​​​​​​​"อุ๊บ วิริยะ" โต้กลับคุณพ่อ "เพ็ชร" จ่อเข้าแจ้งความหลังถูกขู่ทำร้าย

"อุ๊บ วิริยะ" โต้กลับคุณพ่อ "เพ็ชร" จ่อเข้าแจ้งความหลังถูกขู่ทำร้าย

            กลายเป็นเรื่องราวที่ดูท่าจะบานปลายกันไปใหญ่จนเตรียมหอบหลักฐานเข้าแจ้งความกรณีถูกคุณพ่อ "เพ็ชร ฐกฤต ตวันพงค์" โพสต์ไอจีเชิงขู่ทำร้าย "ไม่ติดที่ผู้ใหญ่ขอไว้ ผมเล่นแล้ว ฯลฯ" สำหรับ "อุ๊บ วิริยะ  พงษ์อาจหาญ" หลังจากได้โพสต์เฟซบุ๊คแฉเหตุที่ลูกชายอีกฝ่ายชวดบท "ขุนเรือง" ในละคร "บุพเพสันนิวาส" นั่นเอง ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาแจงเรื่องนี้ให้ฟังว่า

            ที่ไปเขียนก็เป็นการเล่าถึงตอนที่เขายังอยู่กับตน ทาง "พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์" ก็ได้ติดต่อมาล็อกคิวเรียบร้อย และได้เสนอไปทาง "พี่สมรักษ์ ณรงค์วิชัย" ท่านก็โอเคตอบตกลง แต่พอจะเอาจริงๆ ก็อดไม่ได้เล่น เพราะผู้ใหญ่บางคนไม่ปลื้มเขาเรื่องนี้ ตนแค่โพสต์ไปในพื้นที่ของตัวเอง ที่กัดจิกก็เป็นนิสัยส่วนตัวไม่ได้มีคำหยาบอะไร กับเรื่องที่ทางคุณพ่ออีกฝ่ายบอกให้หยุด ก็เป็นเรื่องจริงที่ตนโพสต์ไป แต่เรื่องที่คุณพ่อโพสต์ไม่จริง เพราะบุญคุณไม่สามารถทดแทนให้หมดกันได้ และเขาได้มีการขู่ทำร้ายด้วย ยันไม่ได้คุยกันปีหรือสองปีกว่าแล้ว และเรื่องนี้ไม่ได้มองว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ที่พูดเป็นความจริงเป็นสิ่งถูกต้อง และตอนที่ดูแลอีกฝ่ายตนหักแค่ 20% ถือว่าน้อยมาก แต่เงินที่ช่วยครอบครัวไปเป็นหลักล้านและไม่เคยพูดถึงเรื่องทวงบุญคุณ ทั้งนี้พยายามเลี่ยงไม่อยากเจอหน้า ที่เขียนก็เป็นการระบายออกมาเป็นตัวหนังสือ ที่ผ่านมาไม่ได้พูดถึงเขาแค่คนเดียว ถ้าแจ้งก็แจ้งกลับ เพราะมีหลักฐานเก็บไว้หมดแล้วพร้อมสู้เสมอ

            ส่วนเรื่องที่ถูกมองว่าสร้างกระแสนั้นก็ไม่จริงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพราะปกติตนก็มีงานเยอะอยู่แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ อีกฝ่ายเป็นเด็กควรจะมาขอโทษ และการที่เขาเอาเบอร์ออกจากไอจีถือเป็นการหยามตนมาก ครอบครัวเขาอาจจะมองเป็นเรื่องผลประโยชน์ที่อยากได้เต็มๆ เลยให้เอาออก ซึ่งตนก็มองว่าไม่ผิดที่ไม่ต่อสัญญาแต่ผิดเรื่องที่ให้คำมั่นกันไว้เหมือนไม่มีสัจจะและได้ไปสาบานกันด้วย ก็ไม่ได้ใจดำอะไร ถ้าจ่ายเงินจำนวนเฉียดหลักล้านบาทก็จบและต้องการให้ถอนคำพูด สำหรับการแจ้งความจะไปพรุ่งนี้ เพราะคุณพ่อเขาขู่ทำร้ายคนจะได้รู้หากตนเป็นอะไรไป โดยที่คุณพ่อเขาออกมาพูดแบบนี้จะเสียหายถึงลูกชายด้วย อยากให้มีสามัญสำนึกที่ได้เลี้ยงก่อนจะเข้าวงการ เมินคำพูดที่ว่า "แก่ๆ แล้วไม่อยากไปเผาผีใคร" ก็อยากให้ต่างคนต่างอยู่ ที่ผ่านมาตนคิดว่าเลี้ยงสัตว์ยังซื่อสัตย์ไม่แว้งกัดเหมือนเลี้ยงคน ก็รู้สึกเจ็บและไม่อยากปั้นใครอีก กับเรื่องที่จะให้กลับไปเป็นผู้จัดการเหมือนเดิมก็คงไม่ คนเราเจ็บแล้วต้องจำ อยู่แบบนี้สบายใจ ถ้าอีกฝ่ายมาขอโทษอาจจะหายโกรธ เพราะจิตใจตนไม่ได้เป็นคนใจร้ายใจดำอะไร และคงอโหสิกรรมให้ ต่างคนต่างอยู่ด้วย