที่ตั้งอยู่ด้วย พอเห็นก็พังตั้งแต่ประตูเข้าบ้านก็งงมากยิ่งพอเปิดเข้าไปมีนกฮูกบินออกมาเกือบเกาะไหล่ตนด้วยความใจดีคิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงเขาก็ค่อยเรียกเขา แต่พอไปเห็นในบ้านน่ากลัวมากตอนแรกไม่ได้สังเกตอะไรพอเห็นรู้สึกตกใจทรัพย์สินเสียหายและบ้านสกปรกมาก ก่อนหน้านี้ให้คนไทยเช่าก็สะอาดดี แต่ทำไมพอต่างชาติรู้สึกบ้านพังและรกได้ขนาดนี้ ซึ่งตอนที่ไปได้พาเพื่อนไปด้วยเขาก็ทักทำไมสายชาร์จแบตเตอรี่เยอะจังมีทุกมุมทุกบ้านเป็น 10 อันเลย เขาก็พูดว่าทำคอลเซ็นเตอร์หรือเปล่า ตนเลยได้ไปแจ้งความไว้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินสถานการณ์แบบนั้นเหมือนกัน ถ้าทำคอลเซ็นเตอร์เขาจะเปลี่ยนที่อยู่ตลอด แต่บ้านตนจะคอยเช็กเลยรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยรีบย้ายดีกว่า
ส่วนความเสียหายก็เยอะมาก บ้านเละทั้งหลัง ในครัวก็แตก เก้าอี้ทะลุประมาณ 4-5 ตัว และที่ตกใจเขาเอายากันยุงไปจุดในพรมดีที่ไม่ไฟไหม้ เพราะบ้านเป็นไม้ ตอนเขาจะเข้ามาก็บอกให้ระวัง แล้วบ้านเป็นไม้เก่า พอเปิดบ้านก็รีบแจ้งความ เพราะอยู่ในสัญญาเช่าและทำความสะอาดภายในสองวัน ด้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่ามิจฉาชีพเลยให้เบอร์ตำรวจท่องเที่ยวมาด้วย ซึ่งตอนแรกตนจะโพสต์พาสปอร์ตเขาแต่กลัวผิดกฎหมายเลยไม่กล้า กับแนวโน้มจับตัวได้ค่อนข้างยากปกติเขาจะใช้นักศึกษาที่ใกล้เรียนจบในการที่เป็นตัวแทนทำงานแบบนี้และให้มาเซ็นสัญญา แต่คนที่มาอยู่จริงไม่ใช่ก็ทำใจ แต่รู้สึกโกรธว่าเป็นต่างชาติมาทำแบบนี้ได้ไง นอกจากนี้ยังมีขับถ่ายไว้ให้ดูอีกด้วย รับต่อไปอาจจะเลือกดูให้ดีคนที่จะมาเช่า
ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ได้ตั้งใจจะขายอยู่แล้วอยากให้เป็นทรัพย์สินที่งอกเงยและเก็บไว้ให้ลูก สำหรับเรื่องที่ลูกได้เจอคุณพ่อเขาจริงๆ ก็อยากไปอยู่กับคุณพ่อก็ให้ไปเที่ยวได้แต่ไม่ค้างคืน เพราะตนเลี้ยงมาและเขาต้องทานยาประจำตัวทุกวัน ต้องดูแลเรื่องแปรงฟันล้างหน้าเป็นสิ่งที่ทำทุกวัน ถ้าไม่มีคนบอกเขาก็จะไม่ทำ หรือเรื่องการทานข้าวนอนดึกก็ต้องคอยบอกเขา ซึ่งคุณพ่อน้องก็มารับแค่ครั้งสองครั้งมองว่าอาจจะลำบากกับเขาแล้วแต่ไม่มีปัญหาเรื่องแย่งลูกกัน น้องเขาก็อยากไปเพราะคิดถึงเป็นธรรมดาเขาก็รักคุณพ่อเขา ซึ่งการที่เขาอยากไปตนต้องอธิบายแรกๆ จะไม่แฮปปี้เท่าไร เพราะพอไปอยู่แล้วคุณพ่อจะตามใจแต่อยู่กับตนจะอีกแบบ ก็ค่อยอธิบายให้ฟังตอนแรกจะต่อต้านบ้าง แต่พออธิบายว่าตนรักและเป็นห่วงเขาก็เข้าใจ
