“แซ็ค ชุมแพ” เปิดใจหลังมีข่าวทำสาวท้อง
เป็นดราม่าอีกจนได้หลังสาว “มินดา มีทรัพย์สิน" ออกมาแฉว่านักร้องดังอย่าง “แซ็ค ชุมแพ” ทำท้อง และเรียกหาให้มาเคลียร์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ล่าสุดหนุ่มแซ็คพร้อมผู้จัดการได้ตั้งโต๊ะแถลงเปิดใจถึงดราม่าดังกล่าวว่า
เรื่องทั้งหมดที่คาใจทุกคนอยู่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา เมื่อ แซ็ค ชุมแพ ไปแสดงคอนเสิร์ตที่ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และก็มีน้องผู้หญิงเข้าไปกระชากตัว จนถูกการ์ดกันออกมาด้วยความสุภาพ ไม่ได้มีการอุ้มโยนอย่างที่สื่อบันเทิงฉบับหนึ่งได้กล่าวไว้ และนับตั้งแต่นั้นมาเหตุการณ์ก็ยืดเยื้อมาเรื่อยๆ โดยที่ทางเราพยายามจะไม่พูดอะไร เพราะเรายังยืนยันว่าน้องอยากให้เกียรติฝ่ายหญิง ผมต้องขออนุญาตย้อนเรื่องราวต่างๆ ก่อนนะครับ ก่อนที่จะมีประเด็นนี้เกิดขึ้น คือมันเริ่มจากตอนที่แซ็คเข้ามาอยู่กับผมเมื่อเดือนกันยายนปี 2559 พร้อมกับคนเขียนเพลงคำแพง จากนั้นประมาณครึ่งปีช่วงเพลงคำแพงก็ดังมาก ยอดวิวอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านวิว แซ็คก็กลายเป็นที่รู้จักของทุกคน สาเหตุที่ผลต้องย้อนขนาดนี้ก็เพราะฝ่ายหญิงได้พูดว่า "ลำบากมาด้วยกัน ทิ้งกันได้อย่างไร" นั่นคือเหตุผลที่ผมจำเป็นจะต้องย้อนให้ฟังว่า ผู้หญิงยังไม่เข้ามาในตอนที่แซ็คมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้นประมาณเดือนเมษายน แซ็คก็ได้รู้จักกับฝ่ายหญิง ซึ่งก็คือมินดา และก็ได้คบหากัน ซึ่งผมกับแม่ของแซ็คก็เห็ยมาตลอด ทุกคนในครอบครัวเห็นหมด และในตอนนั้นผมยังถามแซ็คด้วยว่า "จะคบเขาเหรอ รักเขาไหม" ซึ่งแซ็คก็ตอบกับผมชัดเจนว่า "คบครับ รักครับ" แถมยังบอกถึงขนาดว่า "พร้อมที่จะแต่งงานกับเขาด้วย" ตอนนั้นที่ได้ยินผมเองก็ยังโอเค เพราะจากที่เห็นเขาดูดี ก็ปล่อยให้เขาคบกันจีบกันไป เพียงแค่อาจจะบอกเขาว่า "ให้คบกันอยู่ในกรอบของประเพณี และงานที่ทำอยู่" กระทั่งหลังจากนั้นประมาณ 1 ปี เขาทั้งคู่ก็เริ่มมีเรื่องราวระหองระแหงกันอยู่เรื่อยๆ ทะเลาะกันอยู่เรื่อยๆ จนสุดท้ายแซ็คเขาตัดสินใจมาบอกผมว่า "ขอถอยดีกว่า"
ส่วนสาเหตุที่แซ็คตัดสินใจบอกว่าจะถอยมันมีสาเหตุมาจากข้อความนี้ครับ "เขาก็ไม่ใช่มาตั้งนานแล้ว แต่หนูทนค่ะ หนูไม่เคยเจอใครสกปรกแบบนี้มาก่อน การพูดจา กาลเทสะห่างกันมาก" นี่คือสิ่งที่เขาส่งมาบอกนะครับ นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่แซ็คตัดสินใจถอยออกมา หลังจากนั้นพอแซ็คตัดสินใจถอยออกมาและก็เริ่มกลับไปทำงานตามปกติ ซึ่งช่วงนั้นมินดาเขาหาแซ็คไม่เจอ เขาก็เลยติดต่อไปทางคุณแม่ของแซ็ค โดยมีการบอกกับคุณแม่ว่า เขาขอเรียกค่าเสียเวลาที่มาคบกับแซ็ค รายละเอียดตามนี้
1. ค่าละคร 2 เรื่อง เรื่องละ 900,000 บาท
2. ค่าพิธีกร 1 รายการ 400,000 บาท
3. ค่าเล่นเอ็มวีเพลง 1 เพลง 18,000 บาท
4. ยืมครั้งละ 1,000-2,000 น่าจะประมาณ 10,000 บาท รวมเป็นเงินแล้ว 2,228,000 บาท
ซึ่งแม่ของแซ็คเขาก็ตอบกลับไปว่า ถ้าหากขนาดนี้แม่จ่ายไม่ไหวหรอกมินดา นี่คือข้อความที่ฝ่ายหญิงคุยกับคุณแม่นะครับ จากนั้นผู้หญิงก็หายไปสักพักหนึ่ง โดยที่ตัวแซ็คเองก็ยังคงทำงานปกติ แต่เขาเองก็พยายามที่จะติดต่อหาแซ็คตลอดเวลา โดยที่แซ็คไม่พร้อมที่จะคุยด้วยเหตุผลของเขา และหลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ติดต่อมาหาคุณแม่อีก โดยเขียนเป็นข้อความว่า "โอนเงินเข้าบัญชีตามนี้นะคะแม่ เกือบ 50,000 บาท" คือจาก 2,000,000 บาท หายไปประมาณเดือนเศษๆ กลับมาเหลือแค่ประมาณ 50,000 ลดราคาลงมา พร้อมกับระบุว่า "รบกวนคืนหนูด้วยนะคะ ให้ถามแซ็คดูก็รู้" โดยคุณแม่ก็ได้ตอบกลับไปว่า "แม่จะคืนให้ในส่วนของเงินที่แซ็คยืมนะมินดา 10,000 บาท แต่นอกเหนือจากที่มินดาซื้อของให้แซ็ค แม่คงคืนไม่ไหว"
ซึ่งตอนนั้นเราก็พยายามที่จะติดตามว่าเงิน 50,000 บาท นี้มันคืออะไร ถ้าหากมันเป็นความจริง น้องเราไปยืมเขามาจริงๆ เราก็ยินดีคืนให้ แต่ก็ไม่ได้ความว่าคืออะไร จนสุดท้ายมันก็มีข้อความออกมาตามสื่อต่างๆ ระบุรายละเอียดของเงินทั้งหมดจำนวนกว่า 50,000 บาท ก่อนจะมีใบสุดท้ายออกมา โดยเป็นการเขียนข้อความว่า "ยอดเข้า 50,000 หนูจบแซ็ค ยอดเข้า 80,000 หนูจบให้ทุกคน" โดย 30,000 ที่เพิ่มเข้ามา เขาบอกว่าเขาไปจ้างทนายมาฟ้อง มีค่าทนาย 30,000 บาท "ถ้ายอดไม่เข้าเลย เดี๋ยวก็รู้กัน" เขาบอกว่าแบบนี้ครับ
จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเรากับ มินดา เริ่มจากตรงไหน และเรากับเขาไปคบกันได้ยังไง
แช็ค - ผมกับเขารู้จักกันเพราะศิลปินรุ่นพี่คนหนึ่งเป็นคนแนะนำให้รู้จัก โดยบอกกับผมว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่นชอบในผลงาน และชื่นชอบในตัวผม อยากให้ผมคุยกับผู้หญิงคนนี้หน่อย ซึ่งก็คือมินดา หลังจากนั้นมินดาเขาก็แอดเฟซบุ๊กของผมมา พร้อมกับทักอินบ็อกโดยบอกกับผมว่า "ชอบเพลงคำแพง เปิดฟังทุกวันที่บ้าน" ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาเป็นแค่แฟนคลับ แถมเขาเป็นดาราด้วย เขาคงไม่ชอบผมหรอก แต่เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ นะ เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน ก่อนจะค่อยๆ ขยับความสัมพันธ์เพราะผมรู้สึกดีกับเขา ถึงขนาดมองว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับผม
ด้านแซ็คบอกต่อว่าช่วงเวลาที่คบหากันจริงๆ ถ้าพูดถึงการคุยก็ประมาณเกือบ 2 ปี ที่เราคบกันจริงๆ ประมาณปีหนึ่ง ความสัมพันธ์ก็จากเพื่อนแล้วก็เป็นคนรู้ใจเป็นแฟนกันมา 1 ปี ทุกคนรับรู้ไม่ว่าจะเป็นทางค่าย ทางพ่อแม่ผม พ่อแม่ผู้หญิงก็รับรู้หมด เพราะเราคบกัน คบหลังจากที่เรามีชื่อเสียแล้วตอนเพลงมียอดวิว 200 กว่าล้านแล้ว
กับสาเหตุอะไรทำให้ความสัมพันธ์เกิดปัญหาคือตอนแรกเราคุยกันว่าถ้าเราจะคบกัน อย่างแรกเลยผมบอกเขาไปว่าผมจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขา ต้องทำใจในเรื่องนี้ เขาก็บอกโอเค เขาก็เป็นศิลปินเหมือนกัน รู้ว่าผมงานเยอะ ทำใจได้ แต่ผ่านไปไม่นาน เรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นครับ เขาก็ท้วงว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้เขา ไม่สนใจเขา ทะเลาะกันทุกวันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งของ เรื่องซื้อยาหยอดตา แล้วก็พาไปล้างเล็บ เชื่อสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องเวลา กับเรื่องสิ่งของ สิ่งของคือพวกกระเป๋า
“ผมก็ลูกผู้ชายคนหนึ่งครับ ถ้าแฟนอยากได้ก็จะซื้อให้ แต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาครับ ผมบอกเขาว่าถ้าถึงเวลาเดี๋ยวซื้อให้แน่นอน แต่เขาก็เอามาขู่ว่าถ้าไม่ซื้อเดี๋ยวนั้นเขาก็จะเลิกกับผม แล้วก็จะไปคบคนใหม่”
ตอนนั้นที่เราคบกับเขา เราให้เงินหรือช่วยค่าใช้จ่ายไหม ปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่พกตังเพราะว่าผมเป็นคนที่พกตังค์ไม่ได้ จะใช้เยอะครับ ส่วนมากจะยืมผู้จัดการบ้าง ยืมพี่คนขับรถบ้าง เป็นแฟนกัน ไปกินข้าวก็ตัวเองออกบ้าง เขาออกบ้าง วันนี้เขาไม่มี ตัวเองออกไปก่อนนะ วันอื่นเดี๋ยวเขาเลี้ยงอะไรแบบนี้ ก็ปกติของคนไปกินข้าวด้วยกัน ทางฝ่ายหญิงก็มีอาชีพนักแสดง
คบกันถึงตอนไหน จริงๆ ตั้งแต่วันที่คบกันมาปีหนึ่ง ก็หลังจากวันนั้นผมคิดว่าตอนแรกเราสองคนน่าจะไปกันได้ดี เพราะว่าเขาก็เป็นผู้ใหญ่ คำพูดคำจาโตกว่าผม เชื่อถือได้ ผมก็คิดว่าคนนี้แหละเป็นแม่ของลูกครับ คิดถึงเรื่องแต่งงานเลยครับ ปรึกษากับพี่ตั้มเลยครับ ว่าจะแต่งงานกัน แต่หลังจากคบกันมาปีหนึ่งก็เริ่มมีการระหองระแหง เรื่องเวลา เรื่องสิ่งของ เป็นอันดับแรกเลยที่เป็นประเด็นทำให้เราทะเลาะกันทุกวัน ก็เลิกกันมาได้ 5-6 เดือนแล้วครับ
ใครเป็นคนบอกเลิก อันนี้เวลาเขาโมโหผมว่าซื้อของให้ไม่ได้ ก็เลิกกันไปเลย เรื่องยาหยอดตาเขาใช้ผมไปซื้อตอนเที่ยงคืนครับ เราไม่ไปซื้อเขาก็โวยวายขอเลิก ส่วนจบแบบสวยไหม ตอนนี้ผมก็เริ่มถอยห่างแล้วเพราะมันเริ่มไม่ใช่แล้ว ทะเลาะกันทุกวัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผมเอาพี่ในวงไปนอน เขาก็บอกกูไม่อยู่กับมึงแล้ว ทะเลาะกันทุกวัน
ที่ฝ่ายหญิงออกมาโพสต์ว่าถ้าแมนก็ให้ออกมาเคลียร์กันหน่อย เป็นเพราะเราบอกเลิกไม่ชัดเจนเหรอ อันนี้ก่อนที่จะเป็นข่าวประมาณ 4 เดือน ผมก็ได้บอกเลิกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไร ก็ทะเลาะกันเขาก็โทรมาหาผมทุกวัน ผมก็ไม่รับ แล้วก็มีส่งข้อความมาถามว่า "ยังรักอยู่หรือเปล่า" ผมก็เลยบอกว่า รักอยู่ห่างๆหลังจากที่เราไม่ได้ติดต่อกันนานพอสมควร ตอนนั้นก็บอกเลิกเขาต่อหน้าหลายครั้งทั้งเขาและผมบอกเลิกกันไปบอกเลิกกันมาอยู่แบบนี้ ผมก็เลยถอยห่างๆ สักประมาณ 3 เดือน เขาก็พยายามติดต่อกลับมาหาผม
ถ้าถามว่าเราเลิกกับเขาเพราะสาเหตุอะไร เราจะตอบว่า เพราะเรื่องเวลาไม่ค่อยมีเวลาให้กัน มันไปด้วยกันไม่ได้ เราทะเลาะกันแทบไม่ได้นอน ช่วงเดือนหนึ่งเต็มๆหลังจากเลิกกัน ไม่ได้ติดต่อกันเลยก็เป็นสาเหตุที่เขาโพสต์เฟซบุ๊กว่าผมไม่แมน อันนี้ผมก็ต้องขอโทษด้วยนะ ที่คำบอกเลิกของผมไม่ชัดเจน เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนที่เขาจะโพสต์ในเฟซบุ๊ก ประมาณสัก 3 เดือน เราก็ทะเลาะกัน ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่กับเขาแล้วครับ ผมมาอยู่ที่ลำลูกกา บ้านของวง ตอนนั้นเขาก็พยายามติดต่อหาผมทุกวัน ทั้งโทรทั้งส่งข้อความ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบ แต่อยู่มาวันหนึ่ง ก็มีข้อความเด้งขึ้น ถามผมว่า "รักกันอยู่ไหม" ผมก็เลยบอกว่า "ขอรักอยู่ห่างๆ แบบนี้ดีกว่า" นี่แหละน่าจะเป็นเหตุผลที่เขาโพสต์
คนมองว่าฝ่ายหญิงท้อง เลยออกมาโพสต์ เขาท้องจริงไหม สำหรับเรื่องท้อง ไม่มี แน่นอนตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโพสต์จะสื่ออะไรกับผม ย้ำชัดอีกฝ่าย ไม่ท้องแน่นอนรับประกัน ส่วนเรืองท้องไม่ได้คุยกันเลยครับ ไม่ได้คุยกับเขา 4 เดือนแล้วครับ มั่นใจว่าไม่ได้ท้องแน่นอน รับรองคุณตั้มบอกต่อว่าเรื่องท้อง คือวันที่เกิดเหตุการณ์ที่แจ้งวัฒนะและมีการ์ดเข้าไปกัน ซึ่งน้องเขาทิ้งตัวลงพื้นแล้วพูดว่า "ทำคนท้อง ทำคนท้อง" คนก็เลยได้ยินแล้วคิดว่าท้อง แล้วเอาคลิปนั้นมาปล่อย เรามีคลิปนั้นอยู่ที่เราด้วย เขาพยายามจะสื่อความหมายว่าเขาท้อง แต่เขาไม่ได้ท้องครับ เพราะเขาเป็นคนมาบอกกับสื่อหนึ่งที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ว่าเขาไม่ได้ท้อง
วันที่เขาไปหาเราที่แจ้งวัฒนะ ทำไมถึงเคลียร์กัน
มันเป็นเรื่องที่ชุลมุนเพราะว่าวันนั้นผมต้องไปงานต่อที่ชลบุรี แล้วให้เวลาถ่ายรูปกับแฟนคลับ 10 นาที พอหมดเวลาเราก็กำลังเดินไปที่รถ แล้วอยู่ดีๆ มินดาก็มากระชากแขนเสื้อผม แล้วพี่การ์ดก็มากันตัวผมไว้แล้วอีกคนก็ดึงผมขึ้นรถไปเลยครับ เราเห็นเขาแค่ตอนที่เขามากระชากแค่นั้นเลยครับ เขาพูดว่าท้องหลังจากเลิกกันนานหรือยัง อันนี้เขาบอกว่าท้องก็วันที่แจ้งวัฒนะนั้นแหละเลิกไปแล้ว 4 เดือน วันนั้นก็ไม่ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรงพี่การ์ดเขาก็ขออนุญาตดีๆ แล้วก็ดึงออกมา
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเราก็ ไม่ได้ติดต่อเขาเลยไม่ได้คุยกันเลย ตั้งแต่เลิกกัน คุยกันไม่ได้ครับ คุยแล้วก็ทะเลาะกัน ต่อจากนี้มีมาตรการต่อไปอย่างไร เพราะเรื่องนี้ก็มีผลกระทบกับเรา จะคืนเงินตามที่เขาเรียกร้องมาไหม ถ้าพูดถึงเรื่องเงิน ผมคืนไปแล้วครับ ถ้ายังมีหลักฐานอีก ผมก็ยินดีชดใช้คืน เราก็คืนเขาในส่วน 1 หมื่นที่ยืมเขามา ส่วน 9 หมื่นผมไม่รู้ว่ามันมาจากไหน
