เปิดใจวง “Morning Soon” ปล่อย 3 ซิงเกิ้ลจากแฮชแท็กฮิต
เรียกได้ว่าเป็นอีกวงที่น่าจับตามองสุด สำหรับวง “Morning Soon” ที่ปล่อยเพลงออกมาถึง 3 เพลงรวดพร้อมๆ กัน อย่าง เอาที่สบายใจ, ของตาย และมีสไตล์มีสตางค์ โดยมีแรงบรรดาลใจนำแฮ็ชแท็กดังมาเป็นคอนเซ็ปท์ของเพลงทั้งของเพลงทั้ง 3 อีกด้วย ซึ่งแนวคิดการทำเพลงและฟีดแบ็คเป็นอย่างไรนั้น พวกเขาได้เปิดเผยให้ฟังว่า
ผลงานเพลงออกมาล่าสุดในคอนเซ็ปท์ “เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด” โดยออกมาถึง 3 เพลงพร้อมกัน เอาที่สบายใจ, ของตาย, มีสไตล์มีสตางค์ เพลงเหล่านี้ล้วนมาจากแฮชแท็กทั้งนั้น โดยมาจากโปรดิวเซอร์ พี่เป้ วง Mild ที่คิดว่าลองเอาแฮชแท็กมาทำเป็นชื่อเพลงดีไหม เพราะส่วนใหญ่เวลามีความทุกข์ ความสุข หรืออะไรเราก็มักจะไประบายลงโซเชียล เราก็เลยไปหยิบแฮชแท็กมาทำเป็นเพลงกัน เพลงแรกที่ปล่อยมาคือ “เอาที่สบายใจ” มาจากที่คนส่วนใหญ่เวลาใช้แฮชแท็กนี้ลงไปในโซเชียลจริงๆ แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเอาที่สบายใจจริงๆ หรอก แต่เป็นการประชดประชันว่าอยากจะทำอะไรก็เชิญ แล้วแต่เลย เป็นอีกความรู้สึกของคนที่หมดความอดทนแล้ว ก็เหมือนกันกับความรักที่มันจะถึงทางตันก็แล้วแต่แล้วกัน เอาที่สบายใจ
ส่วนเพลง “ของตาย” เพลงนี้ “พี่เป้” ก็เขียนอีกเหมือนกัน เป็นเพลงของคู่รักก็ได้ แต่เป็นคู่รักที่ไม่ได้เป็นแฟนกัน ตกอยู่ในสถานะที่เป็นแฟนกันไม่ได้ แต่รักกัน น่าจะโดนใจหลายๆ คน ก็คืออีกฝ่ายมีแฟนแล้วแต่ก็ยังรู้สึกดีที่จะคุยกับเขา เหมือนเป็นกิ๊กเขา มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่คนรัก ก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้อง จะงอนอะไร เสียใจยังไม่มีสิทธิเลย ก็เลยกลายเป็นเพลงนี้
ส่วนเพลงสุดท้ายอย่าง “มีสไตล์มีสตางค์” เป็นเพลงที่พูดถึงกลุ่มคนที่ชอบอีกฝ่ายที่อยู่สูงกว่าตัวเองเยอะๆ เช่นพวกเด็กหลังห้องแอบชอบดาวโรงเรียน คนจีบเต็ม เราก็ชอบ แต่เราเป็นคนที่หน้าตาไม่ดี เสื้อผ้าดีๆ หรือรถหรูๆ ก็ไม่มี สุดท้ายอยากจีบดอกฟ้า แต่ว่ามีแค่หัวใจก็เลยไม่เหมือนจะไม่พอที่จะจีบคนๆ นึง
ส่วนที่ปล่อยเพลงทีเดียว 3 เพลงเหตุผลก็คือเราหายไปนาน 2 ปีกว่าเลย เลยอัดอั้นตั้งเพลง “นิทานหลอกเด็ก” ก็เลยคุยกับทางค่ายและก็ส่งเดโม่ทีเดียว 5 เพลง เกิดเป็นมินิอัลบั้มในคอนเซ็ปท์ ก็ต้องขอบคุณค่าย Spicy Disc และก็ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราถึง 3 เพลงติดกันเลย เพราะปกติศิลปินเล็กๆ อย่างเราส่วนมากก็ครั้งละซิงเกิ้ล เราขอพี่ๆ เขาก็กล้าให้ ทำยังไงก็ได้ให้คนได้ฟังเพลงเราเยอะที่สุด และก็เป็นไอเดียของพี่ๆ ครีเอทีฟในค่ายด้วย ก่อนที่เราจะไปเล่น Melody of life ด้วย เราก็เลยได้เอาทั้ง 3 เพลงไปเล่นด้วย
ฟีดแบ็คที่ได้เล่นในงานก็หายเหนื่อยเพราะว่าคนก็ร้องตามกันได้ หลังจากที่เราหายไปนานคนก็ยังไม่ได้ทิ้งเรา ยังอยู่กับเรา ที่เราหายไป ไมได้ไปอู้หรือว่าขี้เกียจอะไร เพราะทางวงและก็โปรดิวเซอร์เองก็ไปหาแนวทางว่าจะคัมแบ็คยังไงดี ก็เลยมาแบบร็อค 90 สไตล์ผู้ชาย 90 เน้นพูดตรงๆ ตีคอร์ดร้องเพลงเลย อย่างเพลง “เอาที่สบายใจ” เป็นเพลงที่สั้นเหมือนเปิดหนังสือเพลงหนังห้อง เหมือนวัยรุ่น 90 เลย
ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของวงเรา เราเจอกันสมัยที่เรียนในมหาวิทยาลัย เราเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล วงเราก่อนหน้านี้เป็นมือกลองอีกคนมาก่อนหลายคน ก่อนที่ “บาส” จะตามมาทีหลังเป็นมือกลองประมาณคนที่ 4 ของวง ก็ได้ไปเล่นแทนรุ่นพี่ก่อน เล่นแล้วก็รู้สึกว่าประทับใจ แอดติจูดอะไรหลายๆ อย่างตรงกัน ก็เลยขอพี่ๆ เข้ามาอยู่ในวงด้วย
ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถึงจะเริ่มเป็นที่รู้จัก กว่าจะเป็นวงเราได้ทุกวันนี้ จริงๆ เราทำวงมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ว่าได้ เพราะว่าเราก็เริ่มทำมาตั้งแต่ปลายๆ สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยแล้ว ประกวดในมหาลัย เล่นกลางคืน ก่อนที่จะได้ทำเดโม่ เราเองมีโอกาสได้รู้จักกับพี่ๆ วง Mild ก็เลยมาศึกษา อยากเป็นศิลปินอย่างพี่ๆ ก็เลยกลับมาเขียนเพลงให้พี่วง Mild ทำ ทำเพลงกัน “พี่เป้” ก็ถามว่าเอาจริงใช่ไหม ถ้าเอาจริงให้ทิ้งทุกอย่างที่เคยทำมา หลังจากนั้นมาก็เลยได้เติบโตมากลับพี่ๆ และ HOH Music Production ว่าวิถีการทำเพลงมันเป็นอย่างไรและก็ได้ไปเจอรายการ Spon Stage by Melody of Life ที่ Spicy disc เขาจัดขึ้น ก็เลยได้มีโอกาสได้ทำเพลงนึงไปประกวด ชื่อว่าเพลง “เริ่มใหม่กับคนเก่า” ได้เข้าเป็น 10 วงสุดท้าย และเขาก้นำ 10 วงสุดท้ายมาออกเพลงคนละซิงเกิ้ลเป็นอัลบั้ม นั่นก็เป็นซิงเกิ้ลแรกของพวกเรา
แฮชแท็กต่างๆ ที่เป็นชื่อเพลง เราก็ใช้กันเองด้วย ใช้กันเกลื่อนมากเลย อย่างเว่บ่นอะไรก็จะแฮชแท็ก “เอาที่สบายใจ” อยากประชดแบบที่มีมารยาทมากที่สุดละเบาที่สุด ซึ่งเพลง “เอาที่สบายใจ” ก็มียอดวิวอยุ่ที่ 8 แสนกว่าๆแล้ว ถือว่าเป็นยอดวิวที่สูงพอสมควรเลยทีเดียว ตั้งแต่ที่เคยปล่อยซิงเกิ้ลเพลงมารู้สึกว่าเพลงนี้กระแสตอบรับรวดเร็วและก็เยอะ และอย่าลืมฟังอีก 2 เพลง “ของตาย” และเพลง “มีสไตล์มีสตางค์” ที่เป็นเพลงที่พูดถึงชีวิตตอนสมัยวัยรุ่น ยังไม่มีเอ็มวี และมีแนวคิดว่าจะทำเอ็มวีเพลงนี้ขึ้นมาดด้วย มีแน่นอน เพราะมีทีเซอร์ของแต่ละเพลที่มันมีต้นตอความเจ็บปวด ติดตามชมได้ผ่านช่องทางยูทูป นักแสดงก็คนละคนคนละเพลง
การคาดหวังคงจะต้องคาดหวังในทุกๆ เพลง เพราะมีความตั้งใจอย่างมาเลยทีเดียว แต่จะไม่รู้สึกเสียใจถ้าเพลงไม่ได้ดัง เพราะตั้งใจสุดๆละทำเต็มที่แล้ว และอยากให้ทุกคนได้ฟังเพราะแอบซ่อนผลงานความตั้งใจไว้ในนั้นเยอะพอสมควร กว่าจะทำออกมาอาจจะฟังง่ายต่กระบวนการคิดไม่ง่ายแบบนั้นเลย