“จ๊ะ อาร์สยาม” ลั่นดวงซวย! เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีสิทธิ์ขายต่อ
หลังจากได้ฤกษ์ออกบ้านใหม่หลังที่ 4 บอกเลยมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท สำหรับนักร้องชื่อดังอย่างสาว “นงผณี มหาดไทย” หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “จ๊ะ อาร์สยาม” ซึ่งล่าสุดก็ได้เกิดปัญหาในการซื้อขายบ้าน ที่เจ้าตัวนั้นเป็นเจ้าของโฉนด แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในการซื้อขายใดๆ ทั้งสิ้น งานนี้มีโอกาสได้เจอเจ้าตัวเลยขอเข้าไปถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นสักหน่อย โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า
อ่านข่าวต่อ :
อื้อหือ “จ๊ะ อาร์สยาม” กระเป๋าไม่หนักจริงทำไม่ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากที่ “จ๊ะ” จะต้องขายบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันนี้ หลังที่เป็นข่าว ซื้อมาตั้งแต่ปี 2558 แล้วเราจะขายก็ขายไม่ได้ เพราะธนาคารไม่ยอมอนุมัติเงินให้กับคนที่จะมาซื้อหนู เพราะว่าที่ดินมีปัญหาค่ะ มีคดี ก่อนหน้านี้เราไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ ทั้งหนูและลูกบ้านกว่า 1,156 หลังคาเรือนไม่เคยทราบ ตอนซื้อมาก็ไม่ได้มีการเช็กกับที่ดิน เพราะตอนเราหรือคนอื่นซื้อก็ซื้อดาวน์ เวลาเราซื้อดาวน์จะมีเซลส์ที่ดำเนินการอยู่แล้ว หนูซื้อดาวน์ตอนปี 2558 หนูโปะปี 2559 วันที่ได้โฉนดคือ 17 พ.ค. ก็ไม่มีการบอกอะไรจากกรมที่ดิน
บ้านในหมู่บ้านนั้นมีมูลค่าตั้งแต่ 2-7 ล้าน ของเรา 3 ล้านกว่า รวมตกแต่งก็ 5 ล้าน แล้วหลังนี้คือหลังปัจจุบันที่เราอยู่ เป็นหลังแรกที่เราซื้อในกรุงเทพฯ หลังนี้เลย ยังไม่ได้คุยกับทางโครงการเลยค่ะ ทางโครงการติดต่อมาทางผู้จัดการฯ แต่เรายังไม่ได้คุย เอาจริงหนูไม่เคยรู้เพราะว่าวันที่หนูรู้คือวันพฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพราะเพื่อนเป็นคนส่งเรื่องนี้มาให้ หนูอยู่ต่างจังหวัด พี่สาวติดต่อไปที่โครงการแต่ติดต่อไม่ได้ หนูรู้ว่าวันพฤหัสบดีมีป้ายมาติด ทุกวันนี้ยังติดอยู่
“ทนาย” ตอนนี้น้องได้รับผลกระทบ รวมถึงประชาชนลูกบ้านอีก 1,156 หลัง เวลานี้ยังเชื่อว่ากระบวนการทั้งหลาย ทางเจ้าของโครงการน่าจะมีการเจรจาและมีหนังสือแจ้งกับลูกบ้านทั้งหมด ว่ายินดีที่จะมาดูแลเรื่องความเสียหาย ยินดีเยียวยา ในขบวนการขั้นตอนกฎหมายทางน้องเองก็อย่างที่บอกว่าเป็นบ้านหลังแรกที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง เมื่อเกิดปัญหาทั้งหลายทั้งปวงก็มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของโครงการ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่มีหนังสือเตือนไปยังกรมที่ดิน ไม่ใช่อายัดนะ แต่เตือนเฉยๆ ว่าที่ดินแปลงนี้ถ้ามีทำธุรกรรมใดๆ อาจจะมีการถูกเพิกถอน เพราะฉะนั้นเมื่อน้องจะทำการขาย ผู้ซื้อเมื่อเห็นคำๆ นี้ หรือหนังสือที่มาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่สามารถซื้อขายได้ แล้วมันสอดรับกับธนาคารที่จะปล่อยให้คนที่มาซื้อที่ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นขบวนการต่อไปนี้คงเป็นเรื่องของการเจรจา ไกล่เกลี่ย น้องเองไม่ต้องการจะเป็นคดีความกับเจ้าของโครงการ ต้องการเจรจา ไกล่เกลี่ย ต้องการให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้รับการเยียวยา
ยังไม่มีการฟ้อง เป็นเรื่องเดิมระหว่างเจ้าของที่ดินแปลงเดิม ในฐานะลูกหนี้ที่โดนเจ้าหนี้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจากศาล เป็นคดีความเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านั้น แต่ในขบวนการขั้นตอนเขาน่าจะมาชอบด้วยกฎหมาย เพียงแต่มันมีช่องกฎหมายบางช่องเท่านั้นเองที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา
“จ๊ะ” ตอนแรกรู้สึกไม่เชื่อเลยค่ะ เพราะตอนที่หนูได้รับป้ายที่มาติดประกาศ หนูไม่เชื่อ ชื่อเป็นชื่อหนูแล้วอะ หนูเลยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่พอน้องที่จะซื้อบ้านหนูโทรมาบอกว่า ธนาคารไม่อนุมัติเพราะที่ดินมีปัญหา อันนี้คือเริ่มเชื่อแล้ว แต่ยังไม่เต็มร้อย มาเต็มร้อยตอนที่อยู่กรมที่ดิน หนูไปเสียเงินคัดเลยว่าที่หนูมีปัญหาไหม สรุปที่หนูมีปัญหาจริงๆ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกว่าขาดความเชื่อมั่นค่ะ เหตุผลที่หนูซื้อโครงการนี้เพราะเป็นโครงการใหญ่ หนูจึงรู้สึกเสียความรู้สึกกับโครงการนี้ ทำไมต้องเป็นขนาดนี้ หนูมาซื้อบ้านปี 2558 แต่เรื่องคุณมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คุณน่าจะบอกเราก่อนว่าที่ตรงนี้มีคดีอยู่นะ
“ทนาย” เรียกว่าเป็นการถูกหลอก ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ ไม่ถึงกับว่าถูกหลอก เป็นเพียงความเข้าใจที่เราไม่ได้รับข้อมูลจากเจ้าของโครงการ ซึ่งเป็น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร จริงๆ แล้วควรจะแจ้งให้กับประชาชนได้รับรู้และรับทราบ เราในฐานะประชาชนทั่วๆ ไป ไม่มีใครรู้หรอกครับเวลาซื้อบ้านว่าที่ดินตรงนี้มีคดีอะไรไหม เพียงแต่คนที่เป็นเจ้าของโครงการเขาควรจะแจ้ง หรือแถลงให้เราทราบว่าคดีนี้อยู่ระหว่างอะไร ชั้นไหน อย่างไร
“จ๊ะ” ความต้องการของหนูเลยนะคะมีอยู่อย่างเดียว คือหนูอยากขายบ้านได้ เพราะหนูจะเอาเงินที่ขายบ้านหลังทุกวันนี้เพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ อันนี้คือความต้องการของหนูเลยค่ะ หนูไม่เคยได้คุยกับเพื่อนบ้านเลย เพราะหนูไม่เคยได้เข้ากลุ่มไลน์ หนูจะคุยกับทนายและนำหลักฐานมาให้ทนายโดยตรงเลยค่ะ
“ทนาย” คือต้องเรียนแบบนี้ครับ ขั้นตอนอยู่ที่เจ้าหน้าที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งท่านก็ดำเนินกระบวนการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ผมเข้าใจท่านครับ เพราะหากท่านไม่ดำเนินการท่านก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้ท่านกำลังดำเนินการ ซึ่งท่านก็จะต้องมาชี้แจง ผมก็ฝากไปถึงท่านว่า ณ เวลานี้ ประชาชน 1,156 ครัวเรือนมีปัญหา เมื่อท่านดำเนินการไปแล้ว แล้วท่านไปร้องขอเพิกถอน สิทธิ์ของประชาชน 1,156 ราย รวมถึง “คุณจ๊ะ” ด้วย เราก็คงต้องคัดค้านในส่วนนี้ คงต้องเข้าไปสู่ในขบวนการของกฎหมายว่าขั้นตอนขอเพิกถอนนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงเรื่องของอายุความ เรื่องต่างๆ ตรงนั้นมันเป็นเรื่องของกระบวนการที่เราต้องเข้าไปต่อสู้เพื่อป้องกันสิทธิ์ของเรา ในฐานะที่น้องเป็นบุคคลธรรมดา เป็นบุคคลภายนอกที่มีเจตนาสุจริตตั้งแต่ตอนแรก ซื้อที่ดินมาโดยมีค่าตอบแทน สิ่งเหล่านี้กฎหมายคุ้มครอง ก็อยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นะครับ ให้ดำเนินการไปโดยมองประชาชนเป็นตัวตั้ง
“ทนาย” ทางเราพร้อมอยู่แล้วที่จะเจรจากับเจ้าของโครงการ “จ๊ะ” มีความเสียหาย แล้วเขาไปติดต่อซื้อบ้านหลังใหม่พร้อมที่จะเอาเงินไปวางมัดจำ แต่ปรากฏว่าต้องผิดสัญญากับเขา ประเด็นที่ 2 เมื่อมีการซื้อขายไปที่กรมที่ดินแล้วโอนไม่ได้ โชคดีที่เป็นน้องที่ “จ๊ะ” รู้จัก ถ้าเป็นคนอื่นมีการวางเงินมัดจำแล้วเราคงจะต้องโดนฟ้องอีก เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ที่มันเกิดขึ้น เผอิญเจ้าของโครงการเองมีการตอบรับ แจ้งมาทาง “จ๊ะ” แล้วว่าท่านยินดีที่จะช่วยเหลือเยียวยาในส่วนที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตรงนี้เราต้องคุยกับทางโครงการว่ามีแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร
“จ๊ะ” กลัวมากค่ะ เพราะเวลาทุกอย่างที่ “จ๊ะ” ทำมันฟิกซ์ไว้หมดแล้ว “จ๊ะ” ต้องมัดจำบ้านหลังใหม่เดือน ก.ย. “จ๊ะ” ต้องจ่าย 7 ล้าน ตอนนี้ “จ๊ะ” มีเงินอยู่บางส่วน และอีกส่วนคือเงินที่คาดว่าจะได้จากการขายบ้านหลังนี้ ซึ่งมันเป็นเงินที่แน่นอนเพราะน้องคนที่ซื้อต่อจ๊ะเขากู้แค่ล้านกว่าบ้าน เพราะเขามีเงินสดอยู่แล้ว 2 ล้านบาท ไม่มีระยะเวลาให้เขาเลยค่ะ แต่มีระยะเวลาให้ตัวเอง คือต้องไปดาวน์บ้านหลังใหม่ ก.ย. นี้ ถ้าหนูไม่ดาวน์หนูผิดคำพูดเลย แล้วถ้า “จ๊ะ” ลดเงินดาวน์ก็อาจจะกู้ไม่ผ่าน เพราะ “จ๊ะ” เป็นศิลปิน ไม่มีสเตทเมนต์เลยต้องใช้เงินดาวน์เยอะถึงจะผ่าน ก็จะเป็นปัญหาของ “จ๊ะ” และบ้านหลังใหม่ตอนนี้ก็กังวลทั้งเรื่องบ้านหลังเก่าและหลังใหม่ด้วย ตอนนี้ก็รอเจรจาก่อน ส่วนน้องที่ซื้อบ้านต่อจาก “จ๊ะ” เขาก็ไม่อุ่นใจเลย เขาถามว่าพี่ถ้าหนูไม่ซื้อพี่จะโกรธไหม หนูเลยกังวล เพราะถ้าน้องไม่ซื้อก็ไม่มีใครซื้อหนูแล้ว แล้วจะทำยังไง หนูอาจจะไม่ได้บ้านหลังใหม่เลยเพราะไม่มีเงินไปดาวน์ถึง 7 ล้าน ถ้าหนูมีเงินไปดาวน์แค่ 4 ล้านก็อาจจะไม่ผ่าน นี่ก็เป็นปัญหาของหนูอีก
“จ๊ะ” เรื่องเกิดวันพฤหัสบดี “จ๊ะ” รับเรื่องแต่ยังไม่เชื่อ มาเชื่อเมื่อวานนี้เพราะไปกรมที่ดิน บ้านหลังใหม่ยังไม่ตรวจสอบ เดี๋ยวต้องกลับไปตรวจสอบ
“ทนาย” ลูกบ้านเขาได้รับความเดือดร้อน สิ่งที่อยากร้องขอ ทุกอย่างมันพูดคุยไกล่เกลี่ยเจรจาได้ มันเคลียร์ได้ มันมีทางออกหมด ขึ้นอยู่กับว่าท่านให้ความสนใจมากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเอง
“จ๊ะ” ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ต่อไปจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ต้องใส่ใจมากขึ้น การที่ “จ๊ะ” โพสต์ไปไม่ได้มีเจตนาจะว่าหรือใส่ร้ายโครงการเลย เพราะที่โพสต์ไปเป็นกรณีศึกษาให้กับคนอื่นด้วย เพราะคนที่ซื้อบ้าน “จ๊ะ” มั่นใจว่าไม่ค่อยมีใครที่จะไปเช็กหรอกว่าเซลส์ทำธนาคารผ่านแล้วกรมที่ดินผ่าน จนมาเป็นโฉนดชื่อของเรา เราก็อุ่นใจแล้ว เพราะโฉนดมันเป็นชื่อเราแล้ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ การซื้อบ้านต้องตรวจสอบเยอะ และส่งไปหลายสำนักงาน มีหลายคนส่งข้อความมาหา “จ๊ะ” ว่าจะต้องตรวจยังไง ต้องทำจดหมายไปที่กรมที่ดิน และที่ศาลล้มละลายกลางว่าที่ดินผืนนี้มีคดีอะไรหรือเปล่า
“ทนาย” ตรงส่วนนี้ก็คงจะยุ่งยากนิดนึง ต้องให้ข้อมูลกับประชาชนว่าในการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือการซื้อที่ดินต่อไปนี้ จริงๆ แล้วมันก็ไม่ควรจะทำหรอกนะครับ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหมือน “จ๊ะ” อีก ก็คงจะทำหนังสือสอบถามไปยังกรมที่ดินก่อนอันดับแรก ถ้าที่ดินแปลงนี้มันมีปัญหาจะถูกอายัด เจ้าพนักงานเขาจะไม่โอนจะไม่ขายให้ เรื่องที่ 2 คงต้องไปที่ศาลล้มละลายกลางว่าที่ดินแปลงนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือไม่ ก็คงมีสองหน่วยราชการที่เราน่าจะป้องกันตัวเราเองได้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือซื้อบ้านที่ดินเหล่านี้ ก็คงเป็นการให้คำแนะนำพื้นฐานทั่วไป
“จ๊ะ” ซวยมากเลยค่ะ อย่างที่โพสต์เลย “จ๊ะ” เป็นคนแจ็คพ็อต ทั้งดวงดีและไม่ดี เรื่องนี้มันเป็นความซวยของ “จ๊ะ” แต่ “จ๊ะ” ก็คิดไปในทางกลับกัน ถือว่าเป็นบทเรียน โดยส่วนตัวของ “จ๊ะ” เป็นคนหละหลวมอยู่แล้ว เวลาซื้อบ้านไม่เคยเก็บ ท.ด.13 ท.ด.15 “จ๊ะ” เอาแค่โฉนดที่เป็นชื่อของ “จ๊ะ” แล้วเก็บแค่โฉนดอย่างเดียว พอเกิดเรื่องมันต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยนะคะ ท.ด.13 กับ ท.ด.15 หรือว่าสัญญาซื้อขายเก็บไว้ทั้งหมดเพราะว่ามันไม่แน่นอน เลยทำให้เรามีบทเรียนกับบ้านหลังใหม่ บ้านหลังใหม่บอกเลยว่าต้องเข้มงวดนิดนึงกับเรื่องหลักฐานหลายๆ อย่าง เรื่องนี้ถ้ามองเป็นความซวยก็ซวย แต่ถ้ามองเป็นความโชคดีก็อาจจะทำให้เราเป็นคนรอบคอบขึ้น รอบข้างมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยอะเลยค่ะ ตั้งแต่เมื่อวานก็คุยโทรศัพท์ตลอด มีหลายคนจะมาช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้เราเยอะมากค่ะ
“จ๊ะ” ก็วอนเจ้าของโครงการนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดือดร้อนของหนูจริงๆ เพราะหนูอยากขายบ้าน แล้วหนูจะไปซื้อบ้านใหม่ “จ๊ะ” อยากให้เข้ามาช่วยเหลือทั้ง “จ๊ะ” และลูกบ้านทั้งหมด คือ “จ๊ะ” พูดกับลูกบ้านว่าถ้ารอดก็รอดทั้งหมดนี่แหละ ถ้าไม่รอดก็ไม่รอดทั้งหมด เพราะฉะนั้น “จ๊ะ” ก็อยากอ้อนวอนโครงการ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วย เพราะว่ามีคนที่ลำบากมากกว่าหนู วันที่ประชุมมีทั้งคนที่ร้องไห้ มันเป็นเงินก้อนแรกและสุดท้ายของเขากับบ้านหลังนี้ “จ๊ะ” อยากให้ผู้ใหญ่ทุกฝ่ายทุกท่านเลยเข้ามาช่วยดูแลค่ะ