“ตูน” ชวนดู “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ลุ้นแต่ง “ก้อย” หลังปิดอัลบั้ม
หลังจากสร้างประวัติศาสตร์วิ่งเพื่อรับบริจาคเงินจากใต้สุดที่ยะลาไปเชียงรายกับโครงการดีๆ “ก้าวคนละก้าว” สำเร็จ นักร้องแข้งเหล็ก “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” ก็ยังมีความคิดคืนกำไรและสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวไทย รวมไปถึงต่อยอดการบริจาคให้กับอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราชที่ยังขาดแคลนงบกว่าพันล้าน กับภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ที่บันทึกเรื่องราวตลอด 55 วันที่วิ่งในโครงการโดยผู้กำกับไฟแรง “ณฐพล บุญประกอบ” โดยเจ้าตัวได้เผยถึงแนวคิดให้ได้ติดตามกัน รวมไปถึงอัพเดทเรื่องข่าวดีกับหวานใจ “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ”
สำหรับภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ตลอดเส้นทางทีมงานก็จะตามถ่าย ส่วนเราก็ใช้ชีวิตปกติ ให้ทีมงานทำงานของเขาไป ส่วนเราก็ทำหน้าที่วิ่งและสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลตลอด 55 วัน เราเห็นตัวเองวันนี้ก็รู้สึกว่าครั้งนี้แปลกไป เพราะมันอยู่ในหนัง และมันก็ไม่ถูกออกแบบ ฉากบางฉากอยู่ในรถบ้านที่มีที่นอน เสื้อผ้าบางทีก็ไม่ได้ใส่ เราก็ใช้ชีวิตจริงๆ มันก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด เราก็เขิน ผมเป็นคนที่เขินมาก และก็มีบอกทางผู้กำกับว่าทำหนังอย่าโฟกัสที่ผมเยอะ คนเห็นผมมาตลอด 2 เดือน และ 10 กว่าปีที่ร้องเพลงแล้ว ความตั้งใจแรกคือเราอยากเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างวิ่งที่มันมากกว่าแค่ตัวเรา มันมีมุมของคนไทยที่ออกมาช่วยกัน มีมิติของหมอ พยาบาลที่ออกมาช่วยกัน ตอนแรกเราอยากให้มันเป็นแบบนั้นมากๆ แต่เมื่อดูเสร็จ ผมว่าผมพอใจมากที่มันจะเกิดพลัง แรงบันดาลใจ ก็ต้องลองไปดู
เรื่องความอึดอัด เราก็มีบางช่วงที่รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ ตอนแรกก็ไม่ชิน แต่ก็เริ่มชิน ใช้ชีวิตปกติ เรียกว่าค่อยๆ ปรับสภาพตัวเอง เพราะว่าน้องที่มาตามถ่ายก็เคยเจอกันมานานแล้ว ค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกันสักพัก ก็เป็นตัวเองที่สุด พระเอกของเรื่องก็เขินดี แต่จริงๆ ไม่ใช่ เราก็เป็นแค่คนที่ทำอยู่ตรงนั้นเลยถูกโฟกัส
ส่วนตอนแรกที่ได้ชมภาพยนตร์ก็แตกต่างจากภาพแรกของเรา เรามีภาพแรกของเราอยู่ว่าเราอยากเห็นบันทึกภาพของคนอื่นไว้เยอะๆ เพราะมันคไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่สุดท้ายที่ผู้กำกับเลือกและให้เหตุผลว่าต้องการแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าสุดท้ายก็เป็นเจตนาของเขา และปลายทางมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการ แต่เกิดพลังงานดีๆ เราก็โอเค พอใจกับมัน เราไม่ได้มีส่วนในการคัดเลือกอะไรเลย อย่างที่บอกคือเราไม่ถนัดในการเล่าเรื่อง GDH ก็ถนัด เราคิดว่าก็ให้เขาทำงานที่เขาทำได้ดีมากอยู่แล้วอย่างเต็มที่ เราขอเป็นคนสื่อสารเรื่องราว ความคาดหวัง เราก็หวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนดูไม่มากก็น้อย หวังว่าหลายๆ คนที่ได้ดูจะรู้
สำหรับ “ก้อย” เขาก็ตื่นเต้นที่มันจะออกมาเป็นบันทึกเรื่องราว ตื่นเต้นที่ทุกคนจะได้ดูมันฟรีๆ เรื่องความโรแมนติกไม่มีนะ ยกเว้นว่าเขาจะเอาอะไรเข้าไปเพิ่ม แต่เท่าที่ดูคือไม่มี เราไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เราเป็นพระเอกและ “ก้อย” เป็นนางเอก คิดว่าพระเอกคือคนไทยทุกๆ คนมากกว่า
โปรเจ็คท์หนังที่กำลังจะฉาย จริงๆ แล้วเราจะมีกิจกรรมไปตลอด 6 เดือนที่เราจะพาหนังเรื่องนี้ไปที่ต่างๆ มีกิจกรรมล้อไปกับหนังเรื่องนี้ อาจจะมีจัดวิ่งไปตามที่ต่างๆ และก็มีบริจาคด้วย ตลอด 6 เดือน คิดว่าจะไปสิ้นสุดที่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เราจะไปสรุปยอด โครงการนี้ก็มีฉายแค่ในประเทศ เรื่องบริจาคให้กับศิริราช เราตั้งใจว่าเราจะให้ทุกคนได้ชมฟรี และไม่อยากคิดเงินว่า 150-200 บาท และคนทำบุญหลังจากหักค่าใช้จ่าย เราอยากให้หนังเรื่องนี้ทุกคนได้ดูกันแบบฟรีๆ เหมือนกับที่เขาออกมาให้เราฟรีๆ ตลอด 55 วันที่ผ่านมา ให้ใจ ส่งข่าวน้ำ เงินบริจาค หนังเรื่องนี้เลยจะเป็นเหมือนคำขอบคุณจากทีมงานก้าวคนละก้าวให้คนไทย และก้สุดแล้วแต่ว่าคุณอยากจะบริจาคให้กับศิริราชเพื่อสร้างตึกนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ซึ่งตึกนี้ต้องการงบประมาณอีกเป็นพันล้านเพื่อให้สำเร็จ ก็จะแล้วแต่คุณเลยว่าคุณจะบริจาคเท่าไหร่ ช่วยเท่าไหร่ เรื่องเป้าหมายเราก็อยากให้ไปถึงตามความตั้งใจของคุณหมอ คือประมาณพันล้าน ซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยและดีที่สุดเพื่อไปรักษาคนให้ดีที่สุด ผมคิดว่าถ้ามีเป้าผมก็อยากเป็นพระเอกพันล้าน
สำหรับการบริจาคก็มีการบริจาคได้หลายช่องทาง ทั้ง SMS 10 บาทเหมือนเดิม คือเราอยากได้จำนวนคนที่บริจาคเข้ามาและก็เป็นการบริจาคได้ง่ายๆ คิดดูว่าคนไทย 70 ล้าน 10 บาทเหมือนเดิม เราก็ได้ 700 ล้านแล้ว และก็มี QR Code ก็สแกนเพื่อบริจาคได้ง่ายๆ ตามจำนวนที่ต้องการ
เรื่องเส้นเสียงที่อักเสบ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว ออกคอนเสิร์ตได้แล้ว ร้องเพลงไปแล้ว 4-5 วัน เส้นเสียงก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตอนนี้ก็ใช้งานได้ประมาณ 90% ตอนนี้หมอก็บอกให้ค่อยๆ ใช้ไปก่อน อย่าเพิ่งหักโหม เรื่องวิธีการร้อง ไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการ แต่อาจจะกลับไปวิธีการเดิมที่เคยร้อง เพราะว่าที่ผ่านมาในช่วงที่เส้นเสียงเรามีปัญหา เราก็พยายามเลี่ยงการออกเสียงในจุดที่มีปัญหา ซึ่งเมื่อเราเลี่ยงมากมันก็เหมือนกล้ามเนื้อเราไปจำในแบบผิดๆ เราก็ต้องกลับมาจำในแบบที่ถูกก่อนที่เราจะมีปัญหา เราก็ต้องใช้เวลา
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ไปออกคอนเสิร์ตก็เล่นเต็มที่ทุกรั้ง เรื่องความเซฟ ผมคิดว่าเราเล่นในจำนวนที่น้อยลงดีกว่าต้องไปผ่อนบนเวที นิสัยของผมไม่สามารถขึ้นเวทีไปลิปซิงค์หรือว่าเล่นเบาๆ ได้
ข่าวดีเรื่องแต่งงาน จริงๆ เรื่องการมีครอบครัวอย่างที่ผมบอกอยู่เสมอคือก็มีความฝันของผม รอให้ทุกอย่างลงตัวก็บอกแน่นอน ไม่มีปิดอยู่แล้ว ระดับผมไม่มีปิดอะไรอยู่แล้ว ก็คิดว่าเร็วๆ นี้ ใกล้ๆ จบอัลบั้มซึ่งก็คือปีหน้านี่แหละ อัลบั้มเราอัดไป 90% แล้ว ใกล้เสร็จแล้ว ไม่พ้นเดือนนี้น่าจะอัดเสร็จ 100% และก็เราจะปล่อยเป็นซิงเกิ้ลไป และก็วางอัลบั้มเต็มปลายปีนี้หรือว่าต้นปีหน้า คิดว่าเราก็จะ 40 แล้ว ก็อยากมีครอบครัว
ถามว่าเกริ่นๆ ไว้บ้างหรือยัง ก็ถ้าลงตัวก็จะบอก เราไม่อยากบอกไปแล้วฟาว มันจะไม่ดีกับทุกอย่าง เอาเป็นว่าอยากมีครอบครัวและก็อยากมีเร็วๆ นี้ เรื่องขอแต่งงานถ้าบอกตรงนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์ เรื่องฤกษ์ผมไม่ค่อยดูดวงอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้มีแพลนขนาดนั้น
