​​​​​​​เปิดความรู้สึก "ฝ้าย สุภาพร" หลังรับตำแหน่ง ผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์

เปิดความรู้สึก "ฝ้าย สุภาพร" หลังรับตำแหน่ง ผู้จัดการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์

               เป็นนางงามรุ่นพี่ของเวทีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ที่ได้มารับตำแหน่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองประกวด ทำให้อยากทราบความรู้สึกจะเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับ "ฝ้าย สุภาพร มะลิซ้อน" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยว่า

อ่านข่าวต่อ

"ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" นำทีม 77 มิสแกรนด์ เดินทางเข้ากองประกวดวันแรก!

               ก็ตื่นเต้นและภูมิใจมาก ไม่คิดว่าจะได้มาจุดนี้ เป็นคนที่ต้องคัดเลือกสาวงามไปพร้อมกับ "พี่ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ก็ต้องทำการบ้านหนักมาก ต้องดูนางงาม 77 คน เป็นอะไรที่เยอะและต้องดูดีๆ ต้องดูทัศนคติของน้องเขาว่าพร้อมใช้หรือพร้อมที่จะทำงานไหม ขำๆ การเป็นนางงามยังไม่หนักเท่าที่ได้เป็นผู้จัดการกองประกวด แต่ขอบคุณ "พี่ณวัฒน์" ที่ไว้ใจ รับไม่ถึงกับกดดันแต่จะลำบากใจในการเลือก เพราะน้องทุกคนก็สวยและมีความสามารถเยอะ มีความมุ่งมั่นตั้งใจตั้งแต่วันแรกที่เข้ากองเลย รู้สึกว่าเข้าใจ "พี่ณวัฒน์" เวลาตัดใครออกจะเป็นยังไง

               การที่เป็นนางงามรุ่นพี่จากเวทีนี้ประสบการณ์ก็ถือว่าช่วยได้เยอะ รู้ว่าโจทย์ของมิสแกรนด์เป็นยังไง ต้องไปทิศทางไหน โดยน้องๆ แต่ละคนสวยเยอะมาก ยากที่จะคัดใครออก แต่ที่สำคัญเราได้อยู่กับเขาทุกวันในการเก็บตัว ทำให้เห็นอะไรหลายอย่าง อาจจะเป็นการง่าย ซึ่งตอนนี้ทุกคนมีร้อยคะแนนเต็ม อยู่ที่ใครจะเก็บไว้ได้จนถึงวันที่ตัดสินหรือเปล่า และปีนี้ก็เข้มข้นขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่วันแรกที่เข้ากอง ทุกคนคิดว่าเป็นการแข่งขัน โดยเกณฑ์การตัดสินที่มาตรฐานก็มีอยู่แล้ว สบายใจว่าคัดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเส้นแน่นอน อยู่ที่ความสามารถของน้องๆ เราอยากฝากให้ทุกคนตั้งใจทำให้เต็มที่ เป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว มีอะไรถามได้ ไม่ต้องเกร็งว่าจะดุหรือเปล่า อันไหนที่ไม่เข้าใจอยากจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงก็ถามได้เลย

               ส่วนความคืบหน้าของคดีจ่ายส่วนแบ่งรางวัลในการประกวดตอนนี้ก็อยู่ในชั้นศาล ยังไม่จบ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป และมีนัดอีก เดี๋ยวจะไกล่เกลี่ย แต่ไม่รู้ผลสรุปจะเป็นยังไง ที่ผ่านมาเราไม่รู้เพราะไม่ได้หมายศาล แต่พอรู้ก็ทำเต็มที่ ซึ่งมองว่ายืดเยื้อเพราะยังไม่ได้คุยกันจริงจัง กับอีกฝ่ายก็อยากให้จบในทางที่ดี ยันบริสุทธิ์ใจ เขาก็อยากได้ในสิ่งที่ต้องการ เราก็ไม่ได้กั๊กอะไรไว้ แต่มันอยู่ที่ระยะเวลาและความไม่เข้าใจกันมากกว่า เดี๋ยวทางศาลจะมีนัดและต้องไปคุย แต่อีกฝ่ายไม่ติดต่อกลับมาเลยไม่รู้จะคุยยังไง เราก็ไปตามศาลนัดเรื่องยอดเงินที่อีกฝ่ายเรียกมา ไม่กังวล อย่าง gift voucher ก็แบ่งไม่ได้อยู่แล้ว เป็นชื่อของคนที่ได้รางวัล และเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้ จะเปลี่ยนชื่อคนใช้ก็ทำไม่ได้ ถ้าเขาจะเอาก็ปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาส่วนแบ่งเราก็แบ่งให้อยู่แล้ว ไม่ได้โกงแต่อย่างใด

               สำหรับทาง "พี่ณวัฒน์" ก็เป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างตลอด อะไรที่ถูกผิดก็ว่ากันไป แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่มีใครผิดใครถูก แค่เกิดจากความเข้าใจผิดมากกว่า เลยต้องมีการเคลียร์กันแบบนี้ ก็อยากจบให้ต่างคนต่างไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องมาปวดหัว ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบกับงานของเรา รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป และอยากพูดแต่พูดไม่ได้มาก หวั่นจะกระทบชั้นศาลและส่งผลไม่ดีต่อรูปคดี ย้ำชัดหลังจากนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของทางศาล