“โอ๊ต” เผยสถานะหัวใจโสด ลั่นอยากมีแฟน-มีลูก แพลนสร้างบ้านที่หัวหิน
เรียกได้ว่าตั้งแต่เป็นโสด นักร้องหนุ่ม “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” ก็ดูจะทุ่มเททำงานอย่างหนักให้กับตัวเอง เพราะตั้งใจเอาไว้ว่าอนาคตจะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งช่วงนี้ก็เริ่มเก็บเงินสร้างบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่รู้ว่าโสดมานานขนาดนี้จะมีเหงาบ้างหรือเปล่า งานนี้มีโอกาสได้เจอกับเจ้าตัวเลยเข้าไปถามกันสักหน่อย
อ่านข่าวต่อ :
ช็อก! “โอ๊ต ปราโมทย์” เลิกแฟนสาวที่คบมากว่า 11 ปีแล้ว
สำหรับช่วงนี้งานยุ่งเหมือนเดิม ไม่มีวันว่างเลย จริงๆ ไม่มีวันว่างมาจะ 2 ปีแล้ว คือเป็นคนบ้างานครับ อยากทำงานเยอะๆ เพราะว่าภาระเยอะครับ ตอนนี้ลูกน้องเยอะด้วย เวลาเราจะพักเราก็จะนึกถึงภาระไว้ครับ เราจะได้รู้สึกว่าอยากทำงาน แล้วก็ไปซื้อบ้านริมทะเลที่ชะอำไว้หลังหนึ่งด้วย อยากจะสร้างให้เสร็จ ก็อยากจะไปอยู่ริมทะเลบ้าง ไปอยู่เชียงใหม่บ้าง ชอบภูเขา ชอบทะเล บ้านริมทะเลนี่สร้างใหม่เลย พอดีรุ่นพี่ที่เขาทำเขาชวนไปอยู่ด้วยครับ แล้วหาดมันค่อนข้างจะไพรเวทมาก เราอยากอยู่เงียบๆ ผมเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวาย ราคาไม่แพงมากครับ ยังสู้ไหว คิดไว้ว่าถ้าพอกับงานวงการจะไปอยู่ต่างจังหวัดเลย อยากพักผ่อน อยากเที่ยวครับ จริงๆ วางแผนไว้ว่าอีกสัก 4-5 ปีก็คงจะเริ่มรีไทร์ตัวเอง ให้ลูกน้องดูแลบริษัท คืออาจจะปล่อยตัวเองไปเป็นครีเอเตอร์มากขึ้น เป็นคนทำคอนเทนต์มากขึ้น ไม่ได้มาออกหน้าเองแล้ว
ส่วนตัวรู้สึกเบื่อแล้ว ผมว่ามันเป็นอนิจจังครับ มันไม่มีทางที่คนหนึ่งจะมีชื่อเสียงจีรังยั่งยืนไป 10-20 ปี เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมองอนาคต คือเด็กรุ่นใหม่เกิดขึ้นทุกวันครับ ฉะนั้นเราก็จะต้องเตรียมตัว ตอนนี้เรายังเหนื่อย เรายังกอบโกยได้ก็กอบโกยให้เต็มที่ วันที่ชื่อเสียงเราลดลงไปแล้วเราก็ถอยให้เด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาบ้าง จากที่เป็นคนรับอย่างเดียวก็กลายเป็นคนให้บ้าง มีเข้าวัดบ่อยขึ้น ไปถ่ายรายการแล้วเขาห้ามพูดคำหยาบในวัดไง อึดอัดมากครับ พูดคำหยาบ 1 คำต้องนั่งสมาธิ 1 นาที โอ้โห โดนไปเกือบชั่วโมง แต่ก็ดี ผมเป็นคนชอบเข้าวัดเข้าวา ได้เอามาใช้ในชีวิต ลดการพูดคำหยาบ เวลาผมอยู่กับแม่ กับครอบครัว ผมไม่พูดคำหยาบเลยนะเพราะแม่ดุมาก จะพูดเฉพาะเวลาทำรายการหรือว่าอยู่กับเพื่อนมากกว่า นั่งสมาธิบ่อยไหม จริงๆ ก็ไม่บ่อยหรอก เราเป็นคนอ้วน นั่งปวดเข่ามาก ไม่ควรจะไปนั่งแบบนั้นนานๆ ปวดร้าวไปหมด โชคดีว่าเราบวชเณรแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าการนั่งสมาธิหรือการเข้าวัดเป็นเรื่องปกติสำหรับเราอยู่แล้วครับ
ด้านสถานะหัวใจตอนนี้ว่างมากเลยครับ หาแฟนให้หน่อยสิครับ มีแต่คนกลัว “โอ๊ต ปราโมท” กันหมดแล้ว ไม่รู้จะจีบใครด้วย คนก็ไม่กล้าคุยกับผม แล้วที่สำคัญคือทำงานทุกวันเลย ฉะนั้นก็เลยไม่มีเวลาไปให้คนอื่นด้วย เรื่องภาพลักษณ์ก็ด้วย เพราะภาพลักษณ์เราก็ไม่ได้ดีอยู่แล้ว คนที่จะเข้ามาเขาก็ต้องเข้าใจในความเป็นเราด้วย ผมก็ชัดเจน ทุกคนเห็นภาพตัวผมอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องยอมรับ สิ่งที่ทำได้ก็คือเราก็ต้องรอคนที่เขาเข้าใจจริงๆ อยากมีแฟน อยากมีลูกด้วย อยากมีครอบครัว ไม่งั้นสิ่งที่เราทำมาทุกวันนี้เราจะทำไปให้ใคร ได้ไปจีบใครบ้างไหม คือด้วยรูปร่าง หน้าตา เรามันเป็น loser อยู่แล้ว อ้วน เตี้ย ตัวล่ำ ตัวตัน อยู่แล้ว แต่รวยนะ ก็ไม่หรอก ถ้ารวยต้องเลิกทำงาน คนที่ยังไม่รวยคือคนทำงาน ตอนนี้โสดสนิท ยังไม่มีใครเลย อยากมีเหมือนกัน แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ มันเป็นอาฟเตอร์ช็อก พอมาอยู่คนเดียวจริงๆ แล้วพอมันเหนื่อยมากๆ ก็อยากจะระบายบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร ผมก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย
ตอนนี้หาคนที่ใช่น่าจะยาก ผมกล้าพูดเลยว่ายาก เพราะทุกคนก็คงมองเราเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนกะล่อน ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่คนมอง แล้วก็รอแค่วันหนึ่งคนที่เข้าใจจริงๆ ว่าเราเป็นแบบนี้ เขารับในสิ่งที่เราเป็นได้จริงๆ แต่ผมเป็นคนที่ถ้ารักใครผมก็รักจริงนะ ถ้าไม่รักจริงไม่อยู่มาเป็น 10 ปีหรอก แต่พอมันมีเหตุการณ์ก็ต้องปล่อยมันไป สิ่งที่ทำได้ก็คือทำงาน ตอนนี้ผมก็เลยบ้างาน มีงานเท่าไรผมก็รับได้หมด และพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์เอาไว้ ซื้อบ้าน ซื้อที่ ซื้อนาฬิกา ซื้ออะไรที่เราชอบ ตอนนี้เราโสดเราก็ใช้ชีวิตตัวเองให้เต็มที่ ซื้อสิ่งที่เราอยากได้ให้เต็มที่ เพราะในวันหนึ่งที่เรามีแฟนหรือมีคู่ครองแล้วเราก็จะได้พอ
