“จูเนียร์” เจองานหินบทบ๋อย ลงพีเรียดเรื่องแรก “กาหลมหรทึก”

“จูเนียร์” เจองานหินบทบ๋อย ลงพีเรียดเรื่องแรก “กาหลมหรทึก”

0

“จูเนียร์” เจองานหินบทบ๋อย ลงพีเรียดเรื่องแรก “กาหลมหรทึก”

         ออนแอร์เข้าสู่คดีที่ 3 แล้ว สำหรับละคร “กาหลมหรทึก” ซึ่งในคดี “นายลุ” ก็มีอีกหนึ่งหนุ่มตี๋ “จูเนียร์ กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์” มาร่วมแสดงด้วย ขอบอกเลยว่าเจ้าตัวทุ่มเทสุดๆ กับละครเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นการเล่นละครพีเรียดครั้งแรกของเจ้าตัว  ซึ่งหนุ่ม “จูเนียร์” ก็ยอมรับว่าไม่ง่ายสำหรับหนุ่มสไตล์คอมมาดี้แบบเจ้าตัวเลยสักนิด รวมไปถึงอุปสรรคทางด้านภาษาจีนที่เจ้าตุวถึงกับโอดว่ายากกว่าสอบปลายภาค ไปฟังจากปากของเขาถึงคาแรกเตอร์นี้ด้วยกัน

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

         สำหรับผลงานละคร “กาหลมหรทึก” ตนรับบทบาท “อาไช้” เป็นพนักงานในร้านอาหารจีน เป็นบทที่สนิทกับ “เจษฎ์พิพัฒ” หรือ “อาเต็ง” ในเรื่องที่เข้ามาเป็นพนักงานใหม่  และตัวเต็งจะมีคดีผูกพันธ์กับ “เฌอเบลล์” หรือ “กิมท้อ” ในคดีที่ 3 เราก็เป็นเพื่อนสนิทกับ “อาเต็ง” คนที่ไม่มีใครสนิทด้วย แล้ววันนึง “อาเต็ง” หายไป ตำรวจเลยมาถามเราว่า “อาเต็ง” หายไปได้ยังไง 

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

         ส่วนบทบาทที่ท้าทายของตนคือ เนื้อเรื่องในละครเป็นละครพีเรียด ย้อนยุค และมีต้องพูดสำเนียงจีน คือเราเป็นคนที่ติดคอมมาดี้ ไม่อยากให้มันเป็นบทที่ตลก แถมในเรื่องมีต้องพูดเป็นจีนแต๊จิ๋วด้วย ซึ่งเราก็ไม่ได้เลยทั้งจีนกลางและจีนแต้จิ๋ว ถึงหน้าเราจะออกจีน แต่เราพูดไม่ได้เลย บทที่ให้เราเล่นมีเปลี่ยนหน้าเซ็ตเลย ก็มีคุณครูมาสอนให้พูด ซึ่งก็ยากมาก แต่ผ่านไปได้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าดีแค่ไหนแต่ก็ทำสุดความสามารถแล้ว เราไปรับเชิญประมาณ 3 ตอน ความท้าทายกับเรื่องนี้ก็เป็นภาษาจีนนี่แหละ ถ้าเป็นภาษาไทยก็ไม่ยาก เป็นธรรมชาติ แต่ภาษาจีนที่เราไม่รู้จักภาษา ทุกคำก็ต้องให้ครูแปลให้ว่าพูดว่าอะไร เพราะไม่งั้นเราพูดสื่อออกไปมันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีอารมณ์ คนจีนที่เขาดูอยู่ก็จะรู้เลยว่าคนแสดงไม่ใส่ใจในการแสดง

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

         นอกจากนั้นความที่เป็นพีเรียดก็เล่นไม่ง่าย ด้วยความที่เราเป็นคนสมัยใหม่ เราก็จะคิดเร็ว พูดเร็ว แต่พีเรียดทุกอย่างมันแตกต่างจากปัจจุบัน มันมีคำบางคำที่เราก็ไม่ได้ใช้กันแล้ว ทุกอย่างมันเปลี่ยนหมด เราต้องเบรกคำเชื่อมที่ทุกวันนี้เราใช้ทิ้งหมดเลย เข้าฉากก็ต้องมีสติกับพีเรียด ถ้าให้เปรียบเทียบละครแนวพีเรียดกับปัจจุบัน เราก็ว่าปัจจุบันมันง่ายกว่า แต่จริงๆ ทุกบทก็มีความยากของมัน ไม่ได้เป็นตัวเราไปทั้งหมด พีเรียดต้องนับถือดารารุ่นใหญ่ที่เขาเล่นจริงๆ บางคนเป๊ะทุกสคริปต์ ทั้งไดอาล็อก กิริยา ทุกอย่าง สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีดาราผู้ใหญ่มาเทรนด์ให้เป็นพิเศษ เพราะว่าเราก็เข้าฉากกับดารารุ่นใหม่หมดเลย “เจษ”และ “เฌอเบลล์” ถ้าโตหน่อยก็เป็น “พี่ป้อง” เขาก็ช่วยให้กำลังใจเวลาเราพูดผิดก็มีบอกให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ พีเรียดมันจะช้าหน่อย แต่อย่าง “พ้อยท์” เล่นคู่ “พี่ป้อง” ตลอด เขาก็จะมีคำพูดที่ติด เช่นคำว่าอ่ะ ก็พูดตลอด พี่เขาก็ช่วยโค้ชตลอด และต่อจากเรื่องนี้ก็มีถ่ายพีเรียดอีกเรื่อง อย่าง “วิมานดวงดาว” เรื่องนี้ย้อนไปประมาณ พ.ศ. 2485 มีทรงผมแบบwet look ปาดเนี้ยบตลอด แสดงเป็นนักแสดงเอ็กซ์ตร้าที่อยากเป็นนักแสดงหลัก ก็จะเห็นความทะเยอทยานของตัวละครนี้ มันก็สนุกดี แต่ก็ยากที่ความเป็นพีเรียด แตเรื่องนี้เราเป็นตัวคอมมาดี้ ก็ต้องสนุกแต่เป็นพีเรียด จังหวะปกติที่เราเล่นกัน คอมมาดี้มันก็ง่าย แต่พอเป็นพีเรียดคอมมาดี้ มันก็จะโอเวอร์ คนยุคนี้อาจจะไม่เก็ตกับบางมุก ยาก แต่ก็ต้องทำให้ได้ ติดตามชมทางไลน์ทีวี ในเร็วๆ นี้

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

จูเนียร์ กรวิชญ์ กาหลมหรทึก พีเรียด

Comments