“แจ๊ส ชวนชื่น” เล่าเหตุการณ์คนร้ายฆ่าโหดคนในบ้าน ลั่นขอเอาผิดให้ถึงที่สุด

“แจ๊ส ชวนชื่น” เล่าเหตุการณ์คนร้ายฆ่าโหดคนในบ้าน ลั่นขอเอาผิดให้ถึงที่สุด

                 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ช็อกและขวัญเสียเป็นอย่างมากกับกรณีที่มีคนร้ายใช้ปืนยิง แต่กระสุนไม่ออ กเลยใช้กระถางต้นไม้ฟาดคนในบ้านของตลกชื่อดัง "แจ๊ส ชวนชื่น" หรือ ”ผดุง ทรงแสง” จนเสียชีวิตหลังทะเลาะกรณีขับรถชนแล้วหนีซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นคนที่อยู่บ้านติดกัน ล่าสุด “แจ๊ส ชวนชื่น” พร้อม "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" ก็ได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมเดินหน้าขอเอาผิดให้ถึงที่สุดด้วยว่า 

อ่านข่าวต่อ 

ช็อค ฆ่ากันหน้าบ้าน “แจ๊ส ชวนชื่น”

                 เมื่อวานตนเล่นคอนเสิร์ตแล้วนอนที่คอนโดกับลูก และทางภรรยาก็โทรมาว่าคนข้างบ้านทำร้ายคนในบ้านเสียชีวิต ซึ่งเขาเป็นคนในบริษัทของคุณแม่ภรรยา แต่ตนก็เจอบ่อยอยู่แล้ว พอรู้เรื่องก็รู้สึกสงสารเขา เพราะลูกเขายังเล็ก เลยอยากให้ทุกคนช่วยจับคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นไม้เบื่อไม้เมามานานแล้ว โดยกับข้างบ้านเขาจะทะเลาะกันบ่อย และทางหลานเขาก็เคยมาขโมยของบ้านแม่ยายตน บางทีเวลานั่งสังสรรค์กับเพื่อนอยู่เขาทะเลาะกันกับแฟนเขาก็ตะโกนมาด่าตนว่าหัวเราะอะไร ทั้งที่ตนไม่ได้ทำอะไร ก็เฉยกับเรื่องแบบนี้ ทะเลาะไปก็เปล่าประโยชน์เลยทนมาตลอดโดย บางทีเวลาน้ำไหลไปที่บ้านก็มาด่าคุณแม่ภรรยาจนมีเรื่องมีราวแต่ไม่ถึงทะเลาะรุนแรงเพราะบ้านตนก็ไม่ได้อะไรมากมาย มองว่าถ้าทะเลาะแบบนักเลงมันง่าย แต่ถ้าทะเลาะให้จบมันยาก

                 ยันกรณีที่เกิดขึ้นขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งความรู้สึกตนมันโหดร้ายมาก เพราะไม่ใช่แค่ทุบตี แต่ถึงกับเอากระถางต้นไม้ทุบหัวทุบแล้วทุบอีกและถึงแม้ตนจะไม่ได้สนิทกับผู้ตายมาก แต่ก็สงสารเขาที่ต้องมาตายโดยที่ไม่ได้เกี่ยวและไม่ได้ทะเลาะอะไรกันด้วยเลย

                 โดยรถคันที่เขาทุบจริงๆ ต้องมีลูกอยู่ด้วย ก็ใช่ส่วนตัวโกรธตรงนี้ด้วยแต่วันนั้นนึกอะไรไม่รู้เลยเอาลูกมานอนที่คอนโด และระหว่างที่ป้ากลับไปกับพี่เลี้ยงหลังจากส่งลูกแล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น แล้วเขาเห็นเหตุการณ์หมดทุกอย่างโดยทางคู่กรณีมาเคาะประตูให้ลงจากรถ เขาก็ไม่ลงเพราะกลัว เลยเอามือทุบกระจกข้างรถ และเอาขวดใส่น้ำมันที่เหมือนเตรียมไว้อยู่แล้วโยนมาที่รถแต่มันกระเด้งออกเขาก็ไปจุดใหม่อีกอันคล้ายๆ พวกระเบิดขวด ป้าตนก็กลัวเลยวิ่งออกมาเขาก็วิ่งตามเหมือนจะมาทำร้าย จนเขาขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ซึ่งคนแบบนี้ยังไงก็ต้องจับให้ได้ เพราะคนที่เขาทำร้ายจนตายมีลูกยังเล็ก และถ้าตายโดยที่ทะเลาะกันไม่เป็นไรแต่นี่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย

                 ภาพจากกล้องวงจรปิดก็โชคร้ายที่หนูกัดตรงหน้าบ้าน เลยต้องไปขอตรงกลางซอยบ้าน ตนก็ขอขอบคุณเขาด้วยที่ให้คลิปมา ถามว่าเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากการขับรถเฉี่ยวชนกันจนทะเลาะวิวาทกันหรือเปล่า "ทนายตั้ม" ก็เผยว่า เรื่องนี้มันเกิดจากที่มีการชนกันมาก่อน แต่คนที่เสียชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชนครั้งนี้ คนที่ก่อเหตุก็ขับกลับไปที่บ้าน เขาเลยขี่มอไซค์ตามเพื่อไปคุยว่าทำไมขับเฉี่ยวท้ายแล้วกลับไป เลยซึ่งทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจตอนแรกก็เอาปืนขึ้นมาแต่ยิงไม่ออกเลยเอาทั้งไม้ ทั้งขวด แล้วก็กระถางต้นไม้มาตีจนเละไปหมดเลย พอตีเสร็จทางญาติเขาก็ได้มีการเคลื่อนย้ายศพเอามาไว้หน้าบ้านของ "แจ๊ส ชวนชื่น" และพยายามจะเผารถ ด้วยระเบิดขวด ตรงนี้ก็ต้องให้ข้อมูลตำรวจเพื่อสอบสวนต่อไป

                 ยันผู้ตายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชนด้วย เขาแค่เข้าไปเคลียร์โดยที่ไม่ได้ทะเลาะอะไร โดยที่อีกฝ่ายได้มีการเคลื่อนย้ายศพแสดงว่าเขาตีคนเสียชีวิตที่หน้าบ้านเขาเลย เหตุเกิดจริงคือหน้าบ้านเข าเพราะล่าสุดตนก็ไปดูที่เกิดเหตุมาแล้วปรากฏว่าทางเขา 2-3 คนได้มีการลากศพเพื่อที่จะเอามาไว้ตรงข้างรถบริเวณหน้าบ้านของ "แจ๊ส ชวนชื่น" ส่วนข้อหาที่ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเบื้องต้นคือเจตนาฆ่านี่คงต้องโดนอยู่แล้ว และมีข้อหาเผารถทำให้เสียทรัพย์กับเรื่องการเคลื่อนย้ายศพ ถ้าเกิดว่ามันเป็นการปิดบังสาเหตุการตายทางตำรวจคงจะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อไปซึ่งเหตุการณ์นี้มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจนเพราะว่าเขาอยู่ใกล้กัน

                 ทั้งนี้ "แจ๊ส ชวนชื่น" ได้เผยต่อกรณีที่ในขณะเกิดเหตุพยานได้พยายามเข้าไปช่วยผู้ตายด้วยหรือเปล่า ก็มีไปช่วย แต่ช่วยไม่ได้ ซึ่งตนก็จำเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่มีป้าตนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเหมือนไม่มีใครเข้าไปยุ่งเลยพอเห็นอีกคือทาง 3 คนเขาเคลื่อนย้ายศพมาหน้าบ้านตนแล้วโดยอาวุธก็มี ไม้ กระถางต้นไม้ ปืนที่คาดเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ด้าน "ทนายตั้ม" พูดเสริมต่อว่า ที่เห็นไม่น่าจะใช่ปืนบีบีกันเพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเป็นปืนประดิษฐ์ก็ต้องโดนข้อหามีอาวุธปืนเถื่อนด้วย ตอนที่เขาก่อเหตุมีผู้ร่วมอยู่ด้วยตรงนั้นแต่เท่าที่สอบจากพยานมีคนที่ทำอยู่แค่คนเดียวแต่ถ้าคนอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็คงจะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีในภายหลังและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะตามคนร้ายได้เพราะไม่น่าจะยากเกินความสามารถตำรวจอยู่แล้ว 

                 "แจ๊ส ชวนชื่น" เผยอีกว่า ตอนนี้กลัวอย่างเดียวคือกลัวที่บ้านจะไม่ปลอดภัยเป็นห่วงลูกและคนในครอบครัวกลัวว่าจะเกิดอะไรมากไปกว่านี้มันจะอยู่ยาก ซึ่งตอนนี้ก็ยงมืดแปดด้านว่าจะหาทางป้องกันอะไรได้บ้างแต่ยังไงต้องจับคนร้ายให้ได้อย่างเดียว ซึ่ง "ทนายตั้ม" เผยอีกว่า จะคุยกับทางผู้กำกับอาจจะขอกำลังไปดูแลความปลอดภัยเพราะว่าที่บ้าน "แจ๊ส ชวนชื่น" ก็มีแต่เด็กและผู้หญิงทั้งนั้นและก็คนแก่ด้วยตอนนี้ถ้าเกิดยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ก็กลัวเรื่องความปลอดภัย ว่าเขาจะย้อนกลับมาทำอะไรคนในบ้านหรือเปล่า "แจ๊ส ชวนชื่น" เผยว่า ก็รู้สึกเป็นห่วงแม้จะรู้จักคนเยอะที่จะคอยช่วยเหลือได้ กลัวว่าคนจ้องทำร้ายกับคนระวังตัวมันไม่เหมือนกันตนก็เป็นห่วงทุกคนที่อยู่ในบ้านจะอันตรายเพราะทุกคนในบ้านรู้หมดว่าคนบ้านใกล้เขาค่อนข้างโมโหร้าย ใครก็เอาไม่อยู่ และตัวเขาใหญ่มาก คือให้ทุกคนเดาเองเหตุการณ์ที่เขาฆ่าคนอยู่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเลย

                 การที่มาออกสื่อในวันนี้กลัวจะโดนทำร้ายจากพรรคพวกคนร้ายไหมก็ไม่กลัว แต่แค่ตนต้องหาทางปกป้องคนในบ้านให้มากที่สุด และอยากให้จับตัวเขาให้ได้ยันไม่คิดย้ายบ้านหนีแน่นอนซึ่งคนที่ต้องย้ายก็คงต้องเป็นเขามากกว่า กับเรื่องที่มีการเสียงดังและมีปัญหากันก่อนหน้านี้เป็นเหตุจูงใจให้มีการทำร้ายกันถึงขั้นเสียชีวิตในครั้งนี้หรือเปล่าก็คงไม่เกี่ยว มองว่าเกิดเหตุการณ์บ่อยมากกับบ้านเขาที่เป็นมาถึง 10 ปีแล้ว จะรู้สึกชินไปแล้วแค่น้ำไหลไปบ้า

นเขาก็ด่าแม่ยายตนแบบสาดเสียเทเสีย แต่ทางบ้านตนก็ไม่ได้อะไรและมีเหตุการณ์ที่โดนก่อกวนอีกหลายอย่าง

                 สำหรับที่พิมพ์ว่า "สน.มีนบุรี เท" คือเป็นการพิมพ์ผิดจริงแล้วตนจะพิมพ์คำว่า "ที่" ด้วยความที่เพิ่งเสร็จจากการเล่นคอนเสิร์ตมาทำให้รีบพิมพ์ตื่นมาก็โดนภรรยาด่าว่าพิมพ์อะไรไม่ได้ดูเลยพิมพ์ผิดคำเดียวทำให้เข้าใจผิดและที่โพสต์ไปก็แค่วอนสื่อทุกคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ช่วยผู้ตายตนสงสารเขาเพราะเป็นคนบริสุทธิ์ที่ต้องมาตายลูกเขายังเล็กด้วยรับเท่าที่รู้คนร้ายน่าจะใช้สารเสพติดด้วย และทางบ้านของครอบครัวผู้ต้องวันแรกเขาก็มาแจ้งความเลยตนก็ไม่ได้คุยอะไรเขามาแจ้งความตั้งแต่คืนแรกและไม่รู้ว่าแจ้งอะไรไว้ซึ่งก็อยากรู้เหมือนกันพร้อมทิ้งท้ายผู้เสียชีวิตเป็นลูกน้องของแม่ยายที่อาศัยอยู่ในบ้านก็ใช่ คือเขาไม่ได้อาศัยอยู่แต่ว่าจะมาหาบ่อยมานั่งคุยเล่นกัน