“ชิน” แจงเหตุหวนรับงานภาพยนตร์ หลังหายไปนาน 5 ปี

“ชิน” แจงเหตุหวนรับงานภาพยนตร์ หลังหายไปนาน 5 ปี

     ห่างหายจากงานแสดงภาพยนตร์ไป 5 ปีแต่กลับมารับอีกครั้งถึง 2 เรื่องรวดเลยทีเดียว ทำให้อยากรู้เพราะเหตุอะไร สำหรับ “ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน” ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเผยเรื่องนี้ให้ฟังว่า

     ที่เล่นมาก่อนหน้านี้คือเรื่อง “ทองสุก 13” แล้วก็กลับมาเรื่องนี้ และมีอีกเรื่องที่ถ่ายไปแล้วหลังจากที่ปลดทหารเมื่อปี 2018 ก็เลยอยากกลับมาทำทุกอย่าง ทั้งงานเพลง ภาพยนตร์ และละคร เรื่อง “พี่นาค” ก็มีติดต่อมาก่อนวันถ่ายแค่ไม่นาน พอได้อ่านบทก็ตอบตกลง เพราะตัวละครมีความน่าสนใจ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้โชว์อีกมุม เรื่องนี้ไม่ได้เป็นผีที่น่ากลัว และเชื่อว่าเราแสดงออกมาได้เต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้ ตอนถ่ายทำสนุกดี และเหนื่อยมาก เอฟเฟคท์ก็เต็มมาก

     กับเรื่องเคาะสนิม คิดว่าตีความตัวละครโดยการทำการบ้าน แล้วก็ปรึกษา คุยกับพี่ผู้กำกับฯ ตลอด ซึ่งวันถ่ายสิ่งที่ทำมากที่สุดคือ คุยกับพี่แอ็คติ้งโค้ชว่าอยากให้ตัวละครนำเสนออย่างไร เราก็วิเคราะห์แล้วทำไปเรื่อยๆ ตัวละคร “นาคนนท์” ไม่มีความตลก แต่จะมีพระที่เป็นตลก มี “เอม ตามใจตุ๊ด” และ “เจมส์ ภูริพรรธน์” ในกองจะตลก อย่างกับ “เจมส์” ที่เคยร่วมงานกันมาเขาจะเป็นผู้ชายแมนๆ แต่พอมาเรื่องนี้เขาใส่แว่น แล้วมีท่าทางแบบวี้ดว้าย ส่วน “เอม” เป็นคนน่ารัก เป็นคนตลก เขามาเป็นตัวเขาเลย ทำงานด้วยกันเลยสนุก ต่อให้ถ่ายถึงตี 3 ตี 4 ก็ยังครึกครื้นกัน

     ทั้งนี้เราไม่ได้เล่นภาพยนตร์มาตั้งแต่ “ทองสุก 13” ก็ประมาณ 5 ปีได้ พอมาปีนี้ก็ 2 เรื่องเลย มีเรื่องนี้และเรื่อง “แช่ง” และเป็นแนวเดียวกัน เขาติดต่อมาให้เล่นอาจจะเป็นเพราะสายตาหรือคาแรกเตอร์ การเล่าเรื่องของหน้าตาเราอาจจะเหมาะกับสิ่งที่เขาตามหา แต่ก็ชอบเพราะเป็นสิ่งที่ท้าทาย มันยาก และเป็นอะไรที่ไกลจากตัวเองมาก แต่ชอบที่ทำอะไรที่ไกลจากตัวเองเพราะจะได้พาออกไปจากที่คุ้นเคย และจะได้พัฒนาตัวเองเลยรับเล่น แต่ก็ไม่คิดว่าเอฟเฟคท์จะเยอะขนาดนี้ ซึ่งการถ่ายทำไม่เจออะไร แต่โลเคชั่นน่ากลัวมาก ไปถ่ายในวัดจริงๆ แล้วต่างจังหวัดด้วย ทางเข้าลึกมาก ยังคิดว่าหลอกเรามาขายหรือเปล่า แต่ถามว่าเชื่อไหมก็เชื่อ โดยการขอขมาก็ทำกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นคอนเสิร์ต ไปต่างจังหวัด หรือไปที่ที่ไม่คุ้นเคย ถูกสอนมาตลอดเรื่องแบบนี้ต้องขอขมา แล้วยิ่งเป็นเกี่ยวกับนาคด้วย เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกับชาวพุทธ เป็นเรื่องที่เซ้นซิทีฟ

     โดยผลงานทุกอย่างถ่ายไว้ปีที่แล้วหมด แล้วมาออนฯ ใกล้ๆ กัน ทั้งละครด้วย เดี๋ยวมีละครเวทีอีก อย่างที่บอก เราอยากลองทุกอย่าง ตอนปลดประจำการทหารออกมาก็บอกตัวเองจะทำทุกอย่าง เลยมีโอกาสได้ทำทุกอย่างจริงๆ ถามว่าปีนี้เป็นปีทองไหม คิดว่าเป็นเช่นนั้น และขอไปไกลกว่านี้ คิดว่าถ้ามันดีก็อยากให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆ