“หงส์ เดอะเฟซฯ” โชว์ฝีมือชิมลางหนังผีครั้งแรกใน “บางกอกสยอง”
โดดมารับรับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก สำหรับนางแบบสาวหุ่นดี “หงส์ หยก ศิริมาตย์” หรือ “หงส์ เดอะเฟซไทยแลนด์” กับภาพยนตร์ผีสุดหลอน “บางกองสยอง” ในตอน “โรงผี 5” จากค่ายซันเดย์ สทิล เวิร์คกิ้ง และ คอมเมทีฟ โปรดักชั่น วันนี้ “ดาราเดลี่” มีโอกาสได้เจอเธอเลยไม่พลาดที่จะเข้าไปอัพเดทพูดคุยกับเธอสักหน่อย ซึ่งเธอเผยให้ฟังถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตว่า
อ่านข่าวต่อ :
ย้อนดูประวัติ “หงส์” หรือ “ผีอีแก้ว” ใน “วังนางโหง”
“สำหรับผลงานตอนนี้ก็มี “นางมาร” ของทางช่อง GMM 25 แล้วที่ถ่ายทำอยู่ก็คือ “ยอดรักนักรบ” ของทางช่อง 7 และที่ขาดไม่ได้เลยคือผลงานภาพยนตร์ เรื่อง “บางกอกสยอง” เห็นว่าจะถูกโฉลกกับผลงานหลอนๆ ก็จริงๆต้องถามทางผู้กำกับ แต่ก็จริงนะเราชอบเจออะไรแบบนี้มากๆ คือเขาเห็นหน้าเราแล้วเขาหลอนหรอ จะได้มีกำลังใจในทำงานหรอ (หัวเราะ) แต่ถ้าเล่นเป็นบทหลอนๆแบบจริงจังเราไม่เคยเล่นขนาดนั้น แต่ถ้าแสดงเป็นผีก็มีเอฟเฟกต์อยู่แล้ว แต่จะอยู่ในขอบเขตของภาพยนตร์แนวนี้มากกว่า
มารับเล่นภาพยนตร์ครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง ก็ตื่นเต้นและดีใจมากๆ ส่วนตัวเราเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว พอมีโอกาสได้มาเล่นเองเอาจริงๆนะปลื้มปริ่มมากดีใจบอกไม่ถูกเลย แล้วอีกอย่างผู้กำกับเขาก็เลือกด้วย ไม่ได้ไปแคสด้วยก็เลยรู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีก คาแร็กเตอร์ในภาพยนตร์ “บางกอกสอยง” มี 3 พาร์ทด้วยกัน แต่ละเรื่องจะได้เกี่ยวข้องกันเลย พาร์ทแรกจะเป็น “ออฟฟิศหวีดสยอง” เรื่องที่สองคือ “โรงผี 5” แล้วก็เรื่องที่สาม “บ้านผีเหี้ยน” ในตอนของเรา ก็รับบทเป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร์ เคร่งขรึมๆ นิ่งๆ พูดน้อย มีบุคคลิกชัดเจน ถามว่ายากไหมก็ตื่นเต้นนะเราต้องยู่กับตัวเอง อีกส่วนหนึ่งก็คือเป็นความโชคดีที่ก่อนแสดงผู้กำกับก็เรียกไปทำเวิร์คช็อป แสดงให้เขาดูหหลายแบบ เขาก็จะบอกว่าชอบเราแบบไหน เราก็ได้คีพตรงนั้นไว้แล้วเอาไปฝึกก่อนมาถ่ายทำจริง
ประสบการณ์หลอนในชีวิตจริง ไม่มีเลย แล้วก็ไม่อยากมีด้วย ก็แอบคิดว่าตัวเองโชคดีเหมือนกันที่ไม่มีตรงนี้ แต่ส่วนตัวไม่ใช่ว่าไม่เชื่อนะ เชื่อว่าทุกอย่างมีจริงทั้งสิ่งที่เรามองเห็นและไมเห็น สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “บางกอกสยอง” จะพูดถึงสถานที่ในกรุงเทพมหานครล่าว่าที่ในกรุงเทพนั้นมีที่มา หรือตำนานมีความสยอง ความน่ากลัว ใน 3 มุมมอง แฟนเพลงก็เตรียมตัวรับชมความสนุก ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์ 3 แนว อย่างแนวแรกก็เป็นแนวไล่ล่า เรื่องที่สองก็แนวอินดี้หน่อยๆ แนวที่สามก็จะแนวตลก คอเมดี้นิดหน่อย เพราะฉะนั้นแฟนๆก็จะได้รับชมหลากหลายแนวอยู่แล้ว
มาเป็นนักแสดงเต็มตัวแล้ว มีไอดอลไหม จริงชอบดูภาพยนตร์ไอดอลทางการแสดงก็น่าจะเป็นนักแสดงต่างประเทศซะเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ในช่วงที่เป็นกระแส “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์”มากๆ ซึ่งทุกคนน่าจะชอบกัน
วิธีรับมือกับกระแสด้านลบที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ตั้งแต่อยู่ในเฟสแล้วก็เป็นครั้งแรกที่เราก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ก็จะมีช่วงนึงที่มีคนมารุมด่าเยอะมากก ตอนนั้นรู้สึกเลยว่ายังทำใจไม่ได้เหมือนกันนะ จากที่เราอยู่ในสังคมเล็กๆ พอมาวันนึงเรากลับถูกใครไม่รู้มาด่า ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ก็ได้กำลังใจจากคุณแม่ แต่พอผ่านจุดนั้นมาได้มันทำให้เรารู้สึกเราต้องแข็งแกร่งขึ้น เราควรจะแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนควรฟัง สิ่งไหนไม่ควรฟัง
สิ่งที่ได้จากการอยู่ในวงการบันเทิง คือให้กับเราเยอะมากๆ จากที่เราเป็นแค่เด็กนักศึกษาคนนึง ที่ใช้ชีวิตเรียนๆทุกวัน พอเข้ามาในวงการบันเทิงก็ได้เจอผู้คนมากมาย เจอคนใหม่ๆทุกๆวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในรูปแบบไหน มันสอนให้เรารู้จักการเข้าสังคมอย่างนึงที่ดีมาก
เรื่องหัวใจตอนนี้ก็เรื่อยๆไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้เราก็จะอายุ 25 ปี แล้ว รู้สึกว่าเป็นช่วงที่เราต้องโฟกัสในเรื่องของการทำงาน ในอนคตมากกว่า สเปคของเราเมื่อก่อนชอบหหนุ่มตี๋ แต่พอโตขึ้นมา เราชอบคนที่เสนห์อย่างนึงที่มีคือความฉลาด เรื่องหน้าตา และบุคคลิกภายนอกมันเป็นเรื่องที่มันแตกต่าง แต่ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน สิ่งที่โดดเด่นขึ้นมาเขาจะมีบุคคลิกเป็นของตัวเอง
สุดท้ายฝากผลงานก็ 23 พฤษภาคม “บางกอกสยอง” ในทุกๆโรงภาพยนตร์ยังไงก็ขอแฟนๆติดตามกันด้วย ภาพยนตร์ไทยดี มีหลายรสชาติให้ได้ติดตามชมกัน ฝากด้วยนะคะ
