“พิ้งค์กี้” ลั่นอยากจีบเด็ก รับโสดแล้วงานรุม ปัดดังจนเรียกค่าตัวสูงขึ้น
หายหน้าจากงานการแสดงภาพยนตร์ไปนาน สำหรับนางเอกสาว “พิ้งค์กี้ สาวิกา ไชยเดช” ล่าสุดเรียกว่าเป็นการกลับมารับงานภาพยนตร์แนวตลกคอมเมดี้กับผู้จัดฯ ชื่อดังอย่าง “พชร์ อานนท์” กับเรื่อง “สงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์” ทางทีมงาน “ดาราเดลี่” มีโอกาสได้เจอเจ้าตัวเลยขออัพเดทกันสักหน่อยว่าช่วงนี้โสดแล้วงานรุมอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า
อ่านข่าวต่อ :
ฟังชัดๆ "พิ้งกี้" หัวใจปิดตาย ย้ำอยู่กับแม่มีความสุขแล้ว
เป็นการตัดสินใจมาเล่นหนังตลกคอมเมดี้ที่แบบว่าไม่คิดเยอะเลย ตัดสินใจด้วยการที่เราดูละครที่เราเล่นมา ตอนนี้แต่ละเรื่องที่เล่น 3-4 เรื่อง จะเป็นแนวดราม่า ลึกลับ ไปในทิศทางที่ไม่มีคอมเมดี้เลย พอมีโอกาสที่ “พี่พชร์ อานนท์” ติดต่อมา พอบอกว่าเล่นกับน้าค่อม ชวนชื่น, พี่บอล เชิญยิ้ม, พี่นุ้ย เชิญยิ้ม, พี่ตั๊ก บริบูรณ์ เราเล่นเลย โดยมี “พี่โรเบิร์ต สายควัน” เป็นพระเอก มันเป็นอะไรแปลกใหม่มาก คิดว่าจริงๆ แล้วเราสายนี้มาตลอด แต่คนอาจจะลืม ตั้งแต่เล่นหนังมา หลวงพี่เท่ง เล่นกับพี่เท่ง เถิดเทิง นะ พอมาเล่นกับพี่หม่ำ จ๊กมก ใน ทาสรักอสูร มันก็ต่อเนื่องเป็นสายตลกมาตลอด เรื่องนี้มันเป็นช่วงสงกรานต์ด้วย เราอยากเต้น มีเพลงที่สนุก ไม่เครียด เอ็มวีออกช่วงสงกรานต์ มี “แซ็ค ชุมแพ” ร้อง จะได้มีเพลงเต้นในช่วงสงกรานต์
มารับงานสายฮา กลัวภาพลักษณ์นางเอกหายไหม จริงๆ แล้วนางเอกเดี๋ยวนี้มันมีหลากหลาย เราก็โตแล้ว รุ่นใหญ่แล้ว บางทีเราก็ต้องลดตัวให้เด็กบ้าง บทไหนที่ทำให้เราเด็กได้เราก็ต้องเด็กด้วย กลัวว่าสายสวยจะไม่รุ่งเลยมาสายฮาดีกว่า บางทีสวยไปก็น่าเบื่อ บางทีอะไรจำเจก็น่าเบื่อ แฟนๆ จำหน้าไม่ได้เพราะเราใส่วิก หน้าเหมือนพิ้งค์กี้มาก ทุกคนไม่เชื่อว่าเป็นเรา เห็นเราเต้นได้ เต้นแล้วรู้สึกดึงความเป็นเด็กขึ้นมา ปกติเราไม่ค่อยได้เต้นแบบนี้
สิ่งที่ยากคือการเล่นกับพี่ๆ ตลกชั้นนำทุกคนเลย เวลาเราไปอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คิดว่าใครที่เล่นตลกมันเป็นเรื่องยากมาก เพราะว่าการเล่นตลกมันเป็นเหมือนศาสตร์อย่างหนึ่ง ต้องหัวไว คิดคำพูด บางทีพูดไม่เหมือนสคริปต์ คิดเอาสดๆ เลย เรารับมุกพี่ๆ ตลกยากอยู่เหมือนกัน เวลาเรามองเราดูเพลิน แต่เวลาเราเล่นก็ต้องดึงสติเพราะจะหลุดขำ มันมีหลายอย่าง เอาเป็นว่าเรื่องนี้รวมพลคนตลกแล้วกัน อย่างบทที่เข้ามาจะเน้นไปทางฮา น้อยมากเลยนะคะที่จะได้เล่นแบบนี้ มาทีก็ไม่ได้บ่อยขนาดนี้ ส่วนใหญ่เขาจะให้เล่นหนักๆ ล่าสุดก็เล่นเป็นฝาแฝด หนักมาก แล้วเรื่อง “ภูติพิศวาส” ก็หนัก ทุกอย่างหนักหมดเลย
หลายคนมองว่าเรารับเล่นเรื่องนี้เพราะค่าตัวสูงขึ้น จริงๆ ค่าตัวมีมาตรฐานอยู่แล้ว ปกติไม่มากไปกว่านี้ แต่ถ้ากับคนสนิท คุยกันได้ เรื่องนี้พี่พชร์ทุ่มค่าตัวให้เต็มที่เลยไหม เอาเป็นว่าเป็นคนไม่เห็นแก่เงิน ไม่ว่าจะยังไง เราบอกว่า เอาที่พี่พชร์อยากให้แล้วกัน เรื่องเงินเรื่องนี้ไม่ได้พีค เล่นด้วยใจ และด้วยความสนุกจริงๆ ไม่ได้แบบเรียกเท่าไหร่ดี ไม่กล้า ไม่ได้เป็นคนหน้าเงิน จริงๆ เรื่องนี้มีนักแสดงเยอะ เราก็เป็นแค่ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง รุ่นใหญ่อย่างน้าค่อมเขาจะเป็นตัวพ่อในวงการตลก เราก็เป็นเหมือนมาสร้างสีสัน เป็นน้ำจิ้มให้เขาแล้วกัน เพราะเราอาจจะไม่ได้เป็นคนตลกขนาดนั้น เรียกว่าแนะนำตัวแล้วกัน มาเปิดทางให้ด้วยนะ เผื่อตลกได้ ขำกันด้วยแล้วกัน
สำหรับเรื่องความรัก ช่วงนี้ก็ว่าจะมองหาน้องๆ แถวนี้ หรือว่า “น้องยอร์ช ยงศิลป์” แต่ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจเราหรือเปล่า อยากจะจีบเขาอยู่เหมือนกัน เขาบอกว่ากินเด็กถึงจะดี ที่ทำงานหนักเพราะอยากให้ลืมรักครั้งเก่าหรือเปล่า จริงๆ เราอยากจะเป็นเหมือน “พี่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” มาก นั่นคือแนวทางเราแหละแบบนั้น คือไม่รู้จะพูดยังไง ถ้าเราไม่เจอที่ใช่ก็อยู่อย่างนี้ แต่บางทีก็ไปจับน้องยอร์ช น่ารัก เหมือนเราโตแล้ว กอดน้อง ไม่มีใครว่าไง จะเปลี่ยนแนวมาชอบเด็กแล้ว เด็กเยอะไง เราเพิ่งรู้ว่าแก่กว่าน้องเยอะมาก สิบกว่าปี เวลากอดก็เหมือนเอ็นดูน้อง ยอร์ชก็ดูรังเกียจเราเหลือเกิน ไม่อยากเข้าใกล้ แต่เราก็กอดน้องเล่นไง แต่ช่วงนี้เราไม่เหงาเลย สุขตามอัตภาพของเราแล้วกัน สุขตามที่เราจะสามารถทำได้ทุกวัน ไม่มีหนุ่มๆ เข้ามาจีบเลย ไม่มีเลยจริงๆ วัยนี้แล้ว ถ้ามีก็คงจะแฮปปี้ อยากจะมีเหมือนกัน ช่วงนี้ก็ได้แต่ด้อมๆ มองๆ ไป มีใครให้มองก็มอง ซึ่งได้แต่มองนะ น้องๆ เด็กสมัยใหม่เขาน่ารัก คิดจะเป็นแบบคู่รักต่างวัยเหมือนคู่อื่นไหม เราขอมองอย่างเดียว ทำไมเดี๋ยวนี้เด็กเขาหน้าใส ดูไปเรื่อยๆ ดีกว่า เพราะน้องเขาน่ารักด้วย
