ไม่ใช่เรื่องง่าย! “จิ๊บ” เผยหนทางพิสูจน์รักแท้ “บอส” ก่อนตัดสินใจแต่งงาน
เรียกว่าคบหาดูใจกันมาสักพัก ทำหลายคนต่างสงสัยว่าเมื่อไรจะแต่งงานกันสักที สำหรับคู่ของ "จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย" กับหนุ่มรุ่นน้องอย่าง "บอส พุทธิพงษ์ คล้ำจีนภานุวงศ์" ล่าสุดมีโอกาสเจอกับสาว “จิ๊บ” เลยต้องคว้าตัวมาอัพเดทกันสักหน่อย โดยเจ้าตัวเผยว่า
อ่านข่าวต่อ:
“จิ๊บ ปกฉัตร” โต้เตรียมจูงมือ “บอส พุทธิพงษ์” วิวาห์สายฟ้าแลบ
สำหรับความรักกับแฟนตอนนี้ดีค่ะ ถือว่าอยู่ตัวสบายๆ กัน คบกันมา 2 ปี แล้วไม่รวมเวลาที่คุยกันมา ก็ยังมีอะไรที่เราต้องปรับตัวเข้าหากันอีก จิ๊บว่าพี่บอสถือเป็นคนแรกเลยที่เวลาเราคบกันแล้วรู้สึกว่าเราสบาย เราเป็นตัวของตัวเอง เราจะทำอะไรก็ได้โดยที่เราไม่ต้องกั๊กกัน คือมีอะไรก็คุยกันแชร์กัน มันแฮปปี้ที่เรารู้สึกว่าทำอะไรตรงไปตรงมา แล้วทำให้เรารู้สึกว่านี่คือพื้นที่ปลอดภัยของเรา และเขาก็รู้ว่านี่คือพื้นที่ปลอดภัยของเขาเหมือนกัน ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปรับแล้วก็เรื่อยๆ
ส่วนเรื่องฝากไข่หรือจะแต่งนั้น ตอนแรกฝากไข่เรารับได้ ราคาอยู่ที่ประมาณครึ่งล้าน เราก็โอเคที่เราต้องจ่ายก่อนคนเดียว แต่เราเพิ่งรู้ว่าเมื่อไรที่เราฝากไข่แล้ว เราไม่สามารถเอาไข่ไปปฏิสนธิภายในเป็นธรรมชาติได้ คือมันต้องเกิดการทำข้างนอกก่อน ซึ่งตรงนี้มันมีค่าใช้จ่ายอีกเป็นหลักล้าน แล้วไม่การันตีว่าจะติดมั้ย พอมาดูค่าใช้ค่าคือมันก้อนใหญ่มากจนเรารู้สึกว่าเราสามารถซ้อบ้าน ซื้อรถ ซื้ออะไรหลายๆ อย่างได้ เราก็เลยตกใจกับค่าใช้จ่าย ก็เลยขอเวลาพิจารณาก่อน เพราะเราก็ไม่ชัวร์ว่าอนาคตจะแต่งงานกับคนนี้หรืออะไรยังไง ก็ต้องขอเวลาตัดสินใจอีกที แล้วเราจะแต่งเลยโดยใช้วิธีธรรมชาติมั้ย รายชื่อแขกเราก็พร้อม ฝั่งเราพร้อมมาก ตอนนี้เราก็ให้เวลาตัวเองถึงอายุ 35 ก็คืออีก 2 ปี
เรามีโอกาสได้คุยเรื่องแต่งงานกันบ้างแล้ว คุยกันตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน เราก็มีคู่มือการใช้งานชีวิคู่ให้กับเขา เพราะเราคิดว่าจะมีลูกได้แค่อายุ 35 จะไม่เกินนั้น แต่ถ้าเลย 35 จะไม่มีลูกนะ เพราะเราอยากให้ลูกที่เกิดมาเพอร์เฟค 100 % แต่ถ้าเลยก็ยังแต่งได้ ส่วนข่าวลือว่าเราจะแต่งเร็วๆ นี้ ใจเย็นๆ มีรายการ มีงานอีกเยอะเลย ไม่มีเซอร์ไพร์สเหมือนคู่อื่นแน่นอน เราไม่มีการปิดเงียบ เดี๋ยวหนูจะบอกทุกคน
ตอนนี้สิ่งที่กังวลคือเรื่องความพร้อมของผู้ชาย เพราะเขาก็ยังอายุน้อยอยู่ หลายอย่างก็ต้องรอเขาก่อน ก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไร เขาแค่ต้องเตรียมความพร้อมตัวเขา มันมีข้อกำหนดอยู่ๆ เพราะเราค่อนข้างแพลนชีวิตตัวเองเป๊ะ เพราะฉนั้นคนที่จะมาแชร์ชีวิตกับเราเขาก็จะต้องเป๊ะเหมือนกัน ไม่เกี่ยวว่าเรายังไม่มั่นใจอะไรในตัวเขา คือเขาอยากมีเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเขาด้วย ด้วยอายุที่ยังไม่ถึงเลข 3 เขาก็อยากที่จะลองทำอะไรบางอย่างในชีวิตเขาดูเหมือนกัน เขาก็มีการตั้งเป้าอยู่ว่าอยากจะสำเร็จถึงจุดนี้ในเรื่องงาน และจะไปเป็นเรื่องอื่นต่อ เขาบอกเป้าหมายเขา แต่เขาไม่ได้บอกเวลานั่นคือเป็นเรื่องที่พี่ๆ ควรจะช่วยหนู สิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ไม่ยากเลย แต่ต้องใช้เวลานิดนึง เขาก็บอกว่าเขาทำได้
